หลักการเทรดด้วยการ Correlation ระหว่างชาร์ตถือว่าเป็นวิธีการหา trade setup ที่มีความเป็นไปได้สูงมากและง่าย ถ้ารู้จักวิธีการว่าจะ Correlate อย่างไร การสัมพันธ์ต่างชาร์ตค่าเงินหรือกับสินค้าอย่างอื่น Dollar Index ที่เป็นตัวบอกการเคลื่อนไหวของค่าเงินเกี่ยวกับดอลลาร์ ก็จะสัมพันธ์กับค่าเงินที่เกี่ยวกับพวก USD เช่น EURUSD, GBPUSD, AUDUSD, USDJPY, USDCHF และ USDCAD เป็นต้น  ด้วยการสัมพันธ์อาจเป็นการดูความแข็งและอ่อนของค่าเงินนั้นๆ หรือเป็นการสัมพันธ์ price structure ที่เกิดขึ้นของแต่ละคู่เงินที่เกี่ยวกันค่าเงินนั้นๆ เกิดแบบเดียวกันหรือเปล่าค่อยหาโอกาสเทรดก็จะเป็นการเทรดที่เป็น impulsive move ยืนยันกันระหว่างชารต์ที่ต้องการสัมพันธ์กัน

เทรดด้วย Dollar Index


Currency Index คือตัวบอกการเคลื่อนไหวของค่าเงินนั้นๆ ที่เราสามารถเทรดได้เหมือนสินค้าอื่นๆ ได้ด้วย แต่ที่เทรดเดอร์นิยมกันเพื่อเป็นตัวช่วยกำหนดความแข็งหรืออ่อนของค่าเงินหรือ price structure ที่เกี่ยวกับค่าเงินนั้นๆ แล้วเทรดคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินนั้นๆ Dollar Index เป็นตัวอย่างที่ดีและเทรดเดอร์ใช้กันมาก และเทรดเดอร์ก็ใช้เป็นตัวช่วยในการเเทรดคู่เงินที่เกี่ยวกับ USD เช่น EURUSD, USDCHF, USDJPY เป็นต้น และหลายๆ โบรกเกอร์ก็มี Dollar Index ให้ลูกค้าเทรดหรือเอามาดู Correlation เพื่อช่วยกำหนด trade setup ได้  เช่นตัวอย่างด้านเป็นการ Correlation ด้วยหลักการมอง price structure ที่เกิดขึ้นเป็นไปลักษณะเดียวกันหรือเปล่า ทิศทางแล้วแต่ค่าเงิน USD กับค่าเงินอื่นทางไหน  ดูวงกลมของค่าเงิน USDCHF และ EURUSD แล้วมองมาทางขวาที่เป็น Dollar Index ดูสี่เหลี่ยมที่ราคาหยุดก่อนที่จะเบรคลงมาอย่างรวดเร็ว กลายมาเป็น Impulsive move มีการเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามด้วย มองมาที่ USDCHF ก็เกิดขึ้นเวลาและการเคลื่อนไหวแบบเดียวกันเลย และทางเดียวกันด้วย เพราะการเคลื่อนไหวไปทางเดียวกับ USDX มาดู EURUSD ที่มีค่าเงิน USD อยู่ด้านหลัง การดู Dollar Index หรือ USDX ต้องเกิดขึ้นทางตรงกันข้าม เวลาและลักษณะการเคลื่อนไหวแบบเดียวกันด้วย นี่คือการ Correlation ด้วยหลักการ price structure จะทำให้ท่านหาพื้นที่กำหนด trade setup ได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียคือราคาสามารถ Correlation ค่าเงินฝ่ายทาง USD เท่านั้นกับ Dollar Index  แต่ถ้าเราสามารถทำการ Correlation ได้ทั้ง 2 ข้าง ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้สูงขึ้นมาอีก

EURUSD = ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงิน EUR กับ USD


แต่ถ้าเรามีดรรชนีทั้ง 2 ค่าเงินมาเป็นตัวช่วยกรอง ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ขึ้นมาสูง ทั้งเรื่องของ price structure และจังหวะในการเข้าเทรดก็จะดีขึ้นด้วย ด้วยการใช้หลักการเดียวกันกับ Dollar Index ที่ใช้กับคู่เงินอื่นๆ แต่นี้เป็นการหาความสัมพันธ์เพื่อเทรด EURUSD เท่านั้นคือ หา Euro Index มาประกอบเท่านั้นเอง แต่ปัญหาคือหลายๆ โบรกเกอร์ไม่ได้มีข้อมูลตรงส่วน Euro Index ให้ แม้ว่าเราจะสามารถหาเทียบได้จาก Currency Futures แต่เราต้องเปิดบัญชีเทรดพวก Futures หรือ Options ในการเทรด ซึ่งบัญชีเทรดพวกนั้นเงื่อนไขการเทรดก็จะต่างจากไปจากการเทรดฟอเรกเยอะมาก ทั้งเรื่องของทุน เรื่องของการเฮด เรื่องของ leverage เป็นต้น แต่ล่าสุด Pepperstone ได้เริ่มนำเอา Currency Index อื่นๆ นอกจาก Dollar Index มาให้ลูกค้าเทรด ตอนนี้ที่เสนอผ่านบัญชีเทรด Metatrader 5 มี 3 รายการดรรชนีด้วยกันคือ Dollar Index (USDX), JPY Currency Index (JPX) และ EUR Currency Index (EURX) ในบทความนี้จะกล่าวแค่ USDX กลับ EURX (อีกบทความจะเป็น USDX กับ JPYX) ข้อดีคือเราสามารถ Correlation ทั้งการเคลื่อนไหวของค่าเงิน EUR ด้วย EURX และการเคลื่อนไหวของค่าเงิน USD ด้วย Dollar Index ทั้ง 2 ข้างพร้อมๆ กัน ทั้ง 2 ข้อมูลก็จะช่วยกรองและยืนยันสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับค่าเงิน EURUSD เลยช่วยให้ท่านหาโอกาสเทรดได้ง่ายขึ้น เรื่องของ correlation ก็จะมีความเป็นไปได้มากขึ้นเมื่อกำหนดตัวช่วยในการเทรด ไม่ใช่แค่ price structure แต่ยังเป็นการคาคว่าค่าเงิน EURUSD แข็งหรืออ่อนด้านไหนได้ง่ายขึ้นด้วย แต่แนะให้ท่านทำการ correlation ด้วย price structure ที่เกิดขึ้นจะดีกว่า เพราะบางทีถ้ามัวแต่ดูว่าค่าเงินนั้นๆ แข็งหรืออ่อนไป ถ้าไม่เข้าใจเรื่องของ price structure ที่เกิดจากการเข้าเทรดหรือการออกเทรดที่มากพอที่จะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์เกิดขึ้น แล้วดันราคาไปตามเทรนหรือเป็นช่วงย่อตัวทดสอบหรือ corrective move อาจทำให้ท่านเปิดเทรดช่วงราคาวิ่งไปมากแล้วได้ เพราะเรื่องของ strength หรือ weakness ก็จะดูจากออเดอร์ที่เปิดอยู่หรือ positions เป็นหลัก หลักการจะเป็นแบบเดียวกันกับการดูค่า Sentiment ของแต่ละค่าเงิน เมื่อเปิดอาจทำให้ราคาวิ่งสวนได้ ถ้าดูแค่ว่าค่าเงินนั้นแข็งหรืออ่อน อย่างเดียวถ้าไม่ดู Price structure ประกอบ

ตัวอย่างการหาจังหวะการเทรด EURUSD ด้วย EURX และ USDX


การเทรดด้วยการใช้ Metatrader 5 ของ Pepperstone แล้วเปิดส่วน Currency Index ตอนนี้มี 3 รายการคือ USDX, EURX และ JPX เปิดชาร์ต EURX, EURUSD และ USDX ขึ้นมา แล้วดูการเคลื่อนไหวทางแท่งเทียนเพื่อดู strength และ weakness ของค่าเงิน EURUSD ด้วยการดู  ดูที่เลข 1 จะเห็นว่าการเคลื่นไหวที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจาก Dollar Index เป็นหลักที่เกิด impulsive move การเทรดอาจไม่ชัดเจนถ้าเทียบกันกับ EURX แต่เนื่องด้วย USD เป็นค่าเงินที่มีการเทรดมาก กว่าค่าเงินอื่นๆ ท่านต้องให้น้ำหนักคู่เงินนี้เป็นพิเศษด้วย  และ price structure ที่เกิดกับ EURUSD ก็เป็นแบบลักษณะเดียวกับ Dollar Index ด้วย แต่ถ้าเทรดด้วย Correlation ท่านอาจไม่เทรดตรงจุดนี้เพราะ EURX ไม่ชัดเจนพอ เพราะเราต้องการการยืนยันจากทั้ง 2 ข้างเป็นหลัก เพื่อความเป็นไปได้สูง ดูที่เลข 2 เห็นโอกาสเกิดขึ้นชัด EURX และ EURUSD ราคาเบรค High ได้และ USDX เบรค Low ลงไปอีก สำคัญคือราคา rejection พร้อมๆ กันทั้ง 3 ชาร์ต EURX และ USDX ยืนยัน EURUSD พร้อมๆ กัน  เลยทำให้หาพื้นที่ trade setup และจังหวะเข้าได้ง่ายและรู้ว่าจะเปิดเทรดตอนไหนด้วย เลข 3 เป็นผลตามมา ก็มีลักษณะเดียวกับเลข 2 ที่มีการยืนยันที่ 2 ค่าดรรชนีพร้อมกัน