(Jan 15) การเมืองผู้ดีป่วนไม่สิ้นฉุดเบร็กซิตสู่ทาง3แพร่ง : สัปดาห์นี้คงอาจกล่าวได้ว่าเป็น ช่วงเวลาอันบีบคั้นสำหรับอังกฤษที่จะต้องลงมติร่างเบร็กซิตในวันนี้ ขณะที่เส้นตายการต้องออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ก็กระชั้นเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีจนเหลือเวลาอีกไม่ถึง 75 วันในขณะนี้
แม้ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ตัดสินใจเลื่อนการโหวตร่างเบร็กซิตจากเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วมาเป็นวันนี้ เพราะเกรงว่าอาจไม่ได้รับเสียงสนับสนุนร่างดังกล่าวเพียงพอ แต่ในการโหวตวันนี้ หลายฝ่ายมองว่าร่างของเมย์ยังไม่มีแนวโน้มจะได้ไฟเขียวจากสภา โดยบีบีซีรายงานว่าสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมของเมย์ราว 100 ราย และอีก 10 รายจากพรรคเดโมเครติก ยูเนียนนิสต์ (ดียูพี) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไอร์แลนด์เหนือ คาดว่าจะหันไปร่วมมือกับพรรคแรงงานฝ่ายค้าน โหวตคัดค้านร่างเบร็กซิต
หากผลออกมาว่าร่างเบร็กซิตของเมย์ไม่ผ่านการลงมติ จะเปิดทางให้พรรคแรงงานสามารถจัดการลงมติไม่ไว้วางใจในตัวเมย์ ซึ่งอาจปูทางไปสู่การจัดการเลือกตั้งใหม่ สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้การเมืองอังกฤษเข้าสู่ความปั่นป่วนยิ่งกว่าในขณะนี้ และไม่ต่างอะไรกับการเหวี่ยงอังกฤษกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ที่ไม่มีอะไรแน่นอน ขณะที่เวลาการเจรจากับอียูกำลังหมดลงทุกที
การโหวตร่างเบร็กซิตในวันนี้จึงเป็นวันชี้ชะตาสำคัญ ไม่ใช่แค่เฉพาะสำหรับตัวเมย์และรัฐบาลอังกฤษเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษ อียู และประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนในขณะนี้ สถาน การณ์เบร็กซิตมีแนวโน้มออกมาใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ อังกฤษ-อียูไร้ ข้อตกลง (โน-ดีล) การลงประชามติรอบ 2 และนอร์เวย์ โมเดล
"โน-ดีล" เป็นสถานการณ์ที่มี แนวโน้มเกิดขึ้นมากที่สุด สะท้อนออกมาการที่รัฐสภาอังกฤษคาดว่าจะปัดตกร่างเบร็กซิต โดยภายใต้ร่างดังกล่าว ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ "ข้อตกลงการถอนตัว" ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขการหย่าขาดกับอียู และ "ความสัมพันธ์ในอนาคต" กับอียู โดยในส่วนที่เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และยังหาทางออกไม่ได้เสียทีอยู่ในส่วนที่สอง ซึ่งหลักๆ เป็นเรื่อง "Backstop" (แบ็กสต็อป) หรือนโยบายรับประกันว่าจะไม่เกิดอุปสรรคเรื่องพรมแดนบนเกาะไอร์แลนด์ หลังช่วงเบร็กซิต
สำหรับประเด็นแบ็กสต็อปนั้น ล่าสุด สถานีโทรทัศน์อาร์ทีอี รายงานอ้างแหล่งข่าว ทางอียูเตรียมส่งจดหมายชี้แจงความชัดเจนประเด็นดังกล่าว ซึ่งเมย์คาดว่าจะใช้จดหมายนี้ต่อรองหว่านล้อมให้สภาสนับสนุนร่างเบร็กซิต
อย่างไรก็ดี การชี้แจงความชัดเจนเรื่องแบ็กสต็อปของอียูดูจะยังไม่เพียงพอ เพราะจดหมายดังกล่าวไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งก็หมายความว่าประเด็นเรื่องแบ็กสต็อปคาดว่าจะยังค้างคาต่อไป
จากสถานการณ์ในขณะนี้ อังกฤษจึงเข้าใกล้สถานการณ์โน-ดีลมากที่สุด ซึ่งผลกระทบจากกรณีโน-ดีลได้สร้างความกังวลต่อภาคธุรกิจอย่างมาก เพราะจะทำให้ต้นทุนการค้าแพงขึ้นจากการที่อังกฤษต้องกลับไปเสียภาษีศุลกากร และการทำธุรกิจเสี่ยงชะงักงันจากความไม่ชัดเจนเรื่องพรมแดน
จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่สุดในอังกฤษ เป็น รายล่าสุดที่เริ่มได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเกิดโน-ดีล โดยบริษัทเพิ่งประกาศปรับลดพนักงานทั่วโลกลง 4,500 อัตรา คิดเป็นราว 10% ของพนักงานทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดรายจ่าย 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 1 แสนล้านบาท) จนถึงปี 2020
ก่อนหน้านี้ จากัวร์ เปิดเผยว่า กรณีที่อังกฤษไม่สามารถทำข้อตกลงกับอียูได้ กำไรของบริษัทเสี่ยงลดลงถึง 1,200 ล้านปอนด์/ปี (ราว 4.8 หมื่นล้านบาท)
อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายหนุน เบร็กซิตอย่างแรงกล้านั้น บางส่วนมองว่ากรณีโน-ดีล คือการปลดแอกอังกฤษออกจากอียูอย่างแท้จริง เพราะอังกฤษจะไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎใดๆ ของอียู ทั้งระเบียบด้านการค้า ศุลกากร และผู้อพยพ
แม้ว่าภายใต้สถานการณ์โน-ดีล อังกฤษจะสูญเสียข้อตกลงการค้าที่เคยทำไว้กับประเทศต่างๆ ในฐานะสมาชิกอียู แต่ก็เปิดโอกาสให้อังกฤษเดินตามรอย "แคนาดา โมเดล" ในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอียูแบบเดียวกับแคนาดา ภายใต้ชื่อ ข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างอียูและแคนาดา (CETA) ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอิสระในการทำข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ ได้
สำหรับความเป็นไปได้ต่อมา คือ "การลงประชามติรอบ 2" ซึ่งเป็นแนวทางที่ฝ่ายหนุนอียูพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น และเริ่มได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากชาวอังกฤษ สะท้อนออกมาจากโพลสำรวจล่าสุดของ ยูโกฟ ที่พบว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มองว่าการออกจากอียูเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และหากมีการลงประชามติรอบ 2 นั้น 54% มองว่าอังกฤษควรอยู่ในอียูต่อไป
ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า ล่าสุดบรรดาสมาชิกสภาจากหลายพรรค ทั้งพรรคแรงงาน และพรรคชาติสกอต จำนวน 150-180 ราย กำลังผลักดันความพยายามดังกล่าว และจำนวนผู้สนับสนุนอาจเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 210 ราย ในกรณีที่สภาปัดตกร่าง เบร็กซิตของเมย์ และผู้เป็นกุญแจสำคัญ คือ เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งในกรณีที่คอร์บินสนับสนุน การลงประชามติรอบ 2 มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้
ทว่าในขณะนี้คอร์บินเปิดเผยว่า ต้องการเจรจาดีลเบร็กซิตมากกว่าจะสนับสนุนให้จัดลงประชามติใหม่
ส่วนความเป็นไปได้สุดท้าย คือ "นอร์เวย์ โมเดล" ซึ่งเป็นความสัมพันธ์กับอียูแบบเดียวกับนอร์เวย์ โดยอังกฤษจะไม่ต้องเป็นสมาชิกอียู แต่ยังสามารถอยู่ในข้อตกลงเขตการค้าเสรีอียูได้ นับเป็นหนทางการออกจาก อียูแบบละมุนละม่อมที่อังกฤษไม่เจ็บตัวมากนัก หรือที่เรียกว่า ซอฟต์ เบร็กซิต
นอร์เวย์เป็นสมาชิกเขตเศรษฐกิจยุโรป (อีอีเอ) ซึ่งได้สิทธิเข้าถึงตลาดร่วมเกือบทั้งหมด และสามารถกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างอิสระ
อย่างไรก็ดี ทางเลือกนี้มีความเป็นไปได้น้อย เพราะอังกฤษยังจำเป็นต้องแบ่งงบประมาณมาสมทบในงบประมาณของอียูและเคารพกฎเกณฑ์ของทางสหภาพ ซึ่งรวมถึงกฎการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีด้วย จึงจะสามารถเรียกร้องสิทธิดังกล่าว
นอกจากนี้ สมาชิกอียูและสมาชิก ที่ได้สิทธิพิเศษในรูปแบบปัจจุบัน คือ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และสวิตเซอร์แลนด์ ต้องเห็นชอบกับโมเดลดังกล่าว ซึ่งเป็นไปได้ยากแล้วในตอนนี้ เพราะหากจะมุ่งไปโมเดลนี้ต้องมีการเจรจากับทางอียูใหม่ และอียูเองออกตัวมาโดยตลอดว่าจะไม่เจรจาใหม่แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น นอร์เวย์ โมเดล จะเผชิญเสียงคัดค้านอย่างหนักจากฝ่ายหนุนเบร็กซิต เพราะการยังต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของอียู จะไม่ต่างอะไรกับการทำให้กระบวนการเบร็กซิตที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่า
การโหวตร่างเบร็กซิตในวันนี้จึงเป็นตัวชี้ชะตาปลายทางของเบร็กซิต และอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษ อียู และชาติอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า สุดท้ายแล้วหนทางที่อังกฤษจะเดินไปจะมุ่งไปในทิศทางไหน
โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์
Source: Posttoday
เพิ่มเติม
- คาดเมย์เป็นนายกฯอังกฤษที่พ่ายยับในสภามากสุดรอบเกือบ 100 ปี ขณะเตรียมโหวต Brexit:
https://www.ryt9.com/s/iq37/2940829- ปอนด์อ่อนค่าเทียบดอลลาร์ ก่อนสภาอังกฤษโหวตชี้ชะตาร่างข้อตกลง Brexit วันนี้
:
https://www.ryt9.com/s/iq21/2940830