โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมของตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2019
ถือเป็นวันศุกร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับสกุลเงินยูโรเมื่อมีคำแถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นางคริสติน ลาการ์ดและตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเดือนพฤศจิกายน นับตั้งแต่นางคริสติน ลาการ์ดเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรปต่อจากนายมาริโอ ดรากี เธอก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นโดยตรงกับนโยบายทางการเงิน อย่างไรก็ตามจากการประชุมครั้งล่าสุดทำให้เราได้ทราบว่าประธาน ECB คนใหม่ก็เป็นกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการหดตัวทางเศรษฐกิจของโลกอย่างที่ประธาน ECB คนก่อนก็เป็นห่วงในประเด็นนี้ว่าการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจำเป็นต้องทำอย่างยิ่งเพื่อรักษาสภาพเศรษฐกิจเอาไว้
คำถามที่สำคัญก็คือเธอคิดแบบนั้นจริงหรือไม่ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินนั้นจำเป็นจริงๆ ที่ผ่านมาประธาน ECB คนใหม่ไม่เคยให้ข้อมูลเชิงลึกมากนักเกี่ยวกับมุมมองของเธอที่มีต่อเศรษฐกิจและเลือกที่จะทิ้งความไม่มั่นใจและความไม่ชัดเจนนั้นไว้ให้กับนักลงทุน พวกเขาอาจต้องรอไปจนถึงการประชุมของธนาคารกลางที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามหากเธอใช้โอกาสที่จะต้องแถลงการณ์ในวันนี้เป็นโอกาสให้เธอได้แสดงจุดยืนและความคิดของเธอเอง มั่นใจได้เลยว่าเราจะได้เห็นปริมาณแรงซื้ออย่างมีนัยสำคัญที่จะเข้ามาในสกุลเงินยูโร ภาพรวมของการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจดันให้กราฟ EURUSD สามารถขึ้นไปยังระดับราคาที่ 1.10 โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตัวเลขดัชนี PMI ออกมาไม่ดีมากนัก
หากมีแรงซื้อที่มากพอ กราฟ EURUSD อาจสามารถขึ้นไปที่จุดสูงสุดของราคาในรอบสองสัปดาห์ของตัวเองซึ่งอยู่เหนือระดับราคา 1.11 แม้ว่าสกุลเงินยูโรในวันนี้จะมีปริมาณการเทรดอยู่ในระดับต่ำ แต่เพราะตัวเลขคาดการณ์ GDP ในเยอรมันที่สูงขึ้นทำให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนคิดว่าตัวเลขดัชนี PMI ในภาคการผลิตและบริการจะต้องดีขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าวันนี้คำพูดของนางคริสติน ลาการ์ดไม่มีนัยสำคัญใดเป็นพิเศษ กราฟ EURUSD อาจปรับตัวตามดัชนี PMI อย่างไรก็ตามเราหวังว่ากราฟ EURUSD จะเลือกหลุดจากกรอบของราคาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในขณะเดียวกันสกุลเงินแคนาดาดอลลาร์สามารถดีดตัวกลับขึ้นมากู้คืนในส่วนที่เสียไปกลับคืนมาได้เกือบหมดจากคำแถลงการณ์ของผู้ว่าธนาคารกลางแห่งแคนาดาอย่างนายสตีเฟ่น โปลอส เขารู้สึกว่าตอนนี้สถานการณ์ทางการเงินของแคนาดาอยู่ในจุดที่ดี แม้จะมีนโยบายออกมาใช้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวอยู่บ้างแต่ดูเหมือนว่าแผนการลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่ได้อยู่ในความคิดของธนาคารกลางแคนาดาเลย ทาง BoC เองมองไว้อยู่แล้วว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพวกเขายังคงได้ผลแต่ถึงอย่างนั้น BoC ก็จะไม่ประมาทกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เป็นอยู่ สำหรับวันนี้แคนาดามีข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าจับตามองอยู่คือตัวเลขยอดขายปลีกซึ่งถ้าตัวเลขออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ กราฟ USDCAD อาจวิ่งลงไปยังระดับราคา 1.32 ส่วนสถานการณ์ของสกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ยังคงคลุมเครือตามความไม่ชัดเจนของสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน นอกจากนี้ตัวเลขยอดผู้ใช้งานบัตรเครดิตในนิวซีแลนด์ยังลดลงมากกว่ายอดตัวเลขในเดือนตุลาคม
ถึงดูเหมือนว่าจะมีแรงซื้อขายอยู่มากในตลาดช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่การที่พฤติกรรมราคาของกราฟ USDJPY ไม่ขยับไปไหนกำลังบ่งบอกความจริงของตลาด แม้จีนจะเชิญตัวแทนเจรจาจากฝั่งสหรัฐฯ ไปประเทศจีนเพื่อพูดคุยและบรรลุข้อตกลงทางการค้าใน "ขั้นแรก" ให้ได้ แต่สหรัฐฯ ก็ทำให้นักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้งด้วยการผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงเกี่ยวกับสิทธิและประชาธิปไตย แม้ว่าทางการจีนจะขอให้สหรัฐฯ ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้แต่ดูเหมือนว่าทางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้สนใจ สถานการณ์นี้สร้างความตึงเครียดและเพิ่มความกดดันของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์สงครามการค้าฯ ในช่วงนี้อย่างมาก
เหตุผลที่เราไม่ได้เห็นแรงซื้อขายปริมาณมหาศาลในกราฟคู่สกุลเงิน USDJPY เพราะความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นถูกชดเชยด้วยข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าคาดการณ์จนทำให้ธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องอัดฉีดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก การที่ตัวเลขวัดดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟียดีดตัวกลับขึ้นมาในเดือนพฤศจิกายนแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตนั้นยังไม่ได้แย่อย่างที่นักลงทุนหรือนักวิเคราะห์กังวล
สถิติกองทุน SPDR
