Chart of the Day : EUR/JPY

30 เม.ย.63
ดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยตัวเลขดัชนี US Dollar index (DXY) ตกลงมา 0.3% อยู่ที่ 99.565 (จากเดิม 99.865) แต่ยังคงแข็งค่าเหนือจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 99.44 หลังจาก Fed ประกาศว่าจะใช้มาตรการเดิมต่อไปจนกว่าจะมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยปัจจุบันดัชนีความผันผวน หรือ Volatility Index (VIX) ได้ลดลงจาก 33.57 เหลือ 31.23 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงมีทิศทางไม่ชัดเจน เนื่องจากความไม่แน่นอนของแนวนโยบายในอนาคตของ Fed

ส่วนในวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล (PCE), อัตรารายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล, ผลประกอบการของบริษัทในกลุ่ม S&P 500, อัตราค่าจ้างแรงงาน, และอัตราการว่างงาน ซึ่งตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีจำนวนผู้แจ้งสถานะว่างงานแล้วถึง 26.45 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตำแหน่งงานใหม่ 22.442 ล้านตำแหน่ง นับสะสมตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2552 ถึง เดือน ก.พ. ปี 2563   

นอกจากนี้ ECB จะชี้แจงการดำเนินมาตรการรับซื้อทรัพย์สินเป็นการเร่งด่วน  หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme—PEPP ซึ่งคาดว่าจะใช้วงเงินงบประมาณราว 750,000 ล้านยูโร จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงวิกฤตของสถานการณ์ COVID-19

ทั้งนี้ สกุลเงินเยน JPY ยังมีแนวโน้มแข็งค่า แม้ดัชนีค้าปลีกและดัชนีอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน มี.ค.63 จะหดตัวลง (ส่วนดัชนีการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์, ตัวเลขยอดขายบ้าน, ตัวเลขคำสั่งซื้อในภาคธุรกิจการก่อสร้าง, และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะมีการประกาศในวันนี้)

สำหรับกราฟ EUR/JPY เกิดสัญญาณราคาแบบ descending wedge (สามเหลี่ยมแหลมลง) โดยมีทิศทางไปยังบริเวณแนวรับ 115.50 ซึ่งเป็นจุด pivot point รวมทั้งเป็นจุดต่ำสุดของปีที่แล้ว ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ตลาดจะกลับแนวโน้มเป็นขาขึ้น หากสามารถแข็งค่าได้มากกว่า 116 (ระดับ volume weighted average price—VWAP) แล้วขึ้นต่อไปถึงแนวต้าน 118-120

อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณเทขายหนาแน่นที่ 118 ก็จะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาทดสอบระดับ 114.30 ก่อนปรับฐานขึ้นใหม่