อ้างจาก: Gamezxii ที่ 03, มกราคม  2019, 12:51:39 PM
แอดครับ แกปทองวันนี้จะลงมาปิดไหม 

น่าจะไป 1298-1300 เลย ค่อยลงมาปิดครับ

อ้างจาก: admin ที่ 03, มกราคม  2019, 12:55:15 PM

อ้างจาก: forcebewithyou ที่ 03, มกราคม  2019, 12:39:02 PM
ขอบคุณครับ

เสียดายกราฟเกิดขึ้นตอนที่เราหลับยังไม่ตื่น จะได้ buy ตั้งแต่ก้นเหวเลย 

สวัสดีตอนเช้า ครับ ถ้าตื่นมาทันจะรู้ว่ามันน่ากลัว มาก ถ้ามีออเดอร์

ใช่ครับน่ากลัวมาก สยองเลย

อีกรอบครับ GU จะรีบาวสั้นๆไหมครับ เห็นลงไปทำโล ขนาดนั้นแอดมอง ถึงไหนครับ 

อ้างจาก: Gamezxii ที่ 03, มกราคม  2019, 01:33:49 PM
อีกรอบครับ GU จะรีบาวสั้นๆไหมครับ เห็นลงไปทำโล ขนาดนั้นแอดมอง ถึงไหนครับ 

รีบาวด์สัก 1.2650 ช่วงนี้ครับ ครึ่งหนึ่ง

หน้าหนาวก็ต้องขึ้นเหนือเนอ่ะ... เที่ยวเลหมอกกัน ...ลุย ๆ ๆ  ็Hea** ็Hea**

เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นคะ มีข่าวอะไร

เมื่อคืนถ้าแอ๊ดไม่เขียนว่าสะแว๊บนะวันนี้นั่งดูอย่างเดียว
รอดตายมาได้เหมือนขึ้นสวรรค์

วันนี้จะไปถึงไหมน้า หรือเราจะโดนเท  ็Hea**

วิ่งน่ากลัว ผันผวนมาก

เกิดความผันผวนอย่างหนักต่อทุกสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน "เยน" ของประเทศญี่ปุ่น ค่าเงินเยนที่เป็นเสาหลักของ Global Asset และถือเป็นหนึ่งใน Safe Asset ที่สำคัญของโลกเกิดอาการ "Flash Crash" หลังจากการประกาศข่าวร้ายของบริษัท "Apple" ซึ่งในมาจังหวะที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ

Apple นำโดย "Tim Cook" ร่อนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นต่อกรณีที่รายได้ของบริษัทลดลง ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ทำให้หุ้นร่วงลงไปกว่า 8 % โดยในจดหมายระบุถึงสาเหตุว่า เป็นผลจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและกลุ่มประเทศ Emerging Market จึงทำให้ยอดขายสินค้าสำคัญอย่าง "iPhone" ร่วงลงเช่นกัน

เกี่ยวอะไรกับเงิน Yen

บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก การตัดสินใจลงทุนหรือไม่ลงทุนย่อมส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจของประเทศ Supply Chain ต่างๆ และหากบริษัทที่ครองเม็ดเงินขนาดใหญ่ของโลกยังมองว่า จีนหรือ Emerging Market ยังไม่อยู่ในโหมด "น่าลงทุน" ก็ย่อมหมายถึงสถานะของโลกที่กำลังเป็น Risk-Off หรือ "กลัวความเสี่ยง" อยู่เช่นกัน

สถาณการณ์ที่เป็น Risk-Off มักทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง ค่าเงินเยนจึงแข็งค่าทันทีกว่า 3.7 % ซึ่งมากกว่าปกติที่อยู่ราวๆ 1 % โดยหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ค่าเงินกระจากได้ถึง 3 % เป็นเพราะเม็ดเงินที่ไหลเข้าเงิน Yen ในช่วงตลาดไม่มีสภาพคล่อง (Asian Session) จึงทำให้ราคาเกิดการกระโดดอย่างรุนแรง :

อ้างจาก: Plaman7 ที่ 03, มกราคม  2019, 03:07:57 PM
เมื่อคืนถ้าแอ๊ดไม่เขียนว่าสะแว๊บนะวันนี้นั่งดูอย่างเดียว
รอดตายมาได้เหมือนขึ้นสวรรค์

Swap ช่วย ชีวิต เลย ครับ
็Hea** ็Hea**

วิ่งอะไรของม๊านนนนน ไซด์เวย์สุดฤทธิ์ จะขึ้นก็ไม่ขึ้น จะลงก็ไม่ลง ฮ่วย

Fed อาจจะ "ลดดอกเบี้ย" ในไม่ช้า

(เผยแพร่ครั้งแรกใน #Infinox_Thailand : )


เศรษฐฏิจที่ชะลอตัว

Jim Sullivan หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก High Frequency Economics มองว่า เศรษฐกิจได้รับความตึงเครียดทางการเงินที่มากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ (ขึ้นดอกเบี้ยถี่และเร็วมากเกินไป)

การชะลอตัวลงของเศรษฐฏิจอย่างเห็นได้ชัดนั้น ทำให้เขามองว่า จะมีการขึ้นดอกเบี้ยแค่ครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งตรงกับนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ที่เชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดการขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปีนี

"Inverted yield curve"

นักวิชาการและเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก กำลังอธิบายทิศทางของตลาดโลก และคำตอบส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่เชื่อว่า เรากำลังอยู่ใน Theme ของ "ดอกเบี้ยขาขึ้น" อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้จัดการกองทุนทั่วโลกมองในแบบตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ว่า Smart Money ไม่เชื่อเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย คือ การที่ความสัมพันธ์ของผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) มีความผิดปกติไปจากสถาณการณ์ทั่วไป โดยพันธบัตรระยะยาวให้ Yield ที่ต่ำ ในขณะที่พันธบัตรระยะสั้นกลับให้ Yield ที่สูงกว่า เราเรียกสภาวะดังกล่าวว่า "Inverted yield curve"

วิธีคิดในทางทฤษฏี

ในทางทฤษฏีแล้ว พันธบัตรระยะยาวมีต้นทุนเรื่องเวลา และจะต้องคำนวณความเสี่ยงที่สอดรับกับระยะเวลาที่ยาวนาน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อและมูลค่าตามเวลาที่ควรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปกติ พันธบัตรระยะยาวควรมีผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรระยะสั้นๆ หรือพูดง่ายๆ คือ Bond Yield ระยะยาว ควรจะมากกว่า Bond Yield ระยะสั้น

แต่ในสถาณการณ์ปัจจุบันที่ Bond Yield ระยะยาวเคลื่อนต่ำกว่าระยะสั้น เป็นผลจากการที่นักลงทุนเข้าไปซื้อและถือ Bond ระยะยาวเป็นจำนวนมาก การที่คนไล่ซื้อ Bond จะทำให้ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ คนที่เข้ามาไล่ซื้อในราคาที่สูงย่อมได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ต่ำ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Yield ปรับลดต่ำลงเรื่อยๆ

พันธบัตรระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย

Stanley Druckenmiller นักจัดการกองทุนชื่อดังของโลก เคยให้สัมภาษณ์ใน CNBC ว่า การเกิด Inverted Yield Curve เป็นสัญญาณเตือน เพราะสะท้อนว่า กองทุนใหญ่ๆ กำลังกังวลต่อสภาวะถดถอยอย่างจริงจัง

และจากรายงานของ Bloomberg ก็มีการอ้างว่า ในพอร์ตของเขามีการถือพันธบัตรเก็บไว้แล้ว (U.S. Treasury) ซึ่งตรงนี้ คือ ถ้าเกิดสภาวะถดถอยจริงๆ จนถึงขั้นที่ธนาคารกลางต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ตัวพันธบัตรที่ถืออยู่ก่อน มันจะมีราคาสูงขึ้น และ Druckenmiller ก็จะได้ส่วนต่างจากราคานั้น

ตกลงเค้าจะ take off หรือ landing อะครับ ผม boarding pass รอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว 55555

อ้างจาก: iceron1 ที่ 03, มกราคม  2019, 03:42:29 PM
ตกลงเค้าจะ take off หรือ landing อะครับ ผม boarding pass รอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว 55555

กำลัง Take off ครับผม เมื่อคืน Landing เพราะ น้ำมันหมด ไปแล้ว ตอนนี้เติม แก๊ซโซฮอล พร้อมบินแล้ว ครับ