โบรกเกอร์ FBS ได้เปิดตัวแอป CopyTrade เวอร์ชันที่ อัปเดตแล้ว หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการสังคมการซื้อขาย ที่ค้นหาประสบการณ์การคัดลอดปลอดภัยยิ่งขึ้น  คุณจะหลงรักอย่างแน่นอน ที่ปล่อยมาล่าสุดคือได้มีการเพิ่มคุณสมบัติ Stop-Loss  และ Take-profit ซึ่งเป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง ที่ดีที่สุดใน Forex นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นข่าวที่ดี

2 ขั้นตอนในการจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก

FBS CopyTrade เป็นแอปฯสังคมการซื้อขายที่ผู้คนคัดลอก การดำเนินการของเทรดเดอร์ ในอีกด้านหนึ่งมันนำมาซึ่งโอกาสในการทำกำไรที่ดีขึ้น เพราะคุณคัดลอกผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในชุมชนและได้ กำไรเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้กำไร ในทางกลับกันก็ยังคงเกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยง บางประการ แอปฯเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับปรุงช่วยให้ผู้ใช้วาง  Stop-loss และ Take-profit และปกป้องการลงทุน ของพวกเขาในวิธีที่ดีกว่ามาก:

1.ควบคุมกำไรโดยรวมของการลงทุนของคุณ
SL และ TP มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการทั้ง กำไร\ขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ Stop-loss จะช่วยให้คุณไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่คุณ พร้อมที่จะสูญเสียตามกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ ด้วย Take-profit แอปฯจะหยุดกระบวนการโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้รับผลกำไรอย่างแม่นยำในจังหวะที่เหมาะสม ตัวเลือกทั้งสองนี้มีลักษณะเหมือนสวิทช์เล็กๆสองตัว ในแอปฯ - คุณแค่ต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการตัวเลือก ใดในตอนนี้

2.ใช้ได้กับคำสั่งซื้อขายใหม่และคำสั่งซื้อขายปัจจุบัน
คุณลักษณะนี้เป็นการปฏิวัติโอกาสของคุณเนื่องจากอนุญาต ให้วาง SL และ TP ได้ตลอดเวลา ที่คุณคิดว่าจำเป็น คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้คุณมีอำนาจในการควบคุมการซื้อ ขายของคุณได้ทันเวลา หากสถานการณ์ในตลาด ต้องการการดำเนินการ แอปฯแสดงบันทึกการทำงานของคุณอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ คุณสามารถติดตามความคืบหน้าและตัดสินใจซื้อขายได้อย่าง ชาญฉลาด กล่าวอีกนัยหนึ่ง SL และ TP เป็นกระเป๋านิรภัยของคุณ ที่ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ผ่อนคลายมากขึ้น

ระบบปกป้องอัตโนมัติเต็มรูปแบบของการลงทุนของคุณ
เพื่อความสะดวกของคุณแอปฯจะส่งการแจ้งเตือนแบบพุช ทุกครั้งที่มีการเรียกใช้คุณสมบัติ SL หรือ TP ทำให้คุณรู้ว่า การลงทุนถูกปิดโดยอัตโนมัติ โดยรวมแล้ว FBS CopyTrade ให้อิสระแก่ในการติดตาม การซื้อขายของคุณด้วยตัวคุณเอง จากนี้เป็นต้นไปคุณไม่ จำเป็นต้องเปิดดูแอปฯของคุณบ่อยๆแล้วกังวลว่าจะสูญเสีย มากไปหรือพลาดโอกาสที่ดีไป

ผู้ใช้ FBS CopyTrade จำเป็นต้องอัปเดตแอปพลิเคชัน เพื่อเริ่มใช้คุณสมบัติเหล่านี้ แอปฯนี้ใช้ได้ฟรีและไม่มีค่าธรรมเนียมแฝงใดๆ  - ค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวที่คุณต้องจ่ายคือค่า คอมมิชชั่นของเทรดเดอร์คงที่ที่ 5% เวอร์ชั่นที่ได้รับการอัปเดตนั้นจะเพิ่มความสามารถใน การจัดการความเสี่ยงของคุณและเฝ้าดูความเคลื่อนไหว ของตลาดอย่างระมัดระวัง

FBS เป็นโบรกเกอร์ระดับสากลที่มีลูกค้ามากกว่า  13 ล้านราย จากกว่า 190 ประเทศ บริษัทฯมีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องการซื้อขายบน มือถือระดับอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถซื้อขายได้ ทุกที่และสร้างรายได้จาก Forex ด้วยประสบการณ์ทุกระดับ

นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังมีบริการหลายอย่างที่ได้รับความ นิยมอย่างสูงจากชุมชนการค้าระดับโลก เช่น บริการ  swap-free, และบริการ VPS, เงินคืนสูงสุดถึง $7 ต่อล็อต  และอื่นๆอีกมาก

ขอบคุณค่ะ

Macd เป็น Up Trend นิคับแอดมิน  ็Hea**

  ขอบคุณค่ะ 

USD/CAD การซื้อขายระหว่างวัน: เหนือแนวต้านขาลง



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ): 1.3315

จุดที่ต้องการ: สถานะขายต่ำกว่า 1.3315 เป้าหมายต่อไปที่ 1.3275 และ 1.3260

ทางเลือกการลงทุน: สูงกว่า 1.3315 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.3330 และ 1.3345 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค: RSI มีทิศทางไม่ดี

แนวรับและแนวต้าน:
1.3345
1.3330
1.3315
1.3294 สุดท้าย
1.3275
1.3260
1.3250

USD/CHF การซื้อขายระหว่างวัน: มุมมองเชิงบวกสูงกว่า 0.9935



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ): 0.9935

จุดที่ต้องการ: สถานะซื้อสูงกว่า 0.9935 เป้าหมายต่อไปที่ 0.9965 และ 0.9980

ทางเลือกการลงทุน: ต่ำกว่า 0.9935 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 0.9920 และ 0.9900 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค: มีการสร้างฐานแนวรับที่ 0.9935 และช่วยให้เกิดเสถียรภาพชั่วคราว

แนวรับและแนวต้าน:
0.9990
0.9980
0.9965
0.9951 สุดท้าย
0.9935
0.9920
0.9900

USD/JPY การซื้อขายระหว่างวัน: ยังคงเป็นมุมมองเชิงบวก



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ): 107.20

จุดที่ต้องการ: สถานะซื้อสูงกว่า 107.20 เป้าหมายต่อไปที่ 107.60 และ 107.75

ทางเลือกการลงทุน: ต่ำกว่า 107.20 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 107.05 และ 106.90 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค: RSI สนับสนุนให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง

แนวรับและแนวต้าน:
107.90
107.75
107.60
107.40 สุดท้าย
107.20
107.05
106.90

GBP/USD การซื้อขายระหว่างวัน: อยู่ภายใต้แรงกดดัน



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ): 1.2315

จุดที่ต้องการ: สถานะขายต่ำกว่า 1.2315 เป้าหมายต่อไปที่ 1.2280 และ 1.2265

ทางเลือกการลงทุน: สูงกว่า 1.2315 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.2335 และ 1.2355 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค: แม้จะไม่สามารถยอมรับการดีดกลับทางเทคนิคต่อเนื่องได้ แต่ก็ควรจะจำกัดขอบเขต

แนวรับและแนวต้าน:
1.2355
1.2335
1.2315
1.2294 สุดท้าย
1.2280
1.2265
1.2240

EUR/USD การซื้อขายระหว่างวัน: แนวต้านระยะสั้นสำคัญที่ 1.0985



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ): 1.0985

จุดที่ต้องการ: สถานะขายต่ำกว่า 1.0985 เป้าหมายต่อไปที่ 1.0960 และ 1.0950

ทางเลือกการลงทุน: สูงกว่า 1.0985 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.1000 และ 1.1020 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค: หากแนวต้านที่ 1.0985 ยังไม่เลยขึ้นไป ความเสี่ยงที่จะทะลุต่ำกว่า 1.0960 ยังคงสูงอยู่

แนวรับและแนวต้าน:
1.1020
1.1000
1.0985
1.0975 สุดท้าย
1.0960
1.0950
1.0940

ลุ้นeu แนวรับ 1.965
เพราะรับมาซักพักแล้ว
็Hip**

ส่วน1.1 แนวต้านแข็งแรงมาก

หุ้นเอเชียปรับขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ผู้ลงทุนกำลังรอคอยการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์นี้

การเจรจาทางการค้ามีกำหนดการในวันพฤหัสบดีนี้ แม้ว่ารายงานข่าวล่าสุดบ่งชี้ว่าจีนเริ่มส่งสัญญาณลังเลที่จะทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ เสียแล้ว

ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังเฟ้นหาวิธีที่จะจำกัดไม่ให้นักลงทุนสหรัฐฯ ลงทุนกับจีนในพอร์ทการลงทุน และเป็นไปได้ว่าอาจมีการถอดรายชื่อบริษัทสัญชาติจีนออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ด้วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีจีนจำนวนแปดบริษัทถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีดำของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ เนื่องด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนมุสลิมกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียง

ตลาดหุ้นจีนบวกขึ้นเมื่อเปิดตลาดหลังจากเทศกาลวันหยุดยาว โดยดัชนี Shanghai Composite และ Shenzhen Component ของจีนต่างก็ปรับขึ้น 0.8% และ 0.9% ตามลำดับ เมื่อเวลา 22:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (02:30 GMT) แม้ว่าข้อมูลต่อไปนี้จะไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก แต่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิตจีนจาก Caixin/Markit ประจำเดือนกันยายนลดลงไปเท่ากับ 51.3 จากเดือนสิงหาคมที่ 52.1

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงพุ่งขึ้น 1.5% สถานการณ์ความรุนแรงย่านใจกลางเมืองร้อนระอุขึ้นอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากรัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินที่บังคับไม่ให้ผู้ประท้วงสวมใส่หน้ากาก ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ประท้วงอย่างมาก และจึงบุกเข้าทำลายธนาคารและร้านค้าปลีกสัญชาติจีนทั่วฮ่องกง

เขียนโดย:
Investing.com

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง
จีเอ็มไอ เอดจ์ เผยราคาทองคำมีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นในรอบกว่า 3 ปี หากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ชี้ธนาคารกลางกลุ่มประเทศเกิดใหม่เริ่มทะยอยเก็บทองคำเป็นทุนสำรองตั้งแต่ปลายปี 2018 แนะนักลงทุนติดตามข่าวสารเศรษฐกิจโลกใกล้ชิด

นายณพวีร์ พุกกะมาน ผู้บริหารส่วนภูมิภาค จีเอ็มไอ เอดจ์ บริษัทหนึ่งในกลุ่มสถาบันการลงทุนจากประเทศอังกฤษ เปิดเผยถึง สภาวะความต้องการทองคำที่มีความต้องการสูงภายหลังความกังวลเรื่องสงครามการค้า ส่งผลให้ 'ทองคำ' กลายเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ขยายมาเป็นสงครามเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ตลาดการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวน รวมถึงสัญญาณทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ตัวเลขดัชนีการผลิตหรือ PMI และ GDP ที่เริ่มชะลอตัวลง นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ



ตลอดจนการเกิด Inverted Yield Curve ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ Recession หรือการชะลอเศรษฐกิจ ในอนาคต ล่าสุดประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve - Fed) นายเจอโรม

พาวเวลล์ หรือประธานเฟดได้ออกมากล่าวว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้ตลอดจนอาจนำเครื่องมืออย่างการทำ QE กลับมาใช้อีกครั้ง หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และที่ผ่านมาการลดดอกเบี้ยและการทำ QE มีผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วมาแล้ว

"นับตั้งแต่ปลายปี 2018 มีข่าวว่ารัฐบาลจีน รัสเซีย และกลุ่มประเทศใน Emerging Markets เข้าซื้อสะสมทองเป็นเงินทุนสำรองเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่าปริมาณทองคำสำรองของหลายประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายปี นี่คือสัญญาณว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะเป็นขาขึ้นได้" นายณพวีร์ กล่าว



หากดูที่กราฟราคาทองคำตลาดโลก นับตั้งแต่ต้นปี 2016 ที่ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ ราคา 1,050 เหรียญ แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,400 เหรียญได้เลย โดยขึ้นไปทดสอบระดับดังกล่าวมาแล้วสองครั้ง ในช่วงกลางปี 2016 และต้นปี 2018 ถ้าหากการปรับตัวขึ้นในครั้งนี้สามารถผ่าน 1,400 เหรียญไปได้ ราคาทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นครั้งสำคัญในรอบ 3 ปี

"ทั้งนี้นักลงทุนต้องติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งประเมินได้ว่า หากยังยืดเยื้อหรือมีการตั้งกำแพงภาษีและเทคโนโลยีระหว่างกัน เศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนสูง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ แต่ถ้าสถานการณ์สงบลง อาจจะมีการเทขายทองคำออกมา" นายณพวีร์ กล่าวทิ้งท้าย

อ่านต่อได้ที่ : RYT9

ชะรอยเราจะต้องถือเซลไว้จนได้สวอปมากกว่าที่ติดลบ

อ้างจาก: Waarrii ที่ 08, ตุลาคม  2019, 01:48:24 PM
ชะรอยเราจะต้องถือเซลไว้จนได้สวอปมากกว่าที่ติดลบ

แผนการ ที่ร้ายกาจมาก