Stop Hunt เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นและเทรดเดอร์ต้องเจอ เพราะเป็นสิ่งที่ขาใหญ่ทำเพื่อหา liquidity ทั้งในการเข้าเทรดและออกเทรด Oanda Order Book ไม่ได้แค่บอกเรื่องของ Sentiment อย่างเดียวตามที่อธิบายมา ยังบอกถึงว่ามีการถือ Positions ตรงไหนมากด้วย ช่วยให้เรารู้ว่าเทรดเดอร์ที่ถือ Positions ถืออยู่ตรงไหนมาก นอกจากนั้นยังบอกถึง Open Orders ส่วนที่เป็น pending orders คือส่วนของ Sell Limit, Buy Limit, Sell Stop, Buy Stop , Take Profit และ Stop loss ด้วยว่าอยู่ตรงไหน ด้วยการอ่านข้อมูลจาก Order Book ทำให้เราหาพื้นที่ Stop Hunt ได้ง่าย และที่สำคัญเป็นการหาแบบมีหลักฐานมาประกอบบางส่วนจากสิ่งที่เห็น ไม่ได้แค่มาจากหลักการเท่านั้น

Open Orders ช่วยหาพื้นที่ Stop Hunt ได้ง่าย


จุดประสงค์หลักของ Stop hunt คือการที่มีการล่าหรือใช้ประโยชน์จาก stop orders (เป็นการเรียกรวมระหว่าง stop loss orders และ buy/sell stop orders) เพื่อหา Liquidity ฝั่งตรงข้าม เพื่อเข้าเทรดที่ราคาดีกว่าหรือเร่งราคาไปทางที่ต้องการ เพราะ liquidity ที่มีจาก stop orders เป็นประเภทที่จัดการได้ง่ายและหาได้ง่ายเพราะมีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว แค่หาว่าอยู่ตรงไหน และเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร การเรียก Stop Hunt อาจได้ยินหลายชื่อเรียกเช่น Liquidity Hunt, False Breakout หรือ Bull/Bear Trap เพราะ stop orders คือออเดอร์ที่มีการกำหนดเงื่อนไขราคาเข้าไป ถ้าราคาตลาดหรือ market price วิ่งไปแตะออเดอร์พวกนี้ก็จะทำงานกลายมาเป็น market orders ทันที เป็นการทำงานเองโดยตลาดไม่ยุ่งเกี่ยวกับเทรดเดอร์ ต่างจากตอนที่เราเปิดเทรด แม้ว่าการเปิดเทรดเองเป็น Market Order ด้วยการเปิดเทรด Sell หรือ Buy ณ ราคาตลาดหรือราคาปัจจุบัน แต่เทรดเดอร์อาจไม่เปิดเทรดก็ได้ แต่ถ้าเป็น Stop orders (stop loss orders และ buy/sell stop orders) ต่างออกไปเป็น pending orders ที่มีการกำหนดเงื่อนไขราคาเข้าไปแล้วกำหนดออเดอร์ไว้ที่ตลาด ดังนั้นถ้าราคาไปถึง มีทางเดียวคือออเดอร์ต้องทำงานทันที

ภาพชาร์ตทองด้านบนเป็นการอธิบายด้วย Oanda Order Book เวอร์ชั่นสำหรับ Metatrader 4 เพราะมีการนำเสนอสัดส่วนของ Orders และ Positions เป็นภาพหรือ Histrogram เข้ากับชาร์ตทอง ทำให้เราเห็นพื้นที่ว่า Orders และ Positions ที่ลูกค้า Oanda ถืออยู่ตรงไหน และมีการกำหนด Pending Orders ตรงไหนได้เลย เมื่อเราใช้ Order Book เลยทำให้เราหาพื้นที่ Stop orders จากที่เห็นได้ง่าย ไม่ได้แค่คิดเอาเอง

ดูชาร์ตทองทางซ้ายมือ ที่เป็นส่วนของ Open Orders ที่เราต้องการหาว่ามีการกำหนด Stop Orders ตรงไหนมากบ้าง ด้วยการดู Histrogram ที่ยื่นออกมา และกองหรือ clustering อยู่พื้นที่เดียวกันมากตรงไหน เพราะบอกถึงสัดส่วนของ ออเดอร์มากอยู่ตรงนั้น เราก็ดูราคาตลาดหรือ market price อยู่ที่ 1735 ตามที่อธิบายในบทความก่อน ส่วนด้านซ้ายที่เหนือราคา Bid เป็น Sell Limit และ Take Profit (ของ long positions ของ Open Positions ทางขวามือที่ต่ำกว่าราคา Bid กำลังกำไรตอนนี้) และด้านบนเป็น Stop loss ของเทรดเดอร์ที่ติดลบในส่วนของ Open Positions ที่บอกว่า Short positions in loss และก็จะมีอีกส่วนที่เทรดแบบ Breakout ก็จะหันมากำหนด Buy stop orders เข้าไปพื้นที่เดียวกันด้วย จะเห็นว่าตั้งแต่ 1740 ขึ้นไปถึง 1750 มีส่วนของ Histrogram ยื่นออกมาเยอะมาก 3 จุดหลักๆ และยังมี cluster กองกันมากมายอีก บอกว่ามี Liquidity ที่จะมาจาก stop orders ตรงนี้มาก ถ้าราคาตลาดไปแตะก็มีความเป็นไปได้ที่จะดันราคาทองขึ้นเร็ว ดูทางซ้ายมือที่เป็นตัวต้านทานหรือ Sell Limit และ Take Profit ที่จะทำให้เกิด Sell market orders เทียบกันแล้วน้อยกว่าเยอะ มีที่พอๆ กันเมื่อมองด้วยสายตาอยู่ที่ 1750 ที่น่าจะพอหยุดราคาได้ ณ ตอนที่ดู Order Book ตอนนี้

เมื่อมองเรื่องของ Sentiment ประกอบที่บอกว่า Order Book เป็นทูลบอกเรื่องนี้ และยังบอกมากกว่าด้วยตามที่อธิบายมา ในส่วนของ Order Book สำหรับ Metatrader มีการบอกสัดส่วน Long Postions/Short Positions ด้วย มีการถือ Long Positons ที่ 57.0% และถือ Short Positions ที่ 43.0% ดังนั้น Sentiment ทองตอนนี้เป็น Bullish ดังนั้นถ้าราคาขึ้นไปไม่ย่อตัวลงมากต่ำกว่ากรอบ consolidation ขึ้นไปแต่พื้นที่เริ่มต้นของ Stop orders ด้านบนได้ ก็จะทำให้ราคาทองขึ้นไปถึง 1750 ได้ง่ายเพราะ stop orders พวกนี้จะเป็นตัวเร่ง กรณีนี้ก็จะเห็นการดันราคาไปแตะ stop orders เพื่อเร่งราคาไปทางที่ต้องการให้ทำกำไรได้มากขึ้น

กรณีที่ 2 เป็นการใช้ Stop orders (ตอนนี้เรียก Stop orders หมายถึง stop loss orders และ buy/sell stop orders)   เพื่อเข้าเทรดที่ราคาดีกว่า เพราะต้องไม่ลืมว่าราคาวิ่งไปทางใดทางหนึ่งได้เพราะความไม่สมดุลย์หรือ imbalance เกิดขึ้น และมีแต่ขาใหญ่เท่านั้นที่เทรดด้วยวอลลูมเยอะ และมากพอที่จะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์เกิดขึ้นได้ตามที่พวกเขาต้องการ แต่การเทรดจะเกิดขึ้นได้ และได้ตำแหน่ง ณ ราคาที่พวกเขาต้องการนั้น พวกเขาต้องมั่นใจว่ามีออเดอร์ตรงข้ามอยู่ตรงไหน นั่นคือมี liquidity ฝั่งตรงข้ามอยู่ตรงไหน stop orders เมื่อมีการกำหนดขึ้นเป็นการเพิ่ม liquidity เข้าตลาดตรงนั้นๆ ดังนั้น Stop Hunt หรือ Liquidity Hunt จึงจำเป็นสำหรับพวกเขา


จากภาพเดียวกัน ถ้าราคาดันลงมา ดูพื้นที่เลข 1 และ 2 คือพื้นที่มีสัดส่วน Stop Orders มากจากราคาปัจจุบัน และมองด้าน Limit orders ก็มีสัดส่วนมากเช่นกันแต่ก็จะต่ำกว่า Stop Orders เล็กน้อยทั้ง 2 จุด เมื่อมองมุมเรื่อง Stop Hunt ของขาใหญ่และด้วยการมอง Order Book ประกอบ ถ้าราคาดันลงมาจะมี Stop orders ที่เลข 1 เป็นตัวดันลง และมีพื้นที่ Support ที่จุดแรกหรือต่ำกว่ากรอบ 1720 คือพื้นที่น่าเข้าเทรด ตรงนี้ถ้าเห็นเป็นหางบาร์ยาวๆ Pin Bar หรือ Engulfing Bar เกิดขึ้นแล้วดันกลับ ก็จะเปิดโอกาสให้เทรดตามหลักการ Stop Hunt ได้ทันที หรือที่เลข 2 ก็หลักการเดียวกัน

ดังนั้น การใช้ Oanda Order Book ช่วยให้ท่านหาพื้นที่ Stop orders ได้ง่ายและมีหลักฐานจากข้อมูลของตลาดบางส่วนจากลูกค้า Oanda ทั่วโลก การใช้ทูลนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจว่าขาใหญ่หาและใช้ Stop hunt อย่างไรและที่ไหน ท่านสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับกลยุทธ์การเทรดทองของท่านแบบขาใหญ่ได้