กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

✅EUR/USD วิเคราะห์กราฟ FOREX จันทร์ 21 ตุลาคม 2562 บินต่อเนื่องเดินเครื่องไปดาวพลูโต^_^

  • 54 replies
  • 12,337 views
*

CASE Forex

  • 17,119
อ้างจาก: Money ที่ 21, ตุลาคม  2019, 03:16:33 PM
eu gu บินแบบเงิบกันทั้งโลก ทำไมทองไม่เทแรงๆแบบคู่นั้นบินบ้าง
นี้เรากำลังอยู่ในโลกเดียวกันเลยครับ ตอนนี้พี่ทองมองดีดเอาดีดเอาไม่ยอมลงซักที แต่คงสเตปเดิม ลากไปลากมาแล้วก็ดิ่งลงทันที ตอนหมดออเดอร์เหวี่ยง เก็บ SL แบบเคยๆๆ
"...มนุษย์บางคนมีปากเหมือนท่อไอเสีย
เขาจำเป็นต้องระบายของเสียในสมองออกมาทางปาก
ไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าได้
โปรดอย่ารับไอเสียจากท่อนั้นมาใส่ใจ
ไม่งั้นเราเองจะเป็นมะเร็ง..."

คิดเล่นๆ ลองดูวันที่ 31  หรือ วันที่ประกาศออก brexit

ตอนนี้ลูกมือ(เม่า)  รู้แล้วว่ามันต้องลงใช่ปะ  เราก็เก็ง sell ลงกันถูกทาง  คงมีเม่า(พวกเราด้วย) sell ดักกันมหาศาล

ไม่แน่มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้ คือ เป็นไปได้ใหมว่า เจ้ามือใหญ่ ถือโอกาส ทุ่มทุนปั่นกราฟ ให้มันขึ้นเพื่อกิน stoploss ก็เป็นได้นะ

อาจจะเป็น แบ้งค์ UK เองก็ได้ ที่ทุ่มทุนดักเอาเงินมาจ่ายค่าชดเชยออกจาก EU ก็เป็นได้ 555

มีใครพอจะมีข้อมูลสปายพี่จ๊อดบ้างครับแกเก็งอะไรอยู่


อ้างจาก: CAZE_Voiize ที่ 21, ตุลาคม  2019, 06:41:40 PM
อ้างจาก: Money ที่ 21, ตุลาคม  2019, 03:16:33 PM
eu gu บินแบบเงิบกันทั้งโลก ทำไมทองไม่เทแรงๆแบบคู่นั้นบินบ้าง
นี้เรากำลังอยู่ในโลกเดียวกันเลยครับ ตอนนี้พี่ทองมองดีดเอาดีดเอาไม่ยอมลงซักที แต่คงสเตปเดิม ลากไปลากมาแล้วก็ดิ่งลงทันที ตอนหมดออเดอร์เหวี่ยง เก็บ SL แบบเคยๆๆ
sell GJ แถว. 140.3 ตั้ง tp 139 ตอนนี้ ใกล้sl เต็มที มีโอกาสลงมั๊ยครับ



พอดีเห็นเขากำลังเทรดทอง เลยเอามาฝาก (ตอนที่โพสนี้นะ)




*

admin

  • 80,605
อ้างจาก: Kritplus ที่ 21, ตุลาคม  2019, 06:14:00 PM
กราฟวิ่งสมกับวันจันทร์จริงๆ  ))/* ))/*

นี่คือ signature ของวันจันทร์
Thor 1 xc8*
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

PoNgPk

  • 6,097
Disruption หรือการทำให้ธุรกิจดั้งเดิม "ล่มสลาย" โดยเทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็วที่เราพูดกันอยู่บ่อย ๆ ในปัจจุบันนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดมาในอดีตอันยาวนาน เพียงแต่ว่าความรวดเร็วของการเกิดขึ้นนั้น ในอดีตจะช้ากว่ามาก ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นสิบ ๆ ปีขึ้นไป "ธุรกิจเดิม" ที่ถูกทำลายนั้นบ่อยครั้งก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและเทคโนโลยีหรือแนวความคิดหรือวิธีการประกอบการแบบใหม่

ในช่วงเริ่มต้น บริษัทหรือกิจการที่ "ล่มสลาย" ก็จะเป็นผู้เล่นที่อ่อนแอ ต่อมาคนที่แข็งแรงกว่าก็ไปไม่ไหว และสุดท้าย แม้แต่ผู้นำอันดับหนึ่งที่เคย "ยิ่งใหญ่" ก็ปิดตัวลงหรือลดสถานะกลายเป็นธุรกิจ "ขนาดเล็ก" และเมื่อถึงวันนั้น "อาณาจักรก็ล่มสลายลง" เจ้าของธุรกิจที่เคยร่ำรวยและยิ่งใหญ่ในระดับประเทศเป็นที่รู้จักและนับถือของผู้คนรวมถึงผู้นำรัฐที่ปกครองประเทศก็มักจะต้องมาปรึกษาเวลามีประเด็นที่เกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจ ก็จะ "หมดวาสนาและบารมี" และค่อย ๆ เลือนหายไปจากวงสังคม "ไฮโซ" คนรุ่นใหม่ก็จะไม่รู้จักอีกต่อไปว่าครั้งหนึ่งเขาหรือครอบครัวนี้เคยร่ำรวยหรือยิ่งใหญ่ขนาดไหน

ด้วยเหตุผลที่อยู่มานาน ผมเองได้เห็นธุรกิจและกิจการจำนวนมากที่เคยยิ่งใหญ่แทบจะเป็น "อาณาจักร" ล่มสลายลง ในสมัยก่อนนั้นการล่มสลายก็มักจะเป็นไปอย่างช้า ๆ จนบางครั้งผมเองก็ลืมไปเลยว่าเมื่อหลายปีหรือหลายสิบปีก่อนบริษัทนี้และครอบครัวนี้เคยร่ำรวยและยิ่งใหญ่มาก มาตระหนักอีกทีก็พบว่า ตอนนี้พวกเขาไม่รวยและไม่ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีข่าวคราวว่าพวกเขาไปทำอะไรที่ไหน บางทีพวกเขาก็อาจจะยังร่ำรวยอยู่ก็ได้จาก "บุญเก่า" เช่นมีเงินทองทรัพย์สินที่เก็บไว้ตั้งแต่ครั้งยังรุ่งเรือง หรือบางทีก็ยังมีที่ดินกลางเมืองที่มีค่ามากที่พวกเขามักซื้อเก็บไว้เพื่อทำธุรกิจหรือสะสมไว้เฉย ๆ ในยามที่ยังร่ำรวยมีเงินทองเป็นมหาเศรษฐีในระดับประเทศ


เริ่มตั้งแต่อาณาจักรของคน "ขายทอง" ซึ่งผมรับรู้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กที่เศรษฐกิจไทยเพิ่งจะ "เริ่มพัฒนา" ในยุคนั้นธนาคารพาณิชย์เองก็เพิ่งจะตั้งขึ้นได้ไม่นาน คนที่จะมีเงินเก็บในธนาคารยังมีน้อยมาก คนส่วนใหญ่ของประเทศเวลามีเงินเหลือก็มักจะไปซื้อทองมาเก็บไว้เป็น "เงินออม" ที่จะถูกนำมาใช้ในเวลาที่จำเป็นหรือขัดสนซึ่งรวมถึงการนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนและหนังสือในยามเปิดเทอมของลูก ดังนั้น คนค้าทองจึงมีรายได้มากมาย เจ้าของร้านทองขนาดใหญ่ที่มักจะอยู่ย่านเยาวราชหรือสำเพ็งจึงร่ำรวยเป็น "มหาเศรษฐี" ของประเทศ

และนอกจากค้าขายทองแล้ว ก็มักจะมี "ข่าวลือ" ว่าบางรายก็ทำตัวเป็นโพยก๊วนรับโอนเงินระหว่างประเทศ บางทีก็บอกว่าเป็น เจ้ามือหวยใต้ดินรายใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร นี่คืออาณาจักรแรกที่ผมรู้จัก ผมจำไม่ได้แล้วว่าพวกเขา "ล่มสลาย" ไปตอนไหน แต่ตอนนี้คนค้าทองจริง ๆ ก็ไม่น่าจะรวยมากแล้วแม้ว่าปริมาณการค้าทองคำของพวกเขาบางคนจะสูงกว่าอดีตมากมายและทำผ่านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตทั้งในตลาดสป็อตหรือตลาดฟิวเจอร์

เมื่อบ้านเมืองเริ่มพัฒนาและคนเริ่มมีเงิน อานิสงค์จากการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศไทย อาณาจักรของคนค้าข้าวและโรงสีใหญ่ของประเทศก็เกิดขึ้น ตระกูลค้าข้าวที่ยิ่งใหญ่กลายเป็น "เซเล็บ" ที่โดดเด่นที่สุด คนของรัฐที่ดูแลทางด้านเศรษฐกิจจะต้องขอปรึกษาเวลาเศรษฐกิจดูมีปัญหา ต่อมาก็ตามด้วยธุรกิจผู้ผลิตน้ำตาลซึ่งเป็นโภคภัณฑ์สำคัญที่มักเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะในยามที่น้ำตาลมีราคาแพงและขาดแคลน และตามด้วยเรื่องของไก่ที่นับวันจะกลายเป็นอาหารหลักของคนไทย ตระกูลนักธุรกิจที่เป็นผู้นำในวงการเหล่านี้ต่างก็ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีในยามนั้น ทั้งหมดนั้นเดี๋ยวนี้แทบจะหมดบทบาทหรือลดความเป็นเซเล็บไปมากจนคนรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จัก ยกเว้นบางคนที่ปรับตัวหันมาทำธุรกิจอื่นและใหญ่โตขึ้น ซึ่งก็กลายเป็นมหาเศรษฐีในวงการใหม่ไปแล้ว

ต่อจากเรื่องของผู้ผลิตและค้าขายสินค้าทางการเกษตรก็คือเรื่องของผู้ค้าขายสินค้าอุปโภคที่เป็นสินค้าคงทนและมีราคาสูงในขณะนั้น เริ่มตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้นอานิสงค์จากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่ทำให้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น ผู้นำและตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะยี่ห้อญี่ปุ่นเช่น พัดลม วิทยุ ทีวี และเครื่องเสียงยี่ห้อนำ กลายเป็นคนรวยและเซเล็บระดับประเทศ เช่นเดียวกับผู้ขายนาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังทั้งจากยุโรปและญี่ปุ่นที่ร่ำรวยไม่น้อยถือเป็นมหาเศรษฐีเช่นเดียวกัน

แต่ที่น่าจะรวยที่สุดก็คือผู้ขายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาแพงที่สุดและคนไทยแทบทุกคนต่างก็อยากเป็นเจ้าของ ตระกูลผู้ขายรถยนต์ญี่ปุ่นและบางคนก็ขายรถหรูจากยุโรปนั้น แทบทุกตระกูลกลายเป็นเซเล็บค่อนข้างยาวนานจวบจนถึงปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งซึ่งทำลายความมั่งคั่งของพวกเขาแทบทั้งหมด ความเป็นเจ้าของธุรกิจตกกลับไปสู่มือของบริษัทผู้ผลิตรถในต่างประเทศ


วิกฤติเศรษฐกิจยังทำลายเจ้าของธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศที่เป็นเอกชนไปแทบทั้งหมด ก่อนหน้านั้นและย้อนหลังไปอีกหลายสิบปีในช่วงที่ผมยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เจ้าของธนาคารขนาดใหญ่คือสุดยอดมหาเศรษฐีตัวจริงที่มีบทบาทยิ่งใหญ่ตลอดมา แม้แต่ผู้บริหารของธนาคารเองนั้น บางคนก็ออกมาเป็นผู้นำทางการเมืองระดับ "ซาร์ทางเศรษฐกิจ" สมาคมธนาคารนั้นเป็นองค์กรที่คนในภาครัฐต้องขอคำแนะนำเวลาเศรษฐกิจมีปัญหา หลังจากวิกฤติ เจ้าของแบ้งค์ก็กลายเป็น "เจ้าสัวเยสเตอร์เดย์" เจ้าของธนาคารที่ยังรวยอยู่นั้นน่าจะนับคนได้ และพวกเขาก็ไม่ได้รวยจากแบ้งค์อีกต่อไปแล้ว

อาณาจักรของหนังสือพิมพ์และสื่ออื่นโดยเฉพาะทีวีที่เป็นผู้นำนั้น เคยรุ่งเรืองมากซึ่งทำให้เจ้าของนั้น นอกจากจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีระดับประเทศที่ทุกคนรู้จักและเจ้าของมี Power หรืออำนาจสูงมากในทางใดทางหนึ่งทั้งทางด้านการเมืองและสังคม เจ้าของหนังสือพิมพ์หรือแม้แต่คนเขียนและกองบรรณาธิการนั้น สามารถสร้างหรือทำลายใครต่อใครได้ง่าย ๆ รวมถึงผู้มีอำนาจทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ไม่ต้องพูดถึงดาราหนังที่จะต้องเอาอกเอาใจหรือไม่ไปขัดใจในสิ่งที่ถูกขอให้ทำ เจ้าของหรือผู้บริหารทีวีนั้นแทบจะเรียกว่าเป็น "จ้าวแม่" ของดาราและผู้จัดทำละครและคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย พูดอะไรหรือเตือนใครก็ต้องฟังและปฏิบัติตาม อาณาจักรของทั้งสองธุรกิจนี้ พูดได้ว่าล่มสลายไปแล้วจากเทคโนโลยีดิจิตอลและการเปิดเสรีทีวีที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความมั่งคั่งนั้นสูญไปเป็น "แสนล้านบาท" ไม่ต้องพูดถึงอำนาจที่หมดไปเกือบจะ "ชั่วข้ามคืน"

ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของอาณาจักรที่โดดเด่นที่ "ล่มสลายลง" และเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้นักธุรกิจซึ่งสำหรับผมแล้วก็รวมถึงนักลงทุนในตลาดหุ้นที่ต่างก็มี "อาณาจักร" ของตนเองด้วยว่า อย่าหลงระเริงไปกับความสำเร็จไม่ว่ามันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนในสายตาของเราหรือในสายตาของผู้คนในสังคม ความสำเร็จถ้าเกิดขึ้นแล้วและดำรงมาจนถึงจุดที่น่าพอใจนั้น สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือการปกป้องความมั่งคั่งและความยอมรับนับถือจากคนรอบข้างและสังคมมากกว่าการที่จะเร่งหรือเพิ่มความมั่งคั่งเพราะมั่นใจในความสำเร็จที่ผ่านมาในอดีต

ความมั่นใจในตนเองมากเกินไปนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดความล้มเหลวที่รุนแรงและทำให้เกิดการ "ล่มสลาย" ได้ และไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไรหรือทำอย่างไร วิกฤติหรือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่าง "สิ้นเชิง" โดยเฉพาะที่มาจากเทคโนโลยีนั้น ก็สามารถทำลายองค์กรของธุรกิจดั้งเดิมหรือคนลงทุนในตลาดหุ้นได้เสมอ ไม่มีใครสามารถป้องกันหรือทนทานได้ ดังนั้น นอกจากการคิดตระหนักถึงความเสี่ยงของตัวเราอย่างรอบคอบและหาทางป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว สวดมนต์ไว้บ้างก็ดีครับ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ThaiVI.org
TRADE RIDER

*

admin

  • 80,605
               
ข่าว forex กระทรวง Brexit แห่งสหราชอาณาจักรได้ยืนยันในวันนี้ว่า จะมีการออกร่างกฎหมายข้อตกลงของการถอนตัว (WAB) ภายในวันนี้ พร้อมกับพิจารณาการลงมติชี้ขาดข้อตกลง Brexit ภายในสภาสามัญชน

"ในสัปดาห์นี้บรรดาสมาชิกสส.มีโอกาสที่จะผลักดันร่างกฎหมาย เพื่อแสดงความเครพต่อผลการลงประชามติและเพื่อการถอนตัวออกตามกำหนดในวันที่ 31 ต.ค.อย่างเป็นมิตรและเป็นระเบียบเรียบร้อย"

จอห์น เบอร์โคว โฆษกสภาสามัญชนจะทำการตัดสินใจภายในวันนี้ว่า เขาจะอนุญาตให้มีการลงมติชี้ชะตาหรือไม่ แต่นอกเหนือจากการตัดสินใจของเขา ทางรัฐบาลก็มีแผนจะนำเสนอ WAB พร้อมการลงคะแนนเสียงรับร่างกฎหมายนี้อย่างเร็วที่สุดภายในวันอังคารนี้

               
แปลและเรียบเรียงโดย Traderider News
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

sanwat

  • 412
ทุบ EU ได้ไหมครับแอด

*

admin

  • 80,605
อ้างจาก: sanwat ที่ 21, ตุลาคม  2019, 10:23:11 PM
ทุบ EU ได้ไหมครับแอด

น่าจะลงมาได้อีกหน่อยนะครับ ก่อนดีดกลับ
**6105**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

อ้างจาก: admin ที่ 21, ตุลาคม  2019, 10:27:09 PM
อ้างจาก: sanwat ที่ 21, ตุลาคม  2019, 10:23:11 PM
ทุบ EU ได้ไหมครับแอด

น่าจะลงมาได้อีกหน่อยนะครับ ก่อนดีดกลับ
**6105**

ผมกำลังรอมันย่อแล้ว buy ขึ้นไปตามซิก

ทุบทองมันสุดแล้ว
นักเทรดที่ดีจะรู้จักประมาณตอน​ นักเทรดที่โลภระวังขี้พุ้ง555

*

admin

  • 80,605
อ้างจาก: Tom Jaturong Koosathain ที่ 21, ตุลาคม  2019, 10:42:34 PM
ทุบทองมันสุดแล้ว

ดีใจด้วย แนวนี้ทุบมาจะ 2 วีค ล่ะครับ แจกตังจริงๆ
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

นักเทรดที่ดีจะรู้จักประมาณตอน​ นักเทรดที่โลภระวังขี้พุ้ง555

เดียวมันจะดีดกลับต่อ มันก็จะวนๆแถวนี้ต่อแหละแอด มันจะรอจบ Brexit แหละ ผมว่า
นักเทรดที่ดีจะรู้จักประมาณตอน​ นักเทรดที่โลภระวังขี้พุ้ง555

*

admin

  • 80,605
อ้างจาก: Tom Jaturong Koosathain ที่ 21, ตุลาคม  2019, 10:47:02 PM
เดียวมันจะดีดกลับต่อ มันก็จะวนๆแถวนี้ต่อแหละแอด มันจะรอจบ Brexit แหละ ผมว่า

อยากให้จบสักทีครับ หลอนมาก
pig 1**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"