กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

ส่องอนาคต NETFLIX สตรีมมิ่งรายใหญ่จะรุ่งหรือจะร่วง

  • 0 replies
  • 2,153 views
*

admin

  • 80,650
ส่องอนาคต NETFLIX สตรีมมิ่งรายใหญ่จะรุ่งหรือจะร่วง
                    สำหรับคนทั่วโลกที่ชอบการดูหนังในทุกรูปแบบคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Netflix กันอย่างแน่นอน เพราะกำลังเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลกส่งผลให้หุ้นของ Netflix ดีดตัวสูงกันแบบก้าวกระโด หากใครก็ตามที่เคยซื้อหุ้น Netflix เอาไว้ตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปี ค.ศ. 2009 ด้วยราคาที่ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ มา ณ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหุ้นของ Netflix ทำมูลค่าขึ้นไปสูงถึง 460,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว แถมยังมีอัตราการเติบโตมากกว่า 46 เท่าจากช่วงเริ่มแรกอีกด้วย

แต่ถ้าหากจะคิดว่าหุ้นของเน็ตฟิกซ์ กำลังเป็นที่หมายตาของนักลงทุน ต้องการคว้าหุ้นตัวนี้ไว้แล้วละก็ คงจะต้องมาดูสถานการณ์ของสตรีมมิ่งรายใหญ่เจ้านี้ในปัจจุบันกันเสียก่อน ว่าอนาคตอันใกล้ จะยังรุ่งโรจน์อย่างช่วงที่ผ่านมา หรือจะร่วงกันแน่ เพราะจากสถานการณ์ล่าสุด หุ้นของเน็ตฟิกซ์ ร่วงลงไปถึง 12% โดยสาเหตุหลักก็มาจาก
1. ยอดสมาชิกเพิ่มมีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั่วโลก
ในไตรมาสที่ 2 ยอดสมาชิกที่สมัครใหม่ของ Netflix น้อยกว่าที่ทางบริษัทได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวน 5 ล้านบัญชีทั่วโลก แต่สถานการณ์จริงกลับมีคนสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นมาเพียง 2.7 ล้านบัญชีเท่านั้น ในส่วนค่าสมัครสมาชิกมีความสำคัญมากเพราะ Netflix ไม่ได้มีรายได้จากการโฆษณา เนื่องจากนโยบายไม่ต้องการให้มีโฆษณาคั่น แต่กลับมีรายจ่ายมากทั้งการผลิต การซื้อคอนเทนต์ และใช้หนี้เดิมที่มีอยู่


2. คอนเทนต์ที่น่าสนใจลดลงในขณะที่เพิ่มค่าสมาชิก
มีการปรับค่าสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 13-18% โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาจากผลกระทบค่าใช้จ่ายที่สูงและมีสมาชิกน้อยกว่าที่คาดในข้อแรก ทำให้อนาคตแนวโน้มที่ว่า Netflix จะเติบโต และมียอดสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูจะหยุดชะงักลง ประกอบกับคอนเทนต์ที่มีน้อยลง เนื่องจากพันธมิตรที่เคยส่งคอนเทนต์ให้ ทยอยกันลดและเลิกส่งคอนเทนต์แก่เน็ตฟิกซ์ จึงต้องให้ความสำคัญกับการผลิตคอนเทนต์ดี ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น ความน่าสนใจในคอนเทนต์ที่หาไม่ได้ในที่อื่นซึ่งเคยจูงใจลูกค้าก็ลดน้อยลงมาก แนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้ยากแต่ค่าใช้จ่ายต้นทุนก็ยังสูงขึ้นด้วย

3. มีคู่แข่งใหม่เพิ่มขึ้น
จากเดิมที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ดัง ๆ ราย เคยเป็นพันธมิตรส่งคอนเทนต์ดี ๆ ให้อย่างต่อเนื่อง เริ่มเห็นช่องทางในการทำกำไรจากการสร้างแพลตฟอร์มเป็นของตนเอง จึงไม่ยอมเสียโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น Warner Media, Walt Disney , Apple และค่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้แนวโน้มที่ Netflix จะรักษาบัลลังก์เจ้าแห่งแพลตฟอร์มหนังก็คงจะต้องต่อสู้แย่งชิ่งกันยากลำบากขึ้นแล้ว
ทั้งหมดนี้ก็คือบทวิเคราะห์ ที่ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มของสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกอย่าง Netflix อาจถึงคราวต้องตกเป็นรองให้กับคู่แข่งที่จ่อคิวทยอยออกมากอบโกยกำไรจากตลาดนักดูหนัง แต่ถึงอย่างนั้นตราบใดที่เน็ตฟิกซ์ยังคงมีซีรีย์เจ๋งๆ ที่เป็น Original ของตัวเองอยู่ล่ะก็ คงเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่สตรีมมิ่งหน้าใหม่จะสามารถล้มแชมป์ลงได้

"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"