กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

เทคนิคการเทรด Forex ด้วยรูปแบบชาร์ต 1-2-3

  • 0 replies
  • 610 views
เทคนิคการเทรด Forex ด้วยรูปแบบชาร์ต 1-2-3
« เมื่อ: 06, มกราคม 2020, 06:52:36 PM »
เทคนิคการเทรด Forex ด้วยรูปแบบชาร์ต 1-2-3

การเข้าใจเรื่องออเดอร์ทำให้อ่าน chart patterns ต่างๆ  และหาจังหวะการเทรดง่าย ในที่นี้จะยกรูปแบบ 1-2-3 ที่ถือว่าเป็นรูปแบบง่ายสุดในการเทรด แต่หลักสำคัญของการที่ราคาไปทางใดทางหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าเกิดความไม่สมดุลย์ไปทางที่ท่านเปิดเทรดหรือเปล่า ดังนั้นการที่จะเปิดเทรดต้องเข้าใจเงื่อนไขที่จะทำให้เกิด market orders มากและต่อเนื่องพอที่จะดันราคาไปต่อทางที่ท่านเปิดเทรดได้อย่างไร ข้อดีของการเทรด chart patterns ต่างๆ คือเรื่องของ liquidity ที่เกิดขึ้นเพราะทั้งจากการเข้าเทรดและการออกจากการเทรดจากเทรดเดอร์ต่างๆ ที่สนใจ

รูปแบบ 1-2-3 กับการพัฒนาการเรื่องของ Swing Highs/Lows


การพัฒนาการของราคาที่ทำให้เกิดรูปแบบ swing อย่างในภาพประกอบ ราคาทำเทรนขึ้น สิ่งที่เห็นคือราคาต้องทำ Higher High ได้แล้วตามด้วย Higher Low และตามด้วย Higher High ใหม่อีกแบบนี้เรื่อยๆ ส่วนสำคัญสุดจะอยู่ที่ราคาเบรค High ได้และทำ High ใหม่และ Higher Low ต้องไม่โดนเบรคลงมา เพราะตราบใดที่ราคายังทำ New High ได้ด้วยการเบรคขึ้นไป ยังบอกถึงออเดอร์ที่เทรดเดอร์ยังอยากเทรดทางนั้นๆ ความไม่สมดุลย์ยังอยู่และมากพอที่จะดันราคาไปต่อได้เพราะการพัฒนาการเทรนได้สร้างแนวรับ-แนวต้านไปในตัวด้วยที่จุด swing high และ swing low  เลยต้องดูว่าราคามีการโต้ตอบจุดพวกนี้อย่างไร  อย่างภาพด้านบน ตรงที่เป็นจุด 1 ของรูปแบบ 1-2-3 คือจุดที่ราคาเบรค Higher Low นั้นเองด้วย Momentum ราคาได้ทำ Lower Low เป็นครั้งแรก และราคาย่อตัวกลับมาเทส ตรงต้นตอที่เกิดเลข 2 ขึ้น และทำ Lower High เกิดขึ้นมา ตอนราคาเบรคจุดที่เลข 2 ขึ้นมาหรือ Lower Low ที่เพิ่งทำไปลงมา นั่นคือที่ยืนยันว่ารูปแบบชาร์ต 1-2-3 เกิดขึ้น เลยเป็นพื้นที่ที่เทรดเดอร์สนใจที่จะเปิดเทรดตามเทรน  ท่านจะเห็นว่าส่วนสำคัญของรูปแบบ 1-2-3 คือ Breakout นั่นเองที่เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการ swing ที่อธิบายมา การเข้าใจเรื่อง swing จะทำให้ท่านอ่านรูปแบบ 1-2-3 เป็นและรู้ว่าจะเทรดตรงไหน

รูปแบบ 1-2-3 และเทรดเดอร์ที่เกี่ยวข้อง


การเข้าใจที่มาออเดอร์ประกอบจุดที่จะเปิดเทรดนั้นสำคัญ เพราะจะทำให้เห็นความเป็นไปได้ว่า market orders จะมาจากทางไหนมากกว่ากัน ดังนั้นออเดอร์ที่มาจาการเปิดเทรดเพราะข้อมูลที่เกิดขึ้น และมาจากเทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาดที่เปิดเทรดช่วงก่อนหรือช่วงที่จะกลายมาเป็นรูปแบบ 1-2-3 ล้วนมีผลหมด เพราะ market orders ไม่ได้มาจากแค่เปิดเทรดเพื่อเข้าตลาดอย่างเดียว แต่มาจากการออกจากตลาดด้วย โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เดือดร้อนจากข้อมูลใหม่ที่เกิดขึ้น การจำกัดความเสี่ยงเป็นเรื่องจำเป็น เลยทำให้เกิด market orders เยอะ จากที่กล่าวมาตอนแรกว่า ข้อดีของเรื่องการเทรด chart patterns ต่างๆ คือ ท่านจะได้เรื่องของ liquidity เยอะ เพราะเทรดเดอร์ทั้งจะเปิดเทรดและจัดการ positions ที่อยู่ในตลาดด้วย เทรดเดอร์หลักๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะมี trend traders ที่เทรดตามเทรน เทรดเดอร์ที่เทรดตอนราคาเบรคหรือ Breakout traders และเทรดเดอร์ที่เทรดสวนเทรนหรือ Contrarian traders และยังมีเทรดเดอร์ที่เปิดเทรดตอนราคาเกิดรูปแบบ 1-2-3 และเทรดเดอร์ที่จับคู่กับเทรดเดอร์ที่เปิดเทรดเพื่อเข้าตลาดด้วย (เพราะการเปิดเทรดจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีออเดอร์ตรงข้าม ณ ราคาที่ท่านเปิดเทรด)

Trade  setup สำหรับ 1-2-3


หลักการในการกำหนด trade setup คือเมื่อเห็นส่วนเลข 3 ได้มีการเบรคเกิดขึ้นเพื่อยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นที่เลข 1 ดังนั้นต้องตีความให้เป็นว่า ทำไมต้องเปิดเทรดให้สัมพันธ์กับเลข 1 เพราะเลข 1 ต้องการเป็น momentum หรือ impulsive move เป็นสำคัญเพราะบอกความไม่สมดุลย์บอกว่าขาใหญ่ต้องมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวราคาแน่ๆ การเบรค Low อีกรอบบอกว่าขาใหญ่ยังอยากดันราคาไปทางนั้นๆ จริง พอราคาเบรคเลยเป็นการยืนยันทันทีว่าขาใหญ่อยากดันราคาไปต่อ เทรดเดอร์ที่รอเข้าหรือ trend traders ก็ได้ที่จะเทรดตามเทรนที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์แบบ Breakout ก็ได้เปิดตั้งแต่ตอนที่ราคาเบรคและก็จะมีการกำหนดตรงพื้นที่ Low ตอนที่ราคากลับมาเทสอีก เทรดเดอร์ที่เทรดสวนเทรน ตอนที่ราคาทำ Low ตอนจบเลข 1 ถ้าไม่ได้ปิดตอนกำไร ลงมากลายเป็นติดลบ ก็จำต้องเริ่มหาทางจำกัดความเสี่ยงด้วยการกำหนด stop loss พื้นที่ด้านล่างของ Low เทรดเดอร์ที่จับคู่ช่วงที่ราคาดันขึ้นไปตอนย่อตัวเป็นกลุ่มเดียวกับ contrarian traders พอราคาเบรคคลงมายืนยัน รูปแบบ 1-2-3 กลายเป็นติดลบหรือ trapped traders ทันที เทรดเดอร์พวกนี้ก็จะจำต้องออกจากตลาดด้วยการกำหนด stop loss ส่วนมากก็จะอิงจุด low ที่ใกล้ที่สุด ก็จะเป็นหลักการเดียวกันกับ Breakout traders ที่รอเข้าพื้นที่เดียวกัน ดูบาร์ยาวๆ ที่เกิดขึ้นหลังราคาเบรค Low จะเห็นแท่งเทียนยาวๆ ตรงนั้น เพราะเงื่อนไขการออกจากตลาดด้วย stop loss  และการเข้าตลาดของ sell stop orders เป็นแบบเดียวกันคือแค่ราคาตลาดไปแตะ เป็นออเดอร์ที่ตลาดเปิดเทรดเองราคาเลยวิ่งเร็ว

การกำหนด stop loss ของการเปิดเทรดตาม 1-2-3 หลักการทั่วๆ ไปอยู่ที่จุด swing ที่จบเลข 2 และเริ่มเลข 3 แต่ถ้าเทรดเดอร์ต้องการให้กำหนด stop loss แคบลง ต้องการ price action ประกอบตรงจุดที่เปิด เช่นอย่างภาพที่บอกจุด sell ลงมาหลังจากที่เห็นแท่งเทียนยาวๆ เกิดขึ้น เป็นการยืนยัน timing ในการเข้าของขาใหญ่อีกรอบและการเริ่มออกจากตลาดของเทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาด ก็จะทำให้กำหนด stop loss แคบลงได้ แต่การกำหนด stop loss แคบๆ ก็มีข้อเสียคือ ขาใหญ่มักจะเด้งราคาไปล่า stop loss ของเทรดเดอร์ที่เทรดแบบนี้บ่อยๆ ก่อนดันราคาลงไปจริง ส่วนการกำหนด take profit ก็ดูพื้นที่ตรงข้ามที่เคยมีร่องรอยการเปิดเทรดมาก่อนของฝ่ายตรงข้าม