Foreign exchange market (Forex หรือ FX) ฟอเร็กซ์ คือ ตลาดการค้าเสรีของสกุลเงินระหว่างประเทศ ผู้ค้าสั่งซื้อสกุลเงินหนึ่งเพื่อแลกกับเงินสกุลเงินอื่น (ซื้อ-ขาย เงินตราต่างประเทศเสรี) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2514 หลังจากยกเลิก "ระบบการจัดการการเงินเบรตตันวูดส์" ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกการผูกเงินดอลลาร์สหรัฐไว้กับทอง จนนำไปสู่การเกิดตลาดระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราลอยตัว และกลายเป็นสกุลเงินหลักในการแลกเปลี่ยนของโลก
บนโลกของเรามีสกุลเงินทั้งหมด 164 สกุล แต่โลกของเรามีเงินสกุลหลักซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประกาศให้ใช้เหล่านี้เป็นเงินสกุลหลักของโลกอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ USD, ปอนด์ GBP, ยูโร EUR, เยน JPY และหยวน CNY ซึ่งเงินหยวนเพิ่งได้เพิ่มเข้าเป็นเงินสกุลหลักของโลกอย่างเป็นทางการ เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ซึ่งตรงกับวันชาติจีน
การแลกเปลี่ยนเงินมี 3 รูปแบบคือ
1. ทางตรง คือใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตัวตั้ง เช่น USD/THB 1 ดอลลาร์ = 33 บาท
2. ทางอ้อม คือใช้เงินดอลลาร์เป็นตัวโค๊ต เช่น EUR/USD 1 ยูโร = 1.1600 ดอลลาร์
3. แลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น EUR/JPY 1 ยูโร = 129 เยน
การเทรดฟอเร็กซ์ คือ การซื้อเงินสกุลหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ขายอีกสกุลเงินหนึ่งด้วย ซึ่งจะเทรดผ่านโบรกเกอร์ เช่น เงิน EUR/USD, GBP/JPY เป็นต้น ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูง เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ โดยผู้ซื้อ-ขายในตลาดฟอเร็กซ์ ได้แก่ ธนาคารกลาง, ธนาคารพาณิชย์, บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์, กองทุนและกองทุนป้องกันความเสี่ยง, โบรกเกอร์ และประชาชน (เทรดเดอร์)
การเทรดคู่สกุลเงิน ในตลาดฟอเร็กซ์ มีความผันผวนค่อนข้างสูง แต่ก็สามารถใช้การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค ช่วยในการคาดการณ์ โดยการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ข่าวการเศรษฐกิจ, ข่าวการเมืองและความมั่นคง และสุนทรพจน์ของบุคคลสำคํญต่างๆ ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยค้นหาสัญญานในการซื้อ-ขาย ด้วยตัวบ่งชี้ หรือเครื่องมือการวิเคราะห์อื่นๆร่วมกัน อีกทั้งยังจะช่วยคาดการณ์กำไรที่คาดหวังด้วย
โดย นิรมล นิตย์นิธิพฤทธิ์ (นักวิเคราะห์การเงิน, Olymp Trade)