เทคนิค การเทรด Forex ทำกำไรด้วย Fibonacci Retracements
การเทรดตามเทรนเป็นวิธีการที่เทรดเดอร์นิยมมากสุด การกำหนดเทรนต่างกันออกไปแล้วแต่วิธีการ เช่นดูเรื่องของการพัฒนาการ Swing Highs/Lows ที่เกิดขึ้นแต่ละช่วง price structure แล้วก็หาโอกาสเทรดตามเทรนนั้นๆ Fibonaccie Retracements เป็นทูลที่นิยมใช้กันมากอีกตัว และมีการนำไปประยุกต์กำหนดรูปแบบ chart pattern เช่นหลักการเทรด Gartley หรือ Harmonic ที่ใช้ Fibonacci เป็นตัวช่วยกำหนด ทูลนี้เป็นทูลช่วยในการเข้าเทรดจุดย่อตัวหรือ Retracement หรือ Pullback หรือตอนจบของ Corrective move
เข้าใจเรื่องของเทรนก่อนแล้วค่อยใช้ Fibonnaic Retracements สิ่งสำคัญก่อนที่จะใช้ Fibonacci Retracements เป็นต้องเข้าใจว่าเทรนเป็นอย่างไรก่อน เพราะว่า Fibo เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเทรดตามเทรน หรือแค่หาจุดย่อตัวเพื่อเทรดตามเทรนเป็นหลัก ถือว่าเป็นการเทรดแนวรับ-แนวต้าน หรือSupport หรือ Resistance ที่เกิดขึ้นอัตโนมัติตามเทรนที่เกิดขึ้น หลักสำคัญการกำหนดเทรนเช่นด้วย Swing Higs/Lows เช่นเทรนขาขึ้น สิ่งที่เห็นคือราคาต้องทำ Higher High ตามด้วย Higher Lows ตามด้วยการเบรค High เป็นการทำ Higher High อีกรอบ และตามด้วย Higher Low ที่ต้องไม่สามารถเบรค Low ก่อนได้ ทำต่อเนื่องกัน อย่างเช่นภาพด้านบนเป็นเทรนลง ท่านต้องการเทรดการย่อตัวของเทรนลง วิธีการคือกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดจบของเทรนที่ท่านต้องการกำหนดหา Retracement หรือ Resistance เมื่อใช้ Fibonacci Retracement ท่านก็กำหนดจุด Highest เป็นจุดแรก และจุดต่ำสุด หรือ Lowest เป็นจุดที่สองเพื่อลาก Fibonacci ตามเทรน ก็ลากแบบ trendline จากจุด Highest ลงไปหาจุด Lowest และ ทูลก็จะแสดงระดับหรือตัวเลขการย่อตัว Retracements ที่เป็นค่า defaults ให้มาเองที่เป็นตัวเลขจากค่าที่นิยมกันในการเทรด Fibonacci Retracements
ลาก Fibonacci Retracements อย่างไร สำหรับ Metatrader ใช้ทูล "Draw Fibonacci retracment" เพื่อสร้าง การที่จะลาก Fibonacci Retracements ต้องมาจากการกำหนดเทรน ดูจุด swing highs/lows แล้วเริ่มลากเส้นเทรนของ Fibonacci จากจุดเริ่มต้นของเทรนไปสุดจบเทรน เช่นเทรนขาลง ท่านลากจากส่วน Highest ที่เลข 1 ลงไปหาส่วน Lowest ที่เลข 2 ตัวทูลก็จะแสดงค่า Retracements หรือตัวเลขย่อตัวของ Fibonacci ที่นิยมกัน 23.6% 38.2% 50.0% 61.8% 76.4% 78.6% (ส่วยขยายเกิน 127% 161.8%) หลักการเบื้องต้นในการดูแนวรับ-แนวต้าน จากการย่อตัว ต้องดูจากเทรนเป็นหลักว่าเทรนแรงขนาดไหน ถ้าเทรนแรงมากการย่อตัวก็น้อย แต่ส่วนมากจะไม่เปิด 78.6 เพราะถ้าดันขึ้นไปถึงต้นตอเทรนได้แสดงว่าเทรนเริ่มไม่แข็ง โอกาสการย่อตัวจะยากขึ้น แต่ต้องดูเรื่องของเทรนแบบ Multi-timeframe ประกอบ หรือเทรนที่เห็นขึ้นของเทรนที่กำหนด ดังนั้นการลากเส้น Fibonacci Retracents ทำได้ง่าย เมื่อท่านกำหนดเทรนเป็น แค่หาจุดต้นตอและจบเทรนเป็นช่วงๆ แล้วใช้ Fibonacci retracment ทูลจากจากต้นตอไปจบเทรน เทรนลงท่านก็ลากจากส่วน Highest ลงไปหา Lowest เทรนขึ้นท่านก็ลาก Lowest ไปหา Highest แล้วโปรแกรมก็จะตีค่า Retracement levels สำคัญให้ หรือท่านอาจกำหนดเองก็ได้
Momentum หรือ Impulsive move กับ Fibonacci Retracements ต่อเนื่องจากเรื่องของเทรน จะเห็นว่าส่วนสำคัญของเทรนคือการที่ราคาเบรคแล้วไปต่อ เช่นเทรนขาขึ้น ท่านต้องเห็นราคาเบรค High ใกล้สุดหรือ Higher High อาจประยุกต์ย่อยลงมาเพื่อหาจุดเข้าเทรด Retracement แต่ละช่วงได้ โดยเฉพาะหลักการนี้ใช้กับ timeframe ใหญ่เช่น H4 หรือ D1 ไม่กี่แท่งเทียนจะเปิดโอกาสให้เทรดตาม Momentum ได้ง่ายและเร็วไม่รอนาน เพราะ Momentum หรือ Impulsive move คือร่องรอยที่ชัดเจนสุดว่าขาใหญ่เข้าเทรด และยิ่งเป็นร่องรอยไม่นาน หมายความว่าท่านได้เทรดกับ Momentum ล่าสุดที่ขาใหญ่กำลังเทรดอยู่ สิ่งที่ตามมาคือเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับ trade setup และไม่รอนาน เพราะท่านเทรดกับสิ่งที่ขาใหญ่กำลังเทรดทางไหน Fibonacci Retracements จะช่วยให้ท่านหาจุดย่อตัว หรือเมื่อเห็นราคาจบ Corrective move
ควรจะเทรด Retracement ระดับไหนดีการใช้ Fibonacci Retracements เป็นการเทรดการย่อตัวของเทรน หรือแต่ละช่วงของเทรนคือ
Momentum หรือ Impulsive move ตามที่อธิบายมา หลักสำคัญคือเมื่อท่านกำหนด Fibo ท่านจะได้ระดับที่เรียกว่าเป็นแนวรับหรือแนวต้าน ตามตัวเลขการย่อตัวหรือ Retracement levels 23.6% 38.2% 50.0% 61.8% 76.4% 78.6% แต่คำถามอยู่ที่ว่าควรจะเทรด ที่ level ไหนดีเพราะตัวเลขมีเยอะ วิธีการที่ง่ายและได้ผลสุดให้ใช้เรื่องของ Confluence ด้าน technical analysis เข้ามาประกอบ เพราะแม้ว่าหลักการบอกว่าถ้าเทรนแรกย่อตัวไม่มาก เช่นที่ระดับ 38.8 หรือ 50.0 หรือ 61.8 ถือว่าย่อตัวมากสุด แต่ราคาหรือความไม่สมดุลย์ระหว่างออเดอร์ที่มาจาก sellers และ buyers ไม่รู้จักตัวเลขพวกนี้ ท่านต้องเข้าใจว่าออเดอร์ทำงานอย่างไร และอะไรทำให้เทรดเดอร์อยากเทรด หรือถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่แล้วจำต้องจัดการความเสี่ยงตัวเอง เพราะทั้ง 2 อย่างนี้ถ้าเกิดขึ้นที่เดียวกันและเป็นไปทางเดียวกัน จะทำให้เกิด Market Orders มากและต่อเนื่องทำให้เกิดความไม่สมดุลย์เกิดขึ้นอีกรอบ ก็จะเป็นการจบการย่อตัวและวิ่งไปตามเทรนต่อ อย่างในตัวอย่างภาพด้านบนที่ใช้ D1 และ H1 ประกอบกันเพื่อหาจุดเทรดย่อตัวด้วย Fibonacci จะเห็นว่าจุดที่ราคากลับเทรนหรือจบการย่อตัวอยู่ที่ระดับ 61.8 ท่านจะเห็นว่าเป็นระดับที่เป็น Swap level เป็นจุดที่ราคาเอาชนะฝั่งตรงข้าม และทำให้เทรดเดอร์ที่เปิด Buy ติดลบหมด เทรนหรือ momentum ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อมูลใหม่ เทรดเดอร์ที่รอเทรดตามขาใหญ่ก็เห็นว่าขาใหญ่เข้าเทรดตรงไหน เพราะ Impulsive move เกิดขึ้นเป็นการเอาชนะต้องเพราะขาใหญ่มีส่วนร่วมแน่นอน ก็จะได้ที่เข้าเทรดตาม ส่วนเทรดเดอร์ที่เทรดสวนขาใหญ่ก็ติดลบ พอราคากลับมา ถ้าราคาไม่ไปต่อ ก็จะออกเพื่อจำกัดความเสี่ยง นี่คือแหล่งที่มาหลักของ sell market orders ที่ระดับ 61.8 เลยทำให้ระดับ Fibonacci Retracement level ทำงานดี
Technical analysis ที่ใช้ประกอบมีหลายอย่างแล้วแต่เทรดเดอร์เลือกใช้ตามที่ถนัด เช่นหลักการแนวรรับ-แนวต้าน Demand/Supply, Round numbers หรือการยืนยันด้วย Indicators ต่างๆ