กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ด้วยพฤติกรรมราคา (นอกเหนือจากการสร้างรูปแบบราคา)
กลยุทธ์การซื้อขายที่พฤติกรรมราคาของแท่งเทียนนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นกับรูปแบบการดำเนินไปของกราฟราคาด้วย เช่น รูปแบบตะปู - PIN BAR, รูปแบบ ภายในแท่งเทียน - INSIDE BAR, หรือ รูปแบบกลืนกิน - ENGULFING PATTERN ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากยึดติดกับ รูปแบบการดำเนินไปของกราฟราคาแท่งเทียนมากกว่า พฤติกรรมของแท่งเทียน ในความเป็นจริงแล้ว รูปแบบการดำเนินไปของกราฟราคาเป็นเพียงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การซื้อขาย ด้วยพฤติกรรมราคากราฟแท่งเทียน
แต่ทั้งสองรูปแบบอาจต้องพึ่งพาอาศัยกัน อย่างในกรณีของ รูปแบบตะปู - PIN BAR เป็นเพียงพฤติกรรมราคากราฟ กลยุทธ์การซื้อขาย PIN BAR ต้องอยู่ภายใต้กำหนดของสภาวะตลาดที่ใช้สำหรับการเข้าซื้อขาย ของรูปแบบ PIN BARS เท่านั้น ซึ่งจะมีตำแหน่งหรือจุดในการเข้าซื้อขาย และการออกจากการซื้อขายด้วย เพราะถ้าหากว่าเทรดเดอร์ทำการเข้าซื้อ และเข้าขายทุกๆ แท่งของกราฟแท่งเทียน ตะปู – PIN BAR แล้วละก็ เทรดเดอร์จะพบกับความสูญเสียอย่างแน่นอน
กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ตามพฤติกรรมของกราฟราคาแท่งเทียน จะนำหน้าการเข้าซื้อ ตามรูปแบบของกราฟราคาแท่งเทียน
กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ตามพฤติกรรมของกราฟราคาแท่งเทียน จะต้องตอบคำถามต่อไปนี้
• เทรดเดอร์จะตัดสินใจกับตลาดที่กำลังดำเนินอยู่อย่างไร ?
• เทรดเดอร์จะกำหนดหาจุดในเข้าทำการซื้อขายด้วยอะไร ?
• เทรดเดอร์จะกำหนดหาจุดในการออกจากการซื้อขายได้อย่างไร ?
ในบทความนี้ จะสำรวจคำถามแต่ละข้อเพื่อหาว่า วิธีที่ทำให้กลยุทธ์การเข้าซื้อขายสำเร็จได้ดี
การโน้มเอียงหรือการเข้าข้างตัวเองในด้านการตลาด – พฤติกรรมด้านราคา การโน้มเอียงหรือการเข้าข้างตัวเองในด้านการตลาดหมายถึง การที่เทรดเดอร์เข้าข้างตัวเอง การพยายามมองให้เห็นว่า แนวโน้มของตลาดในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งขาขึ้น หรือ ฝั่งขาลง ล้วนแล้วแต่ มองให้เห็นเป็นไปในแบบที่ เทรดเดอร์อยากให้เป็น (เข้าข้างตัวเอง) ในความเป็นจริง จะเป็นที่รู้จักกันว่า นี่คือเรื่องราวของแนวโน้มตลาด หรือบริบทการพฤติกรรมด้านราคากราฟแท่งเทียน
การโน้มเอียงในด้านการตลาดนี้ คือสิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์มีขอบเขตกันตัวเองไว้ มีอิทธิพลอย่างมากต่อความสำเร็จด้านการเข้าซื้อขายของตัวเทรดเดอร์เอง มีอิทธิพลมากกว่ารูปแบบราคารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือ สองรูปแบบสองหรือสามรูปแบบก็ตามแต่
จากภาพตัวอย่างในกราฟ เทรดเดอร์จะสังเกตได้ว่า ส่วนใหญ่แล้วสัญญาณการเข้าซื้อขาย ของตลาดขาลงจะทำได้ดีกว่า ถึงแม้จะมีกราฟราคาแท่งเทียนแท่งที่เป็นรูปแบบขาขึ้น (รูปแบบ ตะปู) และรูปแบบของสัญญาณการเข้าซื้อขาย ของตลาดขาขึ้น จะไม่ค่อยได้ผลนัก
ประเด็นก็คือเมื่อเทรดเดอร์ได้รับมุมมองจากรูปแบบราคาแล้ว จะทำให้มีความรู้สึกโน้มเอียงไปและทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความจริงของกราฟราคา แต่อาจจะไม่ร้ายแรงนัก ถ้าเทรดเดอร์ สามารถควบคลุมความเสี่ยงก่อนการเข้าทำการซื้อขายไว้ได้
การเข้าซื้อขาย หรือมองกราฟราคาแท่งเทียนหลายช่วงเวลา กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย บางครั้งก็ให้ความสำคัญกับกราฟราคาแท่งเทียนที่ ช่วงเวลาใหญ่ขึ้นหรือสูงขึ้น เพื่อหาความโน้มเอียงให้กับช่วงเวลาที่เล็กลงหรือช่วงเวลาที่ต่ำกว่า
โครงสร้างของตลาด ตลาดกราฟราคาแท่งเทียน ไม่เคยเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง กราฟจะเคลื่อนไปตามการแกว่งของคลื่นราคา เช่นการแกว่งสร้างความสูงและแกว่งสร้างจุดต่ำสุด กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ส่วนใหญ่ของราคามีความอ่อนไหวต่อโครงสร้างตลาดมาก ในตำแหน่งที่สร้างขึ้นโดยจุดหมุนแกว่งเหล่านี้
เส้นแนวโน้ม เส้นแนวโน้มที่ลาดชันขึ้นไปตามตลาดขาขึ้น และมีแนวโน้มลาดลงไปกับเส้นแนวโน้มเพื่อตามตลาดขาลง ในกลยุทธ์การเข้าซื้อขาย คือเบรก หรือทะลุ พาดผ่าน เส้นแนวโน้มไป เป็นการสร้างแนวโน้มใหม่ได้เช่นกัน
ปริมาณการเข้ามาสู่ตลาดของเทรดเดอร์ กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ในตลาดมีหลากหลายรูปแบบรวมถึงการวิเคราะห์ปริมาณการเข้าสู่ตลาดของเทรดเดอร์ ในส่วนของแนวต้านเพียงเล็กน้อย แต่ตลาดอาจเคลื่อนไหวไปพร้อมกับปริมาณการเข้ามาของเทรดเดอร์จำนวนมากได้
ดังนั้นเมื่อใช้กลยุทธ์การเข้าซื้อขาย ตามพฤติกรรมของราคาแล้ว เทรดเดอร์ควรใช้เครื่องมือ การมอง การวิเคราะห์ เหล่านี้ ในการสังเกตเพื่อหาทิศทางที่ตลาดมีแนวโน้มที่จะเป็นไป ที่กล่าวมานี้เป็นขั้นตอนแรกในกลยุทธ์การเข้าซื้อขาย จากพฤติกรรมของกราฟราคาแท่งเทียนทั้งหมด
การมองหาตำแหน่งเข้าทำการซื้อขายด้วยพฤติกรรมราคากราฟแท่งเทียน การมองหาตำแหน่งเข้าทำการซื้อขาย หรือการตั้งค่าการซื้อขาย เป็น สถานการณ์ของตลาดที่เทรดเดอร์ต้องพิจารณาให้ดี ก่อนเข้าทำการซื้อขาย
ในกลยุทธ์การเข้าซื้อขายนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมราคารวมถึงรูปแบบของกราฟราคาด้วย ตัวอย่างเช่นรูปแบบราคาในระยะสั้น เช่น INSIDE BAR การมองเนื้อแท่งเทียนประกอบกันสองแท่งขึ้นไป หรือ รูปแบบ กลืนกิน - ENGULFING หรือ MORNING STAR การตั้งค่าการซื้อขายบางส่วนอาจต้องใช้เรื่องของรูปแบบกราฟราคามากกว่าพฤติกรรมของราคา เช่น รูปแบบ DOUBLE TOP หรือ รูปแบบ HEAD AND SHOULDER เป็นต้น
ทำไมเทรดเดอร์ ต้องตั้งค่าการซื้อขาย ? ในทางทฤษฎีเทรดเดอร์จะสามารถมองหาตำแหน่งการเข้าซื้อขายได้ทันที ที่เทรดเดอร์สามารถตัดความลำเอียงในจิตใจของเทรดเดอร์ออกไปได้ และเมื่อเทรดเดอร์เปลี่ยนเอาความลำเอียงออกไปได้แล้วนั้น จะเริ่มกลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ถูกต้องต่อไป
สิ่งเหล่านี้จะนำเทรดเดอร์ไปสู่จุดประสงค์ในการตั้งค่าการเข้าซื้อขายได้ดี ซึ่งอย่าลืมเรื่องการควบคุมความเสี่ยงด้วย โดยการกำหนดตำแหน่งเข้าทำการซื้อขายจากการตั้งค่า เทรดเดอร์จะสามารถกำหนดจุดหยุดขาดทุนในกลยุทธ์การซื้อขายด้วยพฤติกรรมราคานี้ได้
แผนในการออกจากการซื้อขาย - เส้นแนวรับ แนวต้าน เส้นแนวรับ และเส้นแนวต้าน เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมในการออกจากการซื้อขาย สำหรับการเข้าซื้อ เส้นระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุดคือเป้าหมายที่น่าจะเป็นตำแหน่งในการออกจากการซื้อมากที่สุด สำหรับการเข้าขาย เส้นระดับแนวรับที่ใกล้เคียงที่สุดคือเป้าหมายที่น่าจะเป็นตำแหน่งในการออกจากการขายเช่นกัน
ถ้าเทรดเดอร์มีมุ่งมั่นสำหรับการซื้อขายในระยะยาว สำหรับแนวต้านหรือแนวรับที่ค่อนข้างห่างไกลจากตลาด เทรดเดอร์จำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
สร้างกลยุทธ์การเข้าทำการซื้อขาย ด้วยพฤติกรรมกราฟราคา ด้วยตัวของเทรดเดอร์เอง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดในบทความนี้ อยากให้เทรดเดอร์มองหาวิธีการที่เหมาะสมกับทักษะและอารมณ์ รวมไปถึงภาวะในจิตใจของตัวเทรดเดอร์เอง
ดังนั้นแทนที่จะทำตามกลยุทธ์การซื้อขาย ตามพฤติกรรมราคาของเทรดเดอร์รายอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จ อยากให้เทรดเดอร์เรียนรู้จากพวกเขาเหล่านั้นมากกว่า ว่าอะไรเหมาะสมสำหรับตัวเทรดเดอร์เอง
มุ่งเน้นไปที่การเลือกวิธีการและมุ่งหากลยุทธ์การเข้าซื้อขาย หลังจากนั้นให้รวมความคิดทั้งหมด เพื่อสร้างกลยุทธ์การเข้าซื้อขายกราฟราคาแท่งเทียนที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวของเทรดเดอร์เองให้ได้
Credit : พี่เจี๊ยบสามารถล็อคอินแล้วโหลดไฟล์ pdf ไปเก็บไว้ได้เลยนะครับ