(Nov 1) "เราต้องลงมือตอนนี้" เจ้าภาพประชุม COP26 ชี้เตะถ่วงไม่ได้แล้ว : นายกรัฐมนตรีบอร์ริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร กล่าวในการเปิดประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) โดยเรียกร้องให้เกิดความมุ่งมั่น การดำเนินการ และให้ทุกฝ่ายเร่งลงมือแก้ปัญหา
"เหลืออีกเพียงหนึ่งนาทีจะเที่ยงคืน เราต้องลงมือตอนนี้" นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าวกับผู้นำโลก ณ ที่ประชุม
พร้อมกล่าวว่าทั่วโลกจะต้องเริ่มเปลี่ยนความมุ่งหวังไปสู่การลงมือทำเพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก และเรียกร้องให้ผู้นำโลกเริ่มดำเนินการยุติการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินอย่างจริงจัง เร่งการเปลี่ยนผ่านมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และยุติการทำลายป่าไม้
การดำเนินการนี้จะสร้างความเแลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทศวรรษนี้บนเส้นทางไปสู่การบรรลุเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และรักษาระดับการเพิ่มของอุณหภูมิไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียสตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในความตกลงปารีส
ในขณะที่สหราชอาณาจักรประกาศจะทุ่มเงินอีก 1 พันล้านปอนด์ (ราว 45,600 ล้านบาท) ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นแนวหน้าเผชิญวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศ ภายในปีพ.ศ. 2568 หากเศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าที่คาดการณ์ไว้
เพื่อนำไปใช้ในโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปกป้องชุมชนที่เป็นแนวหน้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางธรรมชาติ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านมาสู่การใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
"มวลมนุษยชาติได้เตะถ่วงการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมานานแล้ว เหลืออีกเพียงหนึ่งนาทีจะเที่ยงคืน เราต้องลงมือตอนนี้...หากเราไม่จริงจังต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันนี้ จะสายไปสำหรับลูกหลานของเราที่จะเริ่มจริงจังในภายภาคหน้า"
"เราต้องเปลี่ยนจากการพูดคุยเจรจาหารือไปสู่การลงมือโดยแท้จริงและพร้อมเพรียง ในด้านเชื้อเพลิงถ่านหิน รถยนต์ เงินทุน และป่าไม้...พอแล้วกับความหวัง เป้าหมาย และความต้องการ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีค่าก็ตาม แต่ที่เราต้องการคืองคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนและกรอบเวลาที่เป็นรูปธรรมในการสร้างความเปลี่ยนแปลง"
"เราต้องลงมือทำจริงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโลกต้องรับรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร" นายกรัฐมนตรีบอร์ริส จอห์นสันกล่าว
โดยมีผู้นำประเทศเกือบ 200 ประเทศทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังถึงภัยที่ประเทศต่างๆ จะต้องเผชิญหากไม่มีการดำเนินการโดยทันที และจะกำหนดประเด็นการเจรจาในช่วงเวลาสองสัปดาห์ต่อจากนี้
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP26 เกิดขึ้น 6 ปีหลังจากการลงนามในความตกลงปารีสของประเทศกว่า 190 ประเทศ เพื่อจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสหรือให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสหากเป็นไปได้ องค์การสหประชาชาติระบุว่าด้วยสภาพปัจจุบันอุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 2.7 องศาเซลเซียส
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ระบุชัดว่าต้องลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปีพ.ศ. 2573 เพื่อที่จะรักษาเป้าตามความตกลงปารีสไว้ให้ได้
เป้าหมายการประชุม COP26 ของสหราชอาณาจักรในฐานะประธานการประชุม
- หนึ่งในเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ท้าทายที่สุดของสหราชอาณาจักรคือเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนการจกให้ได้ร้อยละ 68 ภายในปีพ.ศ. 2573 (ตามแผน NDC ของประเทศ) ซึ่งเป็นเป้าที่สูงที่สุดของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่
- ตั้งเป้าที่จะยุติการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินภายในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งได้มีความคืบหน้าในการดำเนินการแล้ว โดยในปีพ.ศ. 2563 พลังงานเชื้อเพลิงถ่านหินมีส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 2 ในตลาดพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของสหราชอาณาจักร เทียบกับร้อยละ 40 เมื่อเกือบทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร Powering Past Coal (กลุ่มพันธมิตรนานาประเทศเพื่อยุติการใช้ถ่านหิน)
- ยุติการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้พลังงานน้ำมันในสหราชอาณาจักรภายในปีพ.ศ. 2573 ซึ่งจะทำให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศที่ยุติการปล่อยคาร์บอนในยานยนต์ (รถเก๋งและรถตู้) ได้เร็วที่สุดในกลุ่มประเทศ G7
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โครงการเงินสนับสนุนของสหราชอาณาจักร (UK Aid) ได้ช่วยเหลือผู้คนกว่า 88 ล้านชีวิตให้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการติดตั้งไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนจำนวน 2,400 เมกะวัตต์เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ของผู้คน 44 ล้านชีวิตให้สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานสะอาดได้ และเงินสนับสนุนนี้ยังช่วยกำจัดคาร์บอนปริมาณ 51 ล้านตันในชั้นบรรยากาศ
Source: Posttoday