ตลาดฟอเรกแม้ว่าจะมีคู่งินให้เทรดหลากหลาย ถึง 24 ชั่วโมง 5 วัน แต่การแค่ต้องการเปิดเทรดได้ กับการเปิดเทรดที่มีความเป็นไปได้สูงด้วยมันต่างกัน เพราะการเปิดเทรดที่มีความเป็นไปได้สูง โอกาสที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้น 24 ชั่วโมง ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เพราะตลาดฟอเรกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องของ volatility ของแต่ละคู่เงิน แต่ละวันไม่เหมือนกัน ถ้ามองจากชาร์ตเปล่า จะออกมาว่าบางวันวิ่งแรง บางวันวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่ไปไหน ถ้าการเปิดเทรดในวันที่ราคาอยู่ในกรอบแคบๆหรือ sideway ก็จะทำให้เทรดเดอร์ที่เปิดเทรดเสียเปรียบตลาด พอยิ่งถือ position นานขึ้นความเป็นไปได้ยิ่งไม่ชัดเจน ยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นการรู้ว่าจะเทรดคู่ไหน เวลาไหน เป็นความจำเป็นขั้นแรกก่อนที่จะเปิดหรือเลือกเทรดแต่ละคู่เงิน

ความสัมพันธ์ของคู่เงินและช่วงตลาด


ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการเลือกเทรด GBPUSD โดยส่วนของ GBPUSD จะประกอบด้วย 2 ค่าเงินคือ GBP ของอังกฤษ และค่าเงิน USD ดอลลาร์ของอเมริกา ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องดูคือช่วงเวลาที่ตลาดค่าเงินนั้นๆ เปิด เมื่อเทียบกับช่วงตลาด จะเป็นช่วงตลาดยุโรปหรือลอนดอน และตลาดอเมริกา ถ้าไม่อยากเทียบช่วงเวลาแต่ละพื้นที่ วีธีการง่ายสุด ดูที่ข้อมูลของ forexfactory.com ตรงส่วนที่บอก Markets ก็จะแสดงช่วงตลาดของโลกหรือ Sessions พร้อมทั้งมีการแสดงเทียบเวลาประเทศไทยให้เลย GBP จะอยู่ช่วงตลาดลอนดอน เทียบเวลาบ้านเราเริ่มที่ 15.00-24.00  ส่วน USD จะอยู่ช่วงตลาด นิวยอร์ค เริ่มเวลาบ้านเรา 20.00-05.00 และช่วงที่เวลาทับกันที่ทั้ง 2 ตลาดเปิดเป็นเวลา 08.00-24.00 หรือถ้าเป็นค่าเงินที่เกี่ยวกับ JPY ของญี่ปุ่น ช่วงเวลาจะเริ่มที่ 07.00-16.00 บ้านเรา นี่คือสิ่งแรกที่ต้องดูว่าคู่เงินที่ท่านเลือกเทรดตลาดเปิดช่วงไหนบ้าง เพราะมีผลต่อ volatility ที่จะเกิดแต่ละวัน แต่ละช่วงที่ต่างกันออกไป

Volatility แต่ละช่วง market sessions

กล่าวถึง Volatility แบบง่ายสุดหมายถึงช่วงไหนของคู่เงินนั้นๆ ที่ท่านเลือกเทรด มีการเคลื่อนไหวมากพอที่จะเทรด เพราะท่านต้องไม่ลืมว่า เมื่อท่านเปิดเทรดสิ่งที่ต้องการคือราคาวิ่งไปทางใดทางหนึ่งในเวลาอันสั้น ท่านไม่ต้องการอยู่ในตลาดนาน เพราะยิ่งอยู่นานยิ่งเกิดความเสี่ยง ถ้าตลาดไม่วิ่งไปทางไหนก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เพราะความเป็นไปได้เริ่มลดลง ยิ่งเห็นราคาเริ่มวิ่งสวนท่านยิ่งไม่ดี ไม่มีเทรดเดอร์คนไหนต้องการอยู่ตลาดนานถ้าไม่ได้ถือกำไร ที่ราคาได้วิ่งมาแต่ต้น ถือรอให้ได้กำไรนาน  ยิ่งถ้าเปิดเทรดแล้วตลาดเข้าโหมด consolidation นานๆ ก็มักจะตามมาด้วย breakout


เช่นคู่เงินที่ยกมาประกอบคือ GBPUSD และได้กล่าวถึงความสำคัญของช่วงตลาดที่สัมพันธ์กับค่าเงินนั้นๆ เพราะมีผลต่อการเคลื่อนไหวที่เกิดแต่ละวัน หรือเรื่องของ Volatility ภาพด้านบนได้ใช้กำหนดช่วงตลาดไปที่ชาร์ตของ Metatrader 4 ก็จะประกอบด้วย 4 ช่วงหลักๆ ของตลาดหลักคือ Sydney, Tokyo, London และ New York ดูสิ่งที่ชาร์ตบอกเกี่ยวกับ Volatility ว่าเป็นอย่างไร แต่ละวันที่เปิดมาเริ่มด้วยตลาด Sydney ถ้าเทียบเวลาตามบ้านเราอย่างใน Forexfactory เริ่มดังนี้
Syndney เริ่มที่เวลา 05.00-14.00,  Tokyo เริ่มที่ 07.00-16.00, London ของตลาดยุโรป เริ่มที่ 15.00-24.00 และ New York ตลาดของอเมริกาเริ่มที่ 20.00-05.00 ดูอย่างวันที่แรกที่มีเลข 1 สีแดงด้านบน จะเห็นว่าช่วง Sydney วิ่งทั้งหมดแค่ 41 pips เอง จริงๆ ที่วิ่งเพราะมีช่วงตลาด Tokyo เปิดเข้ามาและตอนจะปิดตลาดเท่านั้นเอง ดูเทียบกันระหว่างวันที่ 1 2 และ 3 ดู ถ้าไม่นับช่วงก่อนที่ตลาด London จะเปิด เมื่อท่านดูแท่งเทียน ราคาจะวิ่งน้อย ส่วนมากจะ sideway เป็นหลัก เพราะ GBPUSD เกี่ยวกับค่าเงิน GBP ของอังกฤษที่ตลาดเปิดตอนลอนดอนเปิด เลยไปถึงตลาดอเมริกาเปิดมาอีก จนไปถึง 24.00 เวลาบ้านเรา แล้วลองดูส่วนที่เป็นช่วง London มาและช่วง New York ยิ่งเป็นช่วงที่ตลาดทั้ง 2 เปิดอยู่ยิ่งทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเยอะ ดูอย่าง pips ในวันที่ 1 วิ่งถึง 142 pips ในวันที่ 2 วิ่งถึง 101 pips และวันที่ 3 วิ่งถึง 127 pips สิ่งที่เห็นชัดๆ คือบาร์ยาวๆ ที่บอกถึง momentum ในการเข้าเทรด เลยเปิดโอกาสให้กำหนด trade setup เพื่อจะเทรดได้ง่าย

อะไรส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของ GBPUSD

นอกจากรู้เรื่องช่วงตลาดที่เกี่ยวกับคู่เงินที่จะเทรด และเข้าใจเรื่องของ volatility ที่เกิดแต่ละวันช่วงไหน และอย่างที่บอก แต่ละวันเกิดไม่เท่ากัน การเข้าใจมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว GBPUSD ก็จำเป็นอีกอย่าง เช่น

•   เศรษฐกิจทั้งของอเมริกาและอังกฤษ เช่นเมื่อเศรษฐกิจของอังกฤษดี ขณะที่ของอเมริกาแย่ลงก็ส่งผลต่อการขึ้นของ GBPUSD ที่ถือว่าเป็นข้อมูลพื้นฐาน เกี่ยวกับค่าเงินนั้นๆ

•   นโยบายของธนาคารกลางของอังกฤษและอเมริกา

•   การเมืองและรัฐบาลของอังกฤษและอเมิกา

•   ตัวเลขทางเศรษฐกิจของอังกฤษและอเมริกา  ตัวเลขหรือข่าวที่มีการประกาศช่วงไหนอย่างไร สามารถดูได้ที่ forexfactory เช่นกัน ข้อดีอีกอย่างของข้อมูลที่ forexfactory นอกจากบอกวันที่จะมีข่าวหรือตัวเลขแรงๆ กระทบต่อค่าเงิน ยังบอกถึงระดับของความกระทบและมีการพยากรณ์ประกอบด้วย และยังสามารถดูย้อนหลังได้ ท่านสามารถเอาข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วมาดูประกอบที่ชาร์ตได้ว่า ตัวเลขที่ออกมามีผลต่อการวิ่งของราคาอย่างไร

นี่คือขั้นตอนหลักๆ ในการที่จะเลือกว่าเทรดคู่เงินไหนดี เพราะแต่ละคู่เงินก็จะมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนคู่เงินอื่น  เพราะจะได้รู้ว่าแม้ว่าตลาดฟอเรกเปิดให้เทรด 24 ชั่วโมง 5 วัน แต่ไม่ได้หมายความว่าโอกาสที่จะทำให้เกิด trade setup เกิดขึ้นได้ตลอด ยิ่งแต่ละวันต่างกันออกไปอีกด้วย แต่ละคู่เงินก็ต่าง volatility ต่างกันออกไปอีกด้วย หลักการง่ายๆ อาจเลือกเทรดคู่เงินหลัก หรือที่โบรกเกอร์ส่วนมากจะเรียกว่า Major แล้วให้ดูเรื่องของช่วงตลาดประกอบเพื่อดูว่า volatility จะเกิดแต่ละวันช่วงไหน แล้วค่อยหาโอกาสกำหนด trade setup ที่สัมพันธ์กันได้