(Dec 16) รายงาน: 'เลือกตั้ง' จบ แต่ 'เบร็กซิต' ยังไม่จบ : นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน สามารถกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้เพราะได้สัญญาเอาไว้ว่าจะทำเรื่อง "เบร็กซิต" ให้เสร็จสิ้น แต่ผู้ลงคะแนนที่หวังว่าความวุ่นวายเรื่องเบร็กซิตจะจบลงอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะว่ามันอาจเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
ในขณะนี้จอห์นสันน่าจะสามารถทำให้สภาผ่านความเห็นชอบต่อข้อตกลงที่เขาได้ทำกับสหภาพยุโรป (อียู) ในเดือนตุลาคมได้แล้ว ดังนั้นอังกฤษจะได้ออกจากอียูในวันที่ 31 มกราคมปีหน้า
จากนั้นอังกฤษจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะกินเวลาไปจนปลายปี 2563 ซึ่งจอห์นสันบอกว่ามีเวลาเพียงพอที่จะเจรจาเรื่องความสัมพันธ์กับอียูใหม่ ซึ่งรวมถึงเรื่องการค้า
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่และนักการทูตอียู กล่าวว่า ปัญหาต่อไปจะอยู่ที่ประเด็นที่ติดขัดอยู่ ซึ่งอาจทำให้อังกฤษเดินสู่หน้าผา และจะออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงในหนึ่งปีจากนี้ไป
อียูหวังว่าจะเริ่มเจรจาการค้ากับอังกฤษภายในเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้เหลือเวลาแค่ 10 เดือนที่จะบรรลุข้อตกลงและทำให้รัฐบาลอังกฤษและอียูผ่านความเห็นชอบให้ได้
ข้อตกลงการค้ากับอียูมักใช้เวลาหลายปีจึงจะแล้วเสร็จ และมีเพียงไม่กี่คนในบรัสเซลส์ที่เชื่อว่าช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่านจะนานเพียงพอที่จะทำข้อตกลงกับอังกฤษได้
ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้อาจใช้เวลานานประมาณหนึ่งหรือสองปีได้ แต่รัฐบาลอังกฤษจะต้องขอขยายเวลาภายในปลายเดือนมิถุนายน
อียูยืนกรานว่าจะไม่ทำข้อตกลงการค้ากับอังกฤษโดยไม่มีเงื่อนไขที่รับประกันว่าจะมีการแข่งขันที่เป็นธรรม ข้อเรียกร้องของอียูจะโฟกัสไปที่มาตรฐานเรื่องแรงงานและสิ่งแวดล้อมและระเบียบในการให้ความช่วยเหลือของรัฐเพื่อสร้างความมั่นใจว่าอังกฤษจะไม่สามารถเสนอขายสินค้าในตลาดเดียวของอียูในราคาที่ต่ำอย่างไม่เป็นธรรม
นอกจากการผลักดันของจอห์นสันที่ต้องการให้ได้ข้อตกลงการค้าที่ไม่มีโควตาและไม่เก็บภาษีแล้ว อียูต้องการได้รับการรับประกันว่าจะไม่มีการทุ่มตลาด
ปัญหาของอังกฤษ คือ จะถูกกดดันให้ผ่อนคลายระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานเรื่องอาหารและการเกษตรเพื่อที่จะได้บรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ แต่การทำเช่นนั้นจะเป็นการข้ามเส้นสำหรับอียู ซึ่งจะต้องจำกัดการเข้าถึงตลาดของตนเอง เพื่อปกป้องผู้ผลิตของอียูเอง
เรื่อง "ประมง" ก็เป็นปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะว่าประเทศในอียูจะไม่สามารถทำประมงในน่านน้ำอังกฤษเหมือนที่ทำอยู่ในขณะนี้ได้ ทั้งสองฝ่ายน่าจะต้องเจรจาเรื่องโควตาในการทำประมงเหมือนที่อียูกับกับนอร์เวย์ในขณะนี้
เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมในอียูในปัจจุบันได้ข้ามพรมแดนหลายครั้งสำหรับผลิตภัณฑ์อย่างเช่นรถยนต์และยา การตกลงทำระเบียบที่แน่ชัดเพื่อกำหนดว่าผลิตภัณฑ์มาจากที่ใด และจะใช้ระเบียบใดในการเก็บภาษี ก็จะเป็นเรื่องยากเช่นกัน
อียูและอังกฤษได้ประกาศที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสำหรับคดีอาชญากรรม อย่างไรก็ตามการยอมรับขั้นตอนดังกล่าวกับประเทศที่สามได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความซับซ้อนและใช้เวลานานสำหรับอียู
นักการทูตอียู กล่าวว่า หลังจากที่ได้เสียงข้างมากในสภามาก จอห์นสันอาจจะใส่ใจน้อยลงต่อพวกสายแข็งในพรรคของเขาเองที่ต้องการให้อังกฤษแยกออกจากอียูอย่างเด็ดขาดเมื่อเขาเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคต
นอกจากนี้จอห์นสันอาจรู้สึกกดดันน้อยลงที่จะทำตามคำสัญญาก่อนการเลือกตั้งที่จะไม่ขยายเวลาในการเปลี่ยนผ่านไปหลังปี 2563
อย่างไรก็ดี หากจอห์นสันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูได้ภายในปลายปีหน้า และเขาไม่ยอมเจรจาเกินเส้นตายของเขาเอง ความล้มเหลวทางกฎหมายก็จะยังคงเป็นการแยกตัวออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง
Source: ข่าวหุ้น