กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

🚀💹EUR/USD Forex ศุกร์ 21 มกราคม 2565 กลับมาได้แล้วอย่าดื้อเลยนะ>>พี่จะพาเธอขึ้นสวรรค์🚀💹

  • 17 replies
  • 5,032 views
*

PoNgPk

  • 6,490
(Jan 22) 'Fed' เปิดผลศึกษา 'ดอลลาร์ดิจิทัล' ชี้ไม่เพียงเขย่าโครงสร้างระบบการเงินสหรัฐฯ แต่ยังเปลี่ยนแปลงบทบาทธนาคารกลางและแบงก์พาณิชย์ทั้งหลาย : สิ้นสุดการรอคอยของใครหลายคน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับเงินดอลลาร์ดิจิทัลที่เลื่อนมาหลายระลอก โดยการศึกษาได้สำรวจข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลกลางที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) พร้อมเปิดโอกาสให้สาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลางได้เข้ามาร่วมแสดงความเห็นเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เอกสารรายงานจำนวน 40 หน้าของ Fed ในครั้งนี้ กลับหลีกเลี่ยงที่จะระบุถึงข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลกลาง ซึ่งรวมถึงท่าทีของ Fed ว่าจะเดินหน้าเปิดตัวเงินดอลลาร์ดิจิทัลออกมาใช้เหมือนเช่นธนาคารกลางจีนหรือไม่ โดยเดิมรายงานดังกล่าวจะต้องเปิดเผยออกมาในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว (2021) แต่กลับเลื่อนออกไป ซึ่ง เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ให้เหตุผลว่ายังขาดข้อมูลบางอย่าง จึงต้องการเวลาเพิ่มเติมในการรวบรวมจัดทำ

สำหรับเนื้อหาภายในรายงานได้ให้ภาพรวมถึงประโยชน์ของสกุลเงินดิจิทัลอย่างละเอียด รวมถึงการช่วยเร่งให้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินไปได้อย่างสะดวกราบรื่นมากขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่ธุรกรรมการเงินทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกดิจิทัล ขณะที่ข้อเสียที่รายงานของ Fed เอ่ยถึงคือ ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน และการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy) ของผู้ใช้งาน

ขณะเดียวกันตัวรายงานยังได้ระบุข้อเสนอแนะในการจัดเตรียมมาตรการกำกับดูแลและควบคุมทางกฎหมาย เพื่อป้องกันการฉ้อโกง หลอกลวง และการกระทำผิดทางอาญาอื่นๆ ที่สามารถใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นตัวอำนวยความสะดวกได้ ก่อนสรุปว่า CBDC หรือสกุลเงินดิจิทัลกลาง สามารถเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานระบบการเงินของสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงบทบาทความรับผิดชอบของธนาคารกลางและบรรดาธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย

ที่ผ่านมาพาวเวลล์มักสงวนท่าทีเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลกลาง โดยเป็นท่าทีที่นักวิเคราะห์ระบุว่าไม่ได้คัดค้านแต่ก็ไม่ได้สนับสนุน ตรงกันข้ามกับรองประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed อย่าง เลล เบรนาร์ด ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลกลางอย่างเต็มที่ ขณะที่สมาชิก Fed ส่วนใหญ่ยังคงกังขาต่อประสิทธิภาพของเงินดอลลาร์ดิจิทัล เนื่องจากเห็นว่าผลประโยชน์ที่ได้รับยังขาดความชัดเจน

ทั้งนี้ความชัดเจนดังกล่าวหมายรวมถึงการที่เงินดอลลาร์ดิจิทัลจะเป็นสินทรัพย์ทางดิจิทัลของธนาคารกลางโดยตรง ต่างกับเงินดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ของภาคเอกชน ดังนั้นต่อให้ Fed จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แต่ผู้ฝากเงินบางรายอาจต้องการเก็บเงินดอลลาร์ดิจิทัลไว้ เนื่องจากมีความเสี่ยงในระดับต่ำ
รายงานระบุว่า ทาง Fed ยังได้เปิดให้สาธารณชนและผู้ส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นภายใน 120 วัน โดย Fed กล่าวว่า การรับฟังดังกล่าวเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้รายงานมีความสมบูรณ์ครอบคลุมมากขึ้น โดยการวิเคราะห์เบื้องต้นของ Fed ชี้ให้เห็นว่าหากสร้าง CBDC ของสหรัฐฯ ขึ้นมาใช้เอง ทางการสหรัฐฯ จะต้องมีระบบปกป้องความเป็นส่วนตัวและยืนยันตัวตนอย่างชัดเจน เพื่อให้เงินสกุลดอลลาร์ดิจิทัลเป็นตัวกลางถ่ายโอนการทำธุรกรรมได้อย่างกว้างขวางและปลอดภัย เป็นประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตาม ตัวรายงานยังระบุชัดว่าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ที่ได้เป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังไม่มีจุดยืนต้องการเปิดตัวสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลออกมาใช้งานในขณะนี้ และระบุว่า Fed กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ 'บริการชำระเงินและค่าใช้จ่ายตลอด 24 ชั่วโมง' ที่เรียกว่า Fed Now ซึ่งน่าจะออกสู่โลกออนไลน์ได้ภายในปี 2023

ขณะที่พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่ Fed ส่วนหนึ่งปิดท้ายว่า Fed ไม่ได้เร่งรีบที่จะออกสกุลเงินดิจิทัลกลาง เพราะการดำเนินการให้ถูกต้องมีความสำคัญมากกว่าการเร่งดำเนินการให้เร็ว โดยการเปิดตัวของ CBDC จะแสดงถึงนวัตกรรมทางการเงินขั้นสูงของสหรัฐฯ ดังนั้นการปรึกษาหารือในวงกว้างกับสาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรัดกุมจึงเป็นสิ่งจำเป็น และการจัดทำรายงานฉบับนี้เป็นเพียงก้าวแรกของการเริ่มต้นเท่านั้น และ Fed จะไม่ดำเนินการใดๆ หากไม่มีคำสั่งอนุมัติที่ชัดเจนจากทางสภาคองเกรส ซึ่งคำอนุญาตการออกเงินสกุลดิจิทัลกลางควรอยู่ในรูป 'กฎหมายอนุญาตโดยเฉพาะ'

Source: The Standard Wealth
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Jan 22) MF เตือนเฟดขึ้นดอกเบี้ยกระทบเศรษฐกิจประเทศหนี้สูง : นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีหนี้สกุลเงินดอลลาร์จำนวนมาก

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีหนี้เป็นเงินสกุลดอลลาร์จำนวนมาก เนื่องจากจะทำให้ประเทศเหล่านี้ชำระหนี้ในราคาที่แพงมากขึ้น

นางจอร์เจียว่าแนะนำให้ประเทศที่มีหนี้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ทำการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือทำการสว็อปค่าเงินเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

นางจอร์เจียว่ากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่เฟดจะต้องทำการสื่อสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแผนการด้านนโยบายเพื่อป้องกันการสร้างความตื่นตระหนกในตลาด

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Jan 23) เฟดยังไม่ปรับดอกเบี้ย ในการประชุม 25-26 ม.ค.นี้ แต่ส่งสัญญาณจะขยับขึ้น : ตลาดจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ ติดตามการส่งสัญญาณปรับนโยบายการเงินในปีนี้ คาดจะเริ่มปรับดอกเบี้ยขึ้นในการประชุมเดือนมี.ค
.
ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงเร่งตัวอย่างต่อเนื่องและตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ระดับเต็มศักยภาพ (Full employment) คาดว่าเฟดคงเริ่มวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค 2565 ตามที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้านี้

ขณะที่คงต้องติดตามการประชุมนโยบายการเงินครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก อีกทั้งในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและประมาณการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Dot Plot)

อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนธ.ค. 2564 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปีที่ 7.0% YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งสูงขึ้นที่ 5.5% YoY ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 กว่าปี

ทั้งนี้ ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและปัญหาขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยังไม่คลี่คลายลงในระยะเวลาอันใกล้ ขณะที่นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นในจีนอาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของจีนและยิ่งซ้ำเติมปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานโลก

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะยืนอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนสิ้นสุดไตรมาส 1/2566 ท่ามกลางอุปทานที่ยังตึงตัวและความเสี่ยงจากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่มีความตึงเครียดขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะข้างหน้า

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราว่างงานเดือนธ.ค. 2564 ลดลงมาสู่ระดับต่ำกว่าระดับ 4.0% ที่ 3.9% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้เข้าสู่ระดับเต็มศักยภาพ (Full employment) และเข้าใกล้ระดับก่อนโควิด ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ก่อนหน้า (9-15 ม.ค.) จะออกมาน่าผิดหวัง โดยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 286,000 ราย

แต่คาดว่าเป็นผลกระทบชั่วคราวจากการแพร่ระบาดของโอมิครอนที่ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นและส่งผลกระทบให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสะดุดลงบ้าง อย่างไรก็ดี ในภาพรวมตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งอยู่ ขณะที่ เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า ดังนั้นผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจมีไม่มากนัก

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อาทิ นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก นายจอห์น วิลเลี่ยม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์  ดังนั้น คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมี.ค. ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้

ในการประชุมนโยบายการเงินที่จะถึงนี้ คาดว่าเฟดจะยังคงไม่ส่งสัญญาณอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมี.ค. ซึ่งได้ส่งสัญญาณไปแล้วก่อนหน้านี้และตลาดรับรู้ไปแล้ว เพื่อรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่ ทั้งในประเด็นของความเสี่ยงจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การแพร่ระบาดของโควิด และปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานโลก

ขณะที่คงต้องติดตามการประชุมนโยบายการเงินครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก อีกทั้งในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและประมาณการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Dot Plot)

ตลาดคงจะต้องติดตามว่าเฟดจะมีการปรับจุดยืนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 3 ครั้งเป็น 4 ครั้งในปีนี้ตามที่ตลาดบางส่วนมีการคาดการณ์หรือไม่ โดยมีแนวโน้มว่าเฟดอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 4 ครั้งในปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี หากประเด็นความเสี่ยงต่างๆ ด้านเศรษฐกิจมีน้ำหนักมากขึ้น คณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่อาจจะยังคงมีมุมมองปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปีนี้

สำหรับผลกระทบต่อค่าเงินบาท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ตลาดได้รับรู้การส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งหากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณแข็งกร้าว (hawkish) เพิ่มเติมในการประชุมนโยบายการเงินที่จะถึงนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนเท่าใดนัก ขณะที่สถานการณ์โควิดในประเทศ ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนแนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินบาท

อย่างไรก็ดี หากเฟดมีการส่งสัญญาณ hawkish มากขึ้นในระยะข้างหน้า ประกอบกับหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตอย่างร้อนแรง คาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์ฯ ทยอยแข็งค่าขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยอาจยังคงมีไม่มากนัก ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจยังอยู่ในระดับที่อ่อนแออยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้

Source: PPTV
TRADE RIDER

 

XM Global Limited