ในเดือนตุลาคม บริษัท Google จะยกเลิกการแบนโฆษณาที่เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีในสหรัฐฯ และญ่ีปุ่น

อย่างไรก็ตาม เฉพาะบริษัทท่ี่ได้รับการรับรองกับ Google ในเฉพาะบางประเทศเท่า นั้น ท่ี่จะสามารถลงโฆษณา
เงิน คริปโตได้

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้หมายความว่า จะมีคนญ่ีปุ่นและคนอเมริกันที่สามารถผันตัวมาเป็นนักลงทุนเงิน คริปโต
มากข้ึนเร่ือยๆ โดยสถานการณ์ของนักลงทุนญี่ปุ่นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เน่ืองจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อใน
ญี่ปุ่นสูงไม่เกิน 2%

สภาพทางเศรษฐกิจดังกล่าวสามารถทำให้ญี่ปุ่นเป็นแหล่ง ป้อนเงินทุนหลักเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอเรนซีได้
ลองจินตนาการดูว่า หากผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นกู้สินเชื่อจำนวน 1 ล้านเยน (ประมาณ $8,800) โดยมีดอกเบี้ย
2% ต่อปีในระยะเวลา 3 ปีซึ่งหมายความว่า เขาจะตอ้งชำระเงินคืนธนาคารประมาณ 29,000 เยน ต่อเดือน
หรือประมาณ $254 ดอลลาร์
ด้วยมาตรฐานการใช้ชีวิตในมหานครประเทศญี่ปุ่นมีคุณภาพค่อนข้างสูงดังกล่าว ดังนั้นภาระทางสินเช่ือดังกล่าว
จึงเป็นที่ยอมรับได้ จากนั้นผู้ประกอบการของเราจะซื้อบิทคอยน์ด้วยเงินทั้งหมด และเนื่องด้วยความผันผวนสูง
ของสินทรัพย์ตัวนี้ แผนการลงทุนของนักลงทุนจึงตั้งอยู่บนข้อสันนิษฐานสองประการ ดังนี้:
1. ความเสี่ยงสูงสุด นักลงทุนพร้อมที่จะสูญเสียเงิน เพียง 200,000 เยน กล่าวคือ ไม่เกิน 20% ของเงินต้น
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จะมีการคืนเงินจำนวน 800,000 ให้กับธนาคาร และเงินที่เหลือ 200,000 จะชำระ
กลับคืนอย่างรวดเร็วพร้อมดอกเบี้ยเล็กน้อย
2. การคาดการณ์กำไร ราคาบิทคอยน์สามารถพุ่งสูงขึ้นจากการยกเลิกการแบนโฆษณาของ Google แม้ว่าราคา
จะขยับขึ้นเพียง 20-30% นักลงทุนชาวญ่ีปุ่นจะได้ร้บเงิน 200,000-300,000 เยน
สิ่งท่ีน่าดึงดูดใจมากที่สุดเกี่ยวกับสถานการณ์นี้คือการใช้เงินญี่ปุ่นสามารถทำสำเร็จได้ในหน่ึงสัปดาห์แม้กำไร
เพียง 10% ก็ดูดีมากเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเกือบศูนยเ์ปอร์เซนต์กับเงินฝากธนาคาร
แม้ความเสี่ยงสูง นี่คือสัญญาณว่านักลงทุนญี่ปุ่นกำลังไหลเวียนเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยตามข้อมูลของ
Coinmarketcap ตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นได้เพิ่มปริมาณการเทรดเงินคริปโตขึ้น
หลายเท่าตัวแล้ว

แน่นอนว่า สมมติฐานนี้อาจไม่ได้ร้บการยืนยัน อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังคงรักษาสถานะผู้นำโลกในดา้นระบบการ
เงินสมัยใหม่มาตลอด ตั้งแต่ตลาดคริปโตเคอเรนซีได้เข้าผนวกในระบบนี้และดินแดนพระอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ก็น่า
จะยังคงดำรงสถานะหน้าที่นี้ต่อไป