กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

เทคนิคการเทรด Divergence อย่างไรให้ได้กำไร

  • 0 replies
  • 1,400 views
เทคนิคการเทรด Divergence อย่างไรให้ได้กำไร
« เมื่อ: 09, ธันวาคม 2019, 08:01:19 PM »
เทคนิคการเทรด Divergence อย่างไรให้ได้กำไร

การเทรด Divergence หรือการหาสัญญาณที่บอกว่าราคาจะกลับตัว เป็นรูปแบบการเทรดอีกอย่างที่นิยมกันเพราะไม่ยาก แค่เข้าใจหลักการพัฒนาการของเทรนระหว่าง price ที่เกิดขึ้นที่ชาร์ตปล่าและใช้อินดิเคเตอร์เช่น RSI หรือ MACD ประกอบ  และมักจะใช้ประกอบกับพื้นที่เป็นแนวรับหรือแนวต้าน ที่คาดหวังการกลับตัวหรือเด้งของราคา หรืออาจเป็นพวก Supply/Demand หรือ pivots ที่ต้องการตรรกะเดียวกันในการกำหนด trade setup ที่คาดว่าราคาจะเด้งกลับ ตอนที่ราคามาถึงพื้นที่ของ Supply/Demand เป็นต้น

พัฒนาการของ Swings สำคัญต่อ Divergence อย่างไร


การพัฒนาการ swings เป็นสิ่งที่เห็นเมื่อราคาเกิดการเคลื่อนไหวทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจนเช่น ถ้าเป็นเทรนลงท่านต้องเห็นว่าราคาสามารถทำ Lower Low และตามด้วย Lower High เกิดขึ้นต่อเนื่องเลยบอกว่าเป็น Lower Lows ตามด้วย Lower Highs ในทางกลับกันสำหรับเทรนขาขึ้น ท่านต้องเห็นว่าราคาสามารถทำ Higher Highs ตามมาด้วย Higher Lows เพราะอย่างกรณีตามภาพประกอบ การที่ราคาสามารถทำ New Low ได้หรือจุดที่เป็น Lower Low ได้ท่านจะเห็นว่าราคาได้เอาชนะพื้นที่ๆ เป็นแนวรับ สะท้อนการเข้าเทรดของขาใหญ่ยังต้องการเทรดทางนั้นอยู่ และในโครงสร้างหลังจากราคาเบรคได้ ทำให้เกิด trapped traders และส่งข้อมูลใหม่ไปให้เทรดเดอร์ที่รอเข้าเทรดด้วย ในตัวอย่างใช้ MACD Histrogram ประกอบที่จะช่วยบอกเรื่องของ Divergence ด้วย  ท่านจะเห็นว่าราคายังทำ Lower Low ตามด้วย Lower High แต่ส่วนของ MACD กลับมาทำ Lower Low ได้ แต่ไม่สามารถทำ Higher Low ตรงพื้นที่ที่ชาร์ตทำ Lower Low ได้ สิ่งที่เห็นคือขัดแย้งกันระหว่าง price chart และอินดิเคเตอร์นี่คือวิธีการมองหาโอกาสในการเทรด Divergence

Bullish Divergence หรือ Bearish Divergence

ข้อดีอย่างของการเรียนรู้การเทรด เมื่อท่านเข้าใจตรรกะทางใดทางหนึ่ง ท่านก็แค่ประยุกต์ทิศทางที่ราคาวิ่งเข้าไป ท่านสามารถเรียนรู้อีกข้างได้ทันที Bullish Divergence หรือสัญญาณที่บอกว่าราคาจะกลับตัวขึ้น อย่างที่ยกตัวอย่างภาพประกอบ ถ้าเป็น Bearish Divergence ก็ทางตรงกันข้ามกัน หลักการแบบ Support ตรงข้าม Resistance หรือ Supply ตรงข้าม Demand เป็นต้น ทั้งชาร์ตและราคาก็จะทำงานตรงข้ามกันเท่านั้นเอง

เทรด Divergence ที่ไหน


เนื่องจาก Divergence เป็นเรื่องของสัญญาณการกลับตัวของราคา ดังนั้นพื้นที่การเทรดหลักๆ ก็จะเป็นแนวรับหรือ แนวต้านหรือ supply/demand ที่รวมไปถึงพวกที่เป็น swap level ทั้งหมดด้วย เช่นถ้าเป็นการเทรดอย่างภาพประกอบด้านบน ท่านจะเห็นว่าราคาได้พัฒนา swings ขาลงมาหาจุดที่เป็น support ดูตรงจุดที่บอกว่า Bullish Divergence พื้นที่นั้นราคาทำ Lower High และราคาเบรคลงมาทำ Lower Low ได้ แต่จุดที่เกิดขึ้นกลับเป็นที่พื้นที่ๆ เป็นแนวรับหรือ support หรือมองเป็น demand ก็ได้ แล้วแต่ตรรกะในการอธิบาย สรุปคือพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ราคาดันขึ้นไป และไม่เคยเบรคลงมาได้ โอกาสการเทรดเลยเกิดขึ้น หรือแม้แต่ราคากลับมาอีกรอบ หลังจากจุดที่บอก Bullish Divergence ท่านจะเห็นว่าโอกาสการเปิดเทรดเกิดขึ้นอีก เพราะหลังจากที่เกิด Bullish Divergence ราคาสามารถดันขึ้นไปทำ New High ได้ บอกว่าเทรนลงโดนเบรค เป็นสัญญาณใหม่ในการเปลี่ยนเทรน จากขาลงเป็นขาขึ้น ราคาทำ Higher High ได้ ถ้าทำ Higher Low ได้แล้วดันขึ้นไปทำ Higher High ใหม่อีกได้ ก็กลายเป็นการยืนยันว่าเทรนใหม่เกิดขึ้นทันที

เทรด Divergence ด้วย Multi-timeframe


วิธีการง่ายๆ ในการหาจุดเข้าเทรดเมื่อเข้าใจตรรกะและรูปร่างของ Bullish/Bearish Divergence ที่เกิดขึ้นคือการใช้หลาย timeframe ประกอบ หรือการเทรดแบบ multi-timeframe อย่างในตัวอย่าง trade setup เกิดขึ้นเมื่อเห็น Bullish Divergence ที่ H4 หลักการหาจุดเข้าเทรด ด้วยการมองหาโครงสร้างแบบเดียวกันใน timeframe ย่อยลงไป เช่นอย่างในที่นี้เปิด M30 ประกอบ ท่านจะเห็นภาพเดียวกัน คือมี Bullish Divergence เกิดขึ้นที่ M30 ด้วย timeframe ย่อย ก็จะยืนยัน timeframe ใหญ่ไปในตัว ในการเปิดเทรดเมื่อท่านเห็นราคาทำ New High ที่เป็นการเบรคเทรนใน M30 ขึ้นไปได้ แล้วท่านก็รอราคาย่อตัวลงมาค่อยเปิดเทรด

การเทรด Divergence ไม่ว่าจะเป็น Bullish Divergence หรือ Bearish Divergence สำคัญท่านต้องเข้าใจว่ามองอย่างไรให้เห็นก่อน ด้วยการดูการพัฒนาการของเทรนหรือ swings ต่างๆ ว่ามีผลต่อการทำเทรนอย่างไร และการที่ swing high หรือ swing low โดนเบรคเพราะจุด swing ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนราคาทำเทรน กลายเป็นแนวรับ-แนวต้านอัตโนมัติไปในตัว เช่นสำหรับขาขึ้น Higher High ตามด้วย Higher Low และตามด้วยการเบรค High ที่ทำขึ้นไปแล้วทำ Higher High ใหม่คือส่วนสำคัญ แต่ถ้าราคาไม่สามารถเบรค High ที่เพิ่งทำใหม่ได้ แต่ลงมาและเบรค Higher Low ที่เป็นแนวรับอัตโนมัติได้ ให้ท่านมองมาที่อินดิเคเตอร์ที่ประกอบพวก Divergence ท่านจะเห็นข้อมูลอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับ Divergence ทันที แล้วก็ดูว่าเป็นพื้นที่ๆ เป็นแนวรับ-แนวต้าน มีการล่า stop ประกอบเปล่ายิ่งดี ดูว่าทำไมเกิดการ stop hunting ประกอบ เพราะทุกอย่างคือแหล่งที่มาของออเดอร์ทางที่เปิดเทรดตาม Divergence ท่านต้องมองให้เห็นว่า เงื่อนไขการออกออเดอร์ไม่ว่าจะเป็นการเข้าตลาดเพื่อเทรดหรือการออกจากตลาดเพื่อจำกัดการสูญเสีย ต้องทำให้เกิดออเดอร์ทางที่เกิด Divergence เป็นหลัก


ตัวอย่างภาพนี้เป็นการใช้ RSI ประกอบจะเห็น Bearish Divergene เกิดที่แนวต้าน ที่มี 2 ตัวเหนือกันขึ้นไป ราคาเบรคแนวต้านแรกขึ้นไปหาแนวต้านบนเพื่อการ Stop hunting เข้าเทรดที่ดีกว่า จะเห็นว่าวงกลมหลังจากที่ราคายืนยัน Bearish Divergence กลายเป็นรูปแบบชาร์ต Head and Shoulders ด้วย เทรดเดอร์ที่เปิดผิดทางก็เริ่มเดือดร้อน เทรดเดอร์ที่รอเข้าไม่ว่าจะเป็นแนว Divergence หรือรูปแบบชาร์ต หรือแนวอื่นๆ ต่างได้เงื่อนไขที่จะเปิดออเดอร์ไปในทางเดียวกัน