Step 1 : วิเคราะห์ Market Structure
ตรวจสอบโครงสร้างตลาดเพื่อดูแนวโน้ม

แนวโน้มขาขึ้น → มองหาจังหวะเข้า BUY
แนวโน้มขาลง → มองหาจังหวะเข้า SELL

ตัวอย่างตลาดขาลง (Bearish Market Structure)
ราคาเคลื่อนที่เป็น Lower High (LH) → Lower Low (LL)
โครงสร้างตลาดบอกว่าราคายังอยู่ในแนวโน้มขาลง
เราจะมองหาจุดเข้า Sell

Step 2 : ค้นหา Liquidity (สภาพคล่องของตลาด)

ตลาดมักจะเคลื่อนที่ไปเก็บ Liquidity (Stop Loss หรือ Pending Orders) ก่อนจะเปลี่ยนทิศทาง

Buy-side Liquidity (BSL) → อยู่เหนือจุดสูงสุด (Swing High)
Sell-side Liquidity (SSL) → อยู่ใต้จุดต่ำสุด (Swing Low)

เป้าหมายของ Smart Money คือการ "ไล่ล่า Stop Loss" ก่อนเปลี่ยนทิศทาง
เราจะรอดูว่าราคาขึ้นไปเก็บ Buy-side Liquidity หรือไม่

Step 3 : มองหา Change of Character (CHoCH)

เมื่อราคาไปเก็บสภาพคล่องแล้ว ให้รอดู CHoCH (เปลี่ยนโครงสร้างตลาด)

CHoCH (Change of Character) เกิดขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแนวโน้มจาก ขาขึ้น → ขาลง หรือ ขาลง → ขาขึ้น
เมื่อ CHoCH เกิดขึ้น → แสดงว่าตลาดกำลัง "กลับตัว"

วิธีดู CHoCH
ราคาไปเก็บ Buy-side Liquidity
จากนั้นราคากลับตัวและทำลาย Higher Low (HL) ก่อนหน้า
นี่คือสัญญาณว่า Smart Money อาจกำลังเปลี่ยนทิศทาง
เราจะรอให้ราคากลับมารีเทสต์ก่อนเข้าออเดอร์ Sell

Step 4 : มองหา Order Block (OB) และ Fair Value Gap (FVG)

เมื่อตลาดเปลี่ยนโครงสร้างแล้ว เราต้องหาจุดเข้าออเดอร์ที่เหมาะสม
Order Block (OB) → จุดที่สถาบันเข้าออเดอร์
Fair Value Gap (FVG) → ช่องว่างของราคา (Imbalance) ที่ตลาดมักจะกลับมาเติม

การเลือก OB ที่เหมาะสม
OB ควรอยู่ ใน Premium Zone (เหนือ 50% ของ Fibonacci Retracement)
OB ควรมี FVG (Fair Value Gap) สนับสนุน
เราจะวาง Pending Order (Sell Limit) ที่ OB

Step 5 : วางออเดอร์ (Sell Limit)

เมื่อราคาเข้ามารีเทสต์ที่ OB → ให้เปิดออเดอร์
Sell Limit → ที่ OB หรือ FVG
Stop Loss (SL) → เหนือ OB
Take Profit (TP) → ที่ Sell-side Liquidity

Risk-to-Reward Ratio (RRR)
ใช้ RRR 1:3 หรือสูงกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร

Step 6 : จัดการความเสี่ยง (Risk Management)
ใช้การบริหารความเสี่ยงเพื่อลดโอกาสขาดทุนหนัก
ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรด
ใช้ Partial TP หรือ Trailing Stop เพื่อล็อกกำไร
หลีกเลี่ยงการเข้าเทรดช่วงข่าวแรง

ภาพรวมการเข้าเทรด (SELL SETUP)
Step 1: ตลาดเป็นขาลง (Bearish Market Structure)
Step 2: ราคาไปเก็บ Buy-side Liquidity
Step 3: เกิด CHoCH → เปลี่ยนโครงสร้างตลาด
Step 4: หาจุดเข้า Sell ที่ Order Block + FVG
Step 5: ตั้ง Sell Limit + วาง SL/TP
Step 6: จัดการความเสี่ยง (Risk Management)

ตัวอย่างการเข้าเทรดฝั่ง BUY
กระบวนการเหมือนกันแต่กลับด้าน
Step 1: ตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish)
Step 2: รอให้ราคาไปเก็บ Sell-side Liquidity
Step 3: รอให้ราคาเกิด CHOCH (Change of Character)
Step 4: วาง Buy Limit ที่ Bullish Order Block (BOB) + FVG
Step 5: ตั้ง SL ใต้ OB และ TP ที่ Buy-side Liquidity