กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

🔻🔻EUR/USD Forex ศุกร์ 3 ธันวาคม 2564 วันนี้ ข่าว Non-Farm ก็ทุบงามๆเลย ครับ🔻🔻

  • 29 replies
  • 7,039 views
*

admin

  • 84,260
🌍YLG_อัพเดทตัวเลขเศรษฐกิจ🌍

(+) การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ออกมาแย่ ‼️เกินคาด ตัวเลขจริงเพิ่มขึ้น 210K ตำแหน่ง คาดเพิ่มขึ้น 553K ตำแหน่ง ครั้งก่อนเพิ่มขึ้น 531K ตำแหน่ง #กดดันดอลลาร์สหรัฐ #หนุนทอง
.
(-) อัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ออกมาดี‼️กว่าคาด ตัวเลขจริง 4.2% คาด 4.5% ครั้งก่อน 4.6% #หนุนดอลลาร์สหรัฐ #กดดันทอง
.
(+)รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานเดือนพ.ย.ออกมาแย่‼️เกินคาด  ตัวเลขจริง 0.3% คาด 0.4% ครั้งก่อน 0.4%#กดดันดอลลาร์สหรัฐ #หนุนทอง
.
Source : Forexfactory
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 84,260
อุ๊ย โดนสอย ร่วงนะครับ

Tho*/ Tho*/ Tho*/
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

อ้างจาก: admin ที่ 03, ธันวาคม  2021, 08:47:51 PM
อุ๊ย โดนสอย ร่วงนะครับ

Tho*/ Tho*/ Tho*/
ข่าวจบแล้ว  ลงไปๆ
**ธอร์ทุบ**

*

admin

  • 84,260
อ้างจาก: momoro505 ที่ 03, ธันวาคม  2021, 09:07:13 PM
อ้างจาก: admin ที่ 03, ธันวาคม  2021, 08:47:51 PM
อุ๊ย โดนสอย ร่วงนะครับ

Tho*/ Tho*/ Tho*/
ข่าวจบแล้ว  ลงไปๆ
**ธอร์ทุบ**

มาตาม รถไฟ เลย เอ๊ย มาตามเทรน

/*CC /*CC /*CC
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

 **Hea** วิ่ง สลับ ฟันปลา แบบนี้ ea ได้มา 30 เหรียญล่ะ

*

admin

  • 84,260
อ้างจาก: zamurai ที่ 03, ธันวาคม  2021, 09:19:19 PM
**Hea** วิ่ง สลับ ฟันปลา แบบนี้ ea ได้มา 30 เหรียญล่ะ

เข้า ทาง EA กิน Sideway สินะครับ
**Hip** **Hip**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 84,260
EU new low แล้ว ทองจะตามไป

g*/- g*/- g*/-
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 84,260
EU เทสวย นะครับ วันนี้
TKo*) TKo*)
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

PoNgPk

  • 6,490
(Nov 3) สหรัฐกดดันหนักธุรกิจชาวจีนในประเทศ: รัฐบาลสหรัฐประกาศให้บริษัทขนาดใหญ่ของชาวจีนในสหรัฐ ต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบัญชี และแสดงหลักฐานว่าไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน ไม่เช่นนั้นจะต้องถอนตัวออกจากการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ภายใต้กฎใหม่ที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมตลาดหลักทรัพย์

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ระบุว่า กฎระเบียบใหม่ที่ได้รับการอนุมัติเมื่อวันพฤหัสบดี จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐอเมริกา (เอสอีซี) นับเป็นอีกก้าวของความขัดแย้งยืดเยื้อ ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจีน ที่ทำมาค้าขายอยู่ในสหรัฐ ว่าจำเป็นต้องเปิดเผยมากน้อยเท่าใด

กฎใหม่ของเอสอีซี กำหนดให้บริษัทที่ใช้ผู้ตรวจสอบบัญชีในต่างประเทศ ต้องยืนยันว่าบริษัทไม่มีเจ้าของหรือถูกควบคุมโดยรัฐบาล และต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ในรายงานประจำปี นอกจากนั้น เอสอีซียังสามารถกำหนด "ข้อห้ามทางการค้า" ต่อบางบริษัทได้

รัฐบาลอื่นๆ ให้ความร่วมมือ กับข้อเรียกร้องของสหรัฐ ในการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมจากบริษัท เพื่อป้องกันการรายงานเท็จ แต่ปักกิ่งซึ่งอ้างความวิตกด้านความมั่นคง ปฏิเสธที่จะให้ คณะกรรมการกำกับดูแลการบัญชีบริษัทมหาชนสหรัฐ (PCAOB) ตรวจสอบงานของผู้ตรวจสอบบัญชีชาวจีน และเตือนว่า จีนอาจจะห้ามกลุ่มนักลงทุนชาวอเมริกัน ไม่ให้เข้าถึงบริษัทที่กำลังเติบโตรวดเร็วของจีน

บริษัทชาวจีนหลายร้อยบริษัท สร้างรายได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดการเงินอเมริกา ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐห้ามชาวอเมริกันลงทุน ในหุ้น พันธบัตรและหลักทรัพย์อื่นๆ ของบริษัทจีน ที่มีความเกี่ยวพันกับความพยายามพัฒนาเทคโนโลยีทางทหาร ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน

Source เดลินิวส์
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Dec 3) IMF เรียกร้องเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ: กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการคุมเข้มนโยบายการเงิน ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
         
"ขณะนี้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐกำลังใกล้แตะระดับแนวโน้มก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ตลาดแรงงานตึงตัว ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อในวงกว้าง ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นต่อเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงยูโรโซน"
         
"ดังนั้น จึงเป็นการเหมาะสมสำหรับเฟดที่จะเร่งการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อปูทางสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย" IMF ระบุ
         
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ย.
         
ก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณยุติโครงการ QE เร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
         
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดอาจปรับลดวงเงิน QE มากกว่าเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฟดจะมีการหารือกันในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธ.ค.
         
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย. และเฟดจะปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งการลดวงเงิน QE ดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565
         
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะเพิ่มการปรับลดวงเงิน QE เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2565 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563

โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
Source: สำนักข่าวอินโฟเควสท์
TRADE RIDER

 %%22 EA (โปรเจค copy เทรด รอบ2) ยังทำกำไร ได้ดี เจอกราฟ สลับฟันปลา กำไรเล็ก ๆ น้อยเมื่อคืน

*

PoNgPk

  • 6,490
"โอมิครอน" กับเศรษฐกิจโลก และบทวิเคราะห์ภายใต้ความหวัง

ท่ามกลางความหวังที่ว่า "เศรษฐกิจโลกในปี 2022" จะค่อยๆ เริ่มฟื้นตัว กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่แทบจะหยุดเคลื่อนไหวมาเป็นเวลายาวนาน จะเริ่มต้นการขับเคลื่อนได้อีกครั้ง และ "พวกเรา" ในฐานะชาวโลกจะสามารถเฉลิมฉลองและจับจ่ายใช้สอยเนื่องในเทศกาลปีใหม่กันได้ด้วย "ความเชื่อมั่น" อย่างมีความสุขกันอีกครา

แต่แล้วการปรากฏตัวของ "สายพันธุ์โอมิครอน" ได้สั่นคลอนต่อทุกๆ ตัวอักษรในบรรทัดด้านบนโน่นลงแทบจะในทันที (อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่ชาวโลกกำลังรอคำตอบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับข้อมูลการกลายพันธุ์ของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์นี้)

แล้วโอมิครอนสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกแค่ไหน?

1.ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด สำหรับเศรษฐกิจโลกในปี 2022 :


"ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า (ปี 2022) ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกน่าจะชะลอตัวลงเหลือ 2% ซึ่งจะต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.5% ขณะที่การคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 4.2% หรือต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 0.4%"

โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs Group Inc.) วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ

Keyword : ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างน้อย 4.2%

หาก "สายพันธุ์โอมิครอน" ทำให้เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงจนขยายวงกว้างออกไปทั่วโลก และนำไปสู่การ Lock Down อีกครั้ง "ซัพพลายเชน" ที่ปัจจุบันตึงเครียดอยู่แล้วจะยิ่งถูกคุกคามเพิ่มมากขึ้น ส่วนอุปสงค์ที่กำลังค่อยๆ ฟื้นตัว ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน และทั้งหมดนี้จะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดความหวาดกลัว "เรื่องภาวะเงินเฟ้อที่เร็วขึ้น ซึ่งจะผสมผสานเข้ากับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าลง"

อย่างไรก็ดี ประสบการณ์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ อีกทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น จะทำให้การตอบสนองต่อสายพันธุ์โอมิครอนดีขึ้นกว่าในอดีต

2.โอมิครอนกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา :
"การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งการปรากฏตัวของสายพันธุ์โอมิครอน ได้ส่งผลให้เกิดปัจจัยลบต่อการจ้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวะความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ

ขณะเดียวกัน ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับไวรัส อาจลดความเต็มใจในการเข้าทำงานส่วนบุคคล จนส่งผลให้ตลาดแรงงานชะลอตัว และซัพพลายเชนเกิดภาวะชะงักงัน"


เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED

Keyword : เงินเฟ้อ ตลาดแรงงานและซัพพลายชะงักงัน

ปัญหาตลาดแรงงานสหรัฐฯ :

รายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 534,000 ตำแหน่ง โดยลดลงกว่าเดือนตุลาคม ซึ่งอยู่ที่ 570,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ดีในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งงานในธุรกิจภาคบริการถึง 424,000 ตำแหน่ง (ธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร ผับ บาร์ 136,000 ตำแหน่ง) ซึ่งเป็นการเริ่มฟื้นตัวเพื่อเตรียมรับมือกับการท่องเที่ยวและการเดินทางในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองปลายปีนี้ แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้อาจพังทลายลง หรือชะงักงันขึ้นได้ทันที หากสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ปัญหาเงินเฟ้อของสหรัฐฯ :

ดัชนีผู้บริโภคของสหรัฐฯ (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกันแบบปีต่อปี และนับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นแบบปีต่อปีมากที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ โดยเป็นผลมาจากเกิดจากภาวะชะงักงันของซัพพลายเชนทั่วโลก และความวุ่นวายในตลาดแรงงาน ด้วยพิษโควิด-19 ซึ่งสวนทางกับอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ค่อยๆ กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กำลังเริ่มเดินเครื่อง

ทั้งนี้ ก่อนหน้าการปรากฏตัวของ "สายพันธุ์โอมิครอน" นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า เฟดน่าจะตัดสินใจแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนเดือนมิถุนายน ปี 2022 อย่างไรก็ดี หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อโอมิครอนในสหรัฐอเมริกา ทำให้บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเริ่มคาดการณ์แล้วว่า เฟดอาจจะยังคงอัตราดอกเบี้ย "ใกล้ 0" เอาไว้อย่างน้อยจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า

3.โอมิครอนกับเศรษฐกิจสหภาพยุโรป :

"มีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปี 2022 แต่ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นว่า เราได้เรียนรู้มากมาย ตอนนี้เรารู้จักศัตรูแล้ว และรู้ด้วยว่าจะต้องใช้มาตรการอะไรเพื่อตอบโต้ นอกจากนี้เรายังมีความพร้อมมากขึ้นต่อการตอบสนองความเสี่ยงจากคลื่นการแพร่ระบาดระลอกที่ 5 หรือแม้แต่สายพันธุ์โอมิครอนก็ตาม

อย่างไรก็ดี วิกฤติสอนให้เรารู้ว่า ไวรัสตัวนี้ไร้ซึ่งขอบเขตของการแพร่ระบาด ด้วยเหตุนี้เราจะไม่ได้รับการปกป้องจนกว่าจะได้รับการฉีดวัคซีน"

คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB)

Keyword : พร้อมรับมือคลื่นการแพร่ระบาดระลอกที่ 5

นักวิเคราะห์มองว่า อัตราการฉีดวัคซีนในหลายๆ ประเทศของทวีปยุโรป อยู่ในสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากร อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากอัตราการผลิตวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะเดียวกันสิ่งที่เด่นชัดอีกประการหนึ่ง คือ รัฐบาลของหลายๆ ประเทศในยุโรปได้แสดงท่าทีว่าจะไม่เร่งรีบที่จะกลับไปสู่การ Lock Down แม้จะพบการแพร่ระบาดสูงในช่วงฤดูหนาว เพื่อหวังจะรักษาความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจเอาไว้

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจครัวเรือน เริ่มมีประสบการณ์และสามารถปรับตัวให้เข้ากับข้อจำกัดเกี่ยวกับมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาด หรือแม้กระทั่งการ Lock Down ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้แม้ในอนาคตอาจมีการประกาศ Lock Down ขึ้น ผลกระทบก็ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับการแพร่ระบาดระลอกก่อนหน้านี้

4.โอมิครอนกับเศรษฐกิจเอเชีย :

"ในกรณีที่สายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชาวโลกมากไปกว่าสายพันธุ์เดลตา ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของทวีปเอเชียน่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากหากเทียบกับในช่วงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาก่อนหน้านี้ จำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีน ณ ปัจจุบัน มีอัตราส่วนเพิ่มสูงกว่ามาก และภูมิภาคเอเชียน่าจะยังคงประคองอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในแต่ละไตรมาสของปีหน้าเอาไว้ได้ที่ 1.9%"

นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน และที่ปรึกษาทางการเงินระดับโลก

Keyword : กระทบต่อเศรษฐกิจเอเชียในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

อัตราการฉีดวัคซีนเมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า การระบาดก่อนหน้านี้ คือ ปัจจัยสำคัญ และถึงแม้ว่า สายพันธุ์โอมิครอน มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดภาวะชะงักงันในอินเดียและภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีพรมแดนที่ต่อเนื่องและค่อนข้างเปิดกว้าง แต่ประเทศเหล่านั้นมีแนวโน้มสูงที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดเข้าควบคุมทันทีหากพบว่ามีการแพร่ระบาดในระดับสูง

ในขณะที่ประเทศจีน น่าจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก "สายพันธุ์โอมิครอน" น้อยที่สุด เนื่องจากมีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดในการดูแลชายแดน อีกทั้งยังยึดมั่นในนโยบาย "COVID-zero" อย่างจริงจังอีกด้วย.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Dec 4) IMF จ่อหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกอีก เซ่นพิษโอไมครอนลาม : นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในการประชุม Reuters Next ในวันศุกร์ (3 ธ.ค.) ว่า IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 40 แห่งแล้วนับตั้งแต่มีรายงานการตรวจพบที่แอฟริกาใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และรัฐบาลจำนวนมากได้สั่งคุมเข้มการเดินทางเพื่อพยายามที่จะสกัดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว

"ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากนั้น จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และเรามีแนวโน้มที่จะปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจากที่เคยคาดไว้ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา" นางจอร์เจียวากล่าวในที่ประชุม

ทั้งนี้ ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 5.9% จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ค.ที่ระดับ 6.0% แต่ยังคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าไว้ที่ 4.9%=

บางประเทศในยุโรปและสหรัฐกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์โอไมครอนก็อาจจะสั่นคลอนเสถียรภาพเศรษฐกิจซึ่งเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์และภาวะชะงักงันที่เกิดจากโรคโควิด-19

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า งานเลี้ยงเทศกาลคริสต์มาสของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงออสโล เมืองหลวงของนอรเวย์นั้น พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างน้อย 13 ราย ซึ่งนับเป็นการระบาดครั้งใหญ่สุดนอกแอฟริกาใต้จนถึงขณะนี้

นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากระบุว่า วิธีที่จะหยุดยั้งไวรัสโควิดไม่ให้แพร่ระบาดนั้นได้แก่ การรับประกันว่าประเทศยากจนจะสามารถเข้าถึงวัคซีน แต่จะไม่ใช่การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้กับประชาชนในประเทศที่ร่ำรวย

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
ซีอีโอ BioNTech เผยการระบาดของโอมิครอนทำให้โอกาสที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ทุกปีมีเพิ่มขึ้น
.
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า อูช์ ชาฮิน (Ugur Sahin) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท BioNTech ของเยอรมนีเผยในที่ประชุม Reuters Next ว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสเพิ่มโอกาสที่ผู้คนจะต้องฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ทุกปีเหมือนกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
.
ชาฮินกล่าวอีกว่า BioNTech สามารถปรับวัคซีนป้องกัน Covid-19 ได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อสายพันธุ์โอมิครอน และสถานการณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้จะแสดงให้เห็นว่าต้องอัพเกรดวัคซีนเร่งด่วนเท่าใด
.
ชาฮินกล่าวว่า ประชาชนควรฉีดวัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer ร่วมกับ BioNTech ต่อไป เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่ายังสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ต่อเนื่อง
.
"ผมเชื่อในหลักการว่า ณ ช่วงเวลาหนึ่งเราต้องมีวัคซีนใหม่เพื่อต้านสายพันธุ์ใหม่นี้ คำถามก็คือวัคซีนใหม่นี้ต้องเร่งด่วนแค่ไหน" ชาฮินกล่าว
.
ซีอีโอ BioNTech เน้นย้ำว่า การพัฒนาวัคซีนใหม่ควรสำเร็จภายใน 100 วันและกล่าวว่าขณะนี้การออกแบบวัคซีนใหม่กำลังดำเนินการอยู่ และหากวัคซีนเข็มกระตุ้นยังมีประสิทธิภาพ 85-90% "เราจะมีเวลาเพิ่มขึ้นในการปรับวัคซีน"
.
อย่างไรก็ดี มีความกังวลว่าวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเจอสายพันธุ์โอมิครอน
.
แต่ชาฮินยืนยันแนวคิดของเขาโดยเผยกับ Reuters เมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ว่า สายพันธุ์ใหม่อาจทำให้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อแต่ช่วยป้องกันการเข้ารักษาในโรงพยาบาล
.
"เราคาดว่าสายพันธุ์ใหม่นี้จะพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ซึ่งหมายความว่าสายพันธุ์นี้ทำให้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อได้" ชาฮินกล่าว
.
ชาฮินเผยอีกว่า "เราคาดว่าผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนแล้วยังได้รับการปกป้องจากอาการรุนแรง" และ "ไวรัสกลายพันธุ์สูงนี้มาเร็วกว่าที่ผมคาดไว้ ผมคาดว่ามันอาจจะมาปีหน้าแต่ตอนนี้มันอยู่กับพวกเราแล้ว"
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.posttoday.com/world/669828
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Dec 6) กูรูวิเคราะห์ '3 เหตุผล' ทุบราคาเหรียญคริปโตดิ่งหนักทั้งกระดาน ทำ Bitcoin ร่วงต่ำกว่า 5 หมื่นดอลลาร์: ราคาคริปโตเคอร์เรนซีผันผวนอย่างหนัก มูลค่าตลาดรวมลดลงจาก 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ (3 ธันวาคม) เป็น 2.07 ล้านล้านดอลลาร์ในวันเสาร์ (4 ธันวาคม) แม้ว่ามูลค่าตลาดรวมจะเคยแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้วก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญตลาดคริปโตวิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องยากที่จะระบุสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้ราคาคริปโตร่วงลงอย่างหนัก แต่ก็พอจะสรุปถึงสาเหตุโดยคร่าวได้ดังนี้

Fed
หุ้นสามัญโดยทั่วไปมักจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายทางการเงินอยู่เป็นประจำ ซึ่งการปรับนโยบายการเงินครั้งนี้ของ Fed ก็กระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกตามคาดการณ์ สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซีก็เช่นกัน โดยเมื่อเร็วๆ นี้นักลงทุนชื่อดังอย่าง หลุยส์ นาเวลเลียร์ (Louis Navellier) เตือนว่าการปรับลดขนาด QE ของ Fed รอบนี้อาจทำให้ฟองสบู่คริปโต​แตก

นอกจากนี้นาเวลเลียร์ยังบอกด้วยว่า การลด QE ของ Fed จะทำให้บิทคอยน์ปรับลดลงราว 10,000 ดอลลาร์

โควิด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดทั่วโลกในปัจจุบันที่ถูกเพิ่มความกังวลด้วยสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องข้อมูลการแพร่ระบาด ความรุนแรงของอาการ และประสิทธิภาพของวัคซีนที่จะมาป้องกันและรักษา ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโตปั่นป่วนอย่างหนัก กระนั้นก็ยังคงมีนักลงทุนบางกลุ่มกระโจนสู่ตลาดคริปโตในช่วงที่ราคาไหลลงเมื่อวานนี้

วันหยุด
ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในเดือนธันวาคม เป็นฤดูกาลที่นักลงทุนส่วนมากมองหาจุดขายเพื่อทำกำไรและนำเงินออก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากตลาดหุ้นนัก

ท้ายที่สุด แม้บิทคอยน์จะปรับลดลง แต่ก็รีบาวด์กลับขึ้นมาได้ และหากมองตั้งแต่ต้นปีแล้วบิทคอยน์ก็ยังให้ผลตอบแทนดีกว่าสินทรัพย์อื่นๆ โดยราคาเทียบกับต้นปี ปรับขึ้นมา 66% (บิทคอยน์เริ่มต้นปีที่ประมาณ 29,400 ดอลลาร์)

สำหรับราคาบิทคอยน์ (BTC) ล่าสุด วันที่ 5 ธันวาคม 2564 ณ เวลา 14.00 น. เคลื่อนไหวอยู่ที่ 49,602 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.29% ในรอบ 24 ชั่วโมง

ในช่วงที่ราคาบิทคอยน์ไหลลงยังมีคนมองเห็นโอกาส และ Buy the Dip โดยนายิบ บูเคเล ประธานนาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ประกาศซื้อบิทคอยน์จำนวน 150 เหรียญในช่วงที่ราคาบิทคอยน์ดิ่งต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ หรือสูญเสียมูลค่าตลาดมากกว่า 15%

หลังการซื้อครั้งนี้ทำให้เอลซัลวาดอร์มีเงินสำรองจำนวน 1,270 เหรียญบิทคอยน์ หรือมีมูลค่าเกือบ 60.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ในขณะที่รายงานก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งซื้อไป 100 บิทคอยน์ ระหว่างตลาดปรับฐาน 

โดย ศนิชา ละครพล

Source: The Standard Wealth
https://thestandard.co/3-reasons-behind-the-crypto-crash-that-dragged-bitcoin/

เพิ่มเติม
- 3 reasons behind the crypto crash that dragged Bitcoin below $50K : https://finance.yahoo.com/news/3-reasons-behind-the-crypto-crash-that-dragged-bitcoin-below-50-k-214133371.html

- บิตคอยน์ปักหัวลงต่อ ร่วงกว่า 12% วันนี้ หลุดระดับ 5 หมื่นดอลลาร์ : https://www.ryt9.com/s/iq21/3279285

- ใช้ Bitcoin บิทคอยน์ หรือ เงินคริปโต เหรียญไหน? ซื้ออะไรในไทยได้แล้วบ้าง? https://www.springnews.co.th/blogs/program/818761

- ไฟไหม้ เหมืองขุด บิตคอยน์ เชียงใหม่ : https://www.ejan.co/general-news/ไฟไหม้-เหมืองขุด-บิตคอยน์-เชียงใหม่
TRADE RIDER

 

XM Global Limited