นานแค่ไหน? ถึงจะเป็น " เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ " ตอนที่นักเทรดมือใหม่เริ่มต้นการเทรด หลายคนอาจจะสงสัยว่า จะต้องเทรดนานขนาดไหนถึงจะสามารถเป็น " เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ " ได้
การทำให้สิ่งที่นักเทรด คาดหวังเกิดขึ้นจริงนั้นสิ่งสำคัญคือ ช่วงเริ่มต้น แล้วนักเทรดอย่าคิดว่าจะรวยได้ในไม่กี่สัปดาห์ มิฉะนั้นอาจจะต้องเตรียมรับความผิดหวังไว้ได้เลย หลายต่อ หลายครั้ง ทันทีที่นักเทรดมือใหม่ เปิดออเดอร์แล้ว ก็จะนั่งจ้องกราฟ ประหนึ่งโดนดูดวิญญาณ เข้าไปในจอเลยทีเดียว บ้างก็ใช้พลังจิตในการทำให้ กราฟวิ่งในทิศทางที่ตัวเองเปิดออเดอร์ ด้านนั้น ๆ และทันทีที่ กราฟวิ่งผิดทางจากที่ออกออเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านซื้อ หรือ ด้านขาย นักเทรดมือใหม่ มักจะโทษทุกอย่างที่ไม่ใช่ตัวนักเทรดเอง เช่น สงสัย โบรคแอบถ่าง SPRED ( ค่าคอมมิสชั่นของโบรค ) มากิน STOP LOSS ( จุดตัดขาดทุน ) เรา, สงสัยนักลงทุกรายใหญ่ เข้ามาทำราคา, สงสัย.. สงสัย.. และสงสัยไปหมด โดยไม่เคยมองว่า เหตุเกิดจากตัวเอง บางครั้งโทษแม้กระทั้ง นักเทรดเทพ ๆ ว่า เอาแต่ตอนที่ ตัวเองเปิดออเดอร์แล้วเป็น บวก มาโชว์ ( เพราะไปตามซิกเทพ )
สรุปง่าย ๆ ว่าคนอื่นผิดหมด และ ตัวเอง ... ไม่เคยผิด
ในความเป็นจริง เครื่องมือหลัก ๆ ใช้ในการลงทุน สำหรับการเป็น " เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ " มีแค่สองส่วนหลัก ๆ คือ
การลงทุนเวลา เป็นที่เข้าใจกันว่าการที่นักเทรดมือใหม่ จะเป็นผู้ซึ่งมีความสามารถสร้างกำไรได้ อย่างต่อเนื่อง มันอาจจะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ในการฝึกฝน หัดเทรดทุกวัน ทุกวัน จนกระทั่งมีความพร้อมพอที่จะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากตลาด FOREX บางทีถ้านักเทรดสามารถสร้างรายได้จากตลาดได้ในช่วงสองเดือนแรก เดาได้เลยว่า มันจะเหมือนเป็นโชคมากกว่า ความสามารถ
หลังจาก การฝึกหัดเทรด 6 เดือนถึง 1 ปี นักเทรดอาจค้นพบตัวเองว่า ถนัดการเทรดแบบไหน DAY TRADE, SWING TRADE ย่อยไปอีก คือ เทรดสั้น ๆ หรือเทรดยาว ๆ เทรดตามเทรน หรือ เทรดสวนเทรน เทรดตามกราฟ เทรดตาม INDICATOR หรือแม้แต่เทรดตามซิก ไม่ว่านักเทรด จะเทรดอย่างไร มันก็เป็นทางที่แตกต่างกัน ตามที่ถนัด และถ้ามีความถนัดแล้ว นักเทรดจะมองเห็นความได้เปรียบ และรักษาผลลัพธ์นี้ไว้ต่อไปในอนาคต หลังจากนั้น อย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเองต่อ ไหน ๆ ก็ลงทุนเรื่องเวลา และได้ผลลัพธ์ที่ถนัดไว้แล้ว ให้นำเอาเวลาที่เหลือไป มองหาวิธีการใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อทำให้ผลลัพธ์ที่ คิดว่าดีแล้ว ยิ่งดียิ่งขึ้น บางทีรายได้ หรือ กำไรที่ได้มา อาจใช้เวลาน้อยลง เช่นถ้าเป็น DAY TRADING อาจใช้เวลาอยู่ในตลาด 2 ชั่วโมง ต่อวัน แต่ SWING TRADING ใช้เวลาอยู่ในตลาดเพียง 20 นาทีต่อวันเท่านั้น
แต่ในช่วงแรก นักเทรดจำเป็นต้องฝึกเทรดให้มาก ๆ ลงทุนเวลาให้มากกว่าปรกติจงลงมือทำ แล้วจะเห็นผล
การลงทุนเงิน ก่อนการลงทุนเรื่องเงิน นักเทรดสามารถเปิดบัญชี DEMO เพื่อทดลองเทรด โดยเปิดได้ฟรีแทบทุกโบรคเกอร์ นับเป็นการลงทุนเรื่องเวลา และยังทำให้ นักเทรดเองมีความคุ้นเคยกับเครื่องมือต่าง ๆ ใน MT4 อีกด้วย นักเทรดเอง สามารถทดสอบความสามารถในการเทรด ทดสอบระบบต่าง ๆ ที่เรียนมา ทดสอบจิตใจว่าชอบ STYLE การเทรดแบบไหนกันแน่ ทดสอบจิตใจช่วงที่ กราฟทำกำไร ( ทนถือกำไรไว้จนกว่าจะถึงจุดที่เรา ตั้ง TAKE PROFIT ไว้ได้หรือไม่ ) และหรือ ช่วงที่ กราฟทำขาดทุน ( นักเทรดจะยอมคัทเงินที่เทรดผิดพลาดได้ที่จุดไหน ) สุดท้ายการเทรดแบบไหนที่ทำให้คุณใช้ชีวิตปรกติได้อย่าง สบายใจ ( เงินก็อยากได้ เวลาก็อยากมี ) ^^
ต่อมาไม่ว่านักเทรดจะสามารถหารายได้จากการเทรดได้หรือไม่ได้ ยังขึ้นอยู่กับต้นทุนด้วย นักเทรดสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในแต่ละเดือนได้ และทำได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้านักเทรดมีเงินต้นทุนเพียง 100 เหรียญ ในบัญชี และสร้างรายได้ 30% ต่อเดือน เท่ากับว่า นักเทรดจะมีเงินทุน บวกกำไรรวมเป็น 130 เหรียญ ถ้านักเทรดเอาแต่เงินกำไรออกมา ( เพื่อเป็นรายได้ ) มันไม่ได้ทำให้มีรายได้มากนัก แต่ถ้านักเทรดมีเงินต้นทุนที่ 1,000 ถึง 10,000 เหรียญ เพื่อทำการเทรด แล้วสมมุติว่าสามารถสร้างรายได้ 30% ต่อเดือนเท่ากัน จะมีเงินกำไร $300 ถึง $3,000 คราวนี้ นักเทรดจะมองเห็นกำไรหรือที่เรียกว่า รายได้ ได้ง่ายขึ้นตั้งแต่ช่วงที่กราฟบวกที่ เปอร์เซ็นน้อย ๆ ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการลงทุนเรื่องเวลา ที่จะสามารถทำให้นักเทรดมองหาจุดการเข้าเทรดที่แม่นยำ ด้วย
สรุปคร่าวๆ คือ ลงทุนเวลา หาความรู้เกี่ยวกับ วิธีการต่างๆ ทดสอบ วัดผล ทำซ้ำ ทำวนไป จนกว่าจะได้ ผลลัทธ์ที่พอใจ โดยอาจหัดเทรดที่ DEMO ในการหาระบบใหม่ ๆ ที่ใช่แบบที่ตัวเองต้องการ และ หัดเทรดที่ บัญชี MICRO เพื่อหาเงินทุน ไปด้วยในระหว่างทางที่ลงทุนเรื่องเวลา เพื่อเอากำไรที่ได้ มาเป็นการลงทุนในข้อ การลงทุนเรื่องเงิน ต่อไป
ขอฝากไว้ว่า ... ในโลกของ ฟอเร๊กซ์ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายนัก หากไม่ลงทุนฝึกฝนและปฏิบัติในสิ่งที่นักเทรดสนใจ และหากยังไม่ขยันฝึกฝน คิดแต่อยากได้กำไร เฝ้าตามแต่ซิกของเทพ อยู่เรื่อยๆ คาดเดาได้ว่ามันคงอันตรายไม่น้อยที่หลาย ๆ คนที่มีทักษะและความชำนาญมากกว่าตัวเรา จะมาแสวงหาผลประโยชน์จากความไม่ชำนาญของตัวเรา