ลุ้นๆๆๆ

🏙YLG_Update : 21 มิ.ย.ข่าวทองภาคค่ำ📊

📣 Highlight: ทองรีบาวด์แตะไฮ $1,785‼️ หลังดอลลาร์ลดช่วงบวก ➕บิตคอยน์วูบรับข่าวแบงก์ยักษ์ใหญ่จีนประกาศแบนคริปโตฯวันนี้  📌คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงประธานอีซีบี, ประธานเฟดนิวยอร์ก

⭕️ ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกจากไฮระหว่างวันบริเวณ 92.37 ลงมาแถว 92.05 หลังสัญญาณเทคนิคชี้ เข้าเขตซื้อมากเกินไปในกราฟรายวันและราย 4 ชั่วโมง พร้อมเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ในกราฟราย 4 ชั่วโมง #หนุนทอง

⭕️ บิตคอยน์วูบแตะ 32K วิตกข่าว ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งประเทศจีน(The Agricultural Bank of China (ABC)) ประกาศสั่งห้ามลูกค้าไม่ให้ข้องเกี่ยวกับคริปโตฯ หากพบว่าเกี่ยวข้องบัญชีของลูกค้าจะถูกยกเลิกทันที #หนุนทอง

⭕️ ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ หุ้นเหมืองแร่-ธนาคารร่วงหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย #หนุนทอง

❌ ผู้เชี่ยวชาญอินเดียเตือนโควิดระลอก 3 อาจมาเร็วกว่าคาด เหตุปชช.ละเลยมาตรการ  #กดดันทอง

(+/-)  ผู้แทนพิเศษสหรัฐ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้หารือวันนี้ หวังเปิดทางเจรจาเกาหลีเหนือ

📌 21.15 น. ติดตามถ้อยแถลง คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ว่าจะส่งสัญญาณเริ่มปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในอนาคตหรือไม่ หากส่งสัญญาณลด QE จะหนุนค่าเงินยูโร กดดันดัชนีดอลลาร์ หนุนทอง แต่หากส่งสัญญาณเพิ่มวงเงิน QE จะกดดันค่าเงินยูโร หนุนดัชนีดอลลาร์ กดดันทอง

📌 ตี 2 ติดตามถ้อยแถลงของจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก เพื่อหาสัญญาณนโยบายเฟดเพิ่มเติม

Source : Infoquest, Bangkokbiznews, Investing, Efinancethai, Forexfactory
#YLGResearch

TP1 แล้ว นะจ๊ะ

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ


ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันนี้เวลา 13.45 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 00.45 น.ของวันที่ 22 มิ.ย.ตามเวลาไทย โดยปธน.ไบเดนจะหารือกับนายพาวเวลและนางเยลเลน รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายรายที่ห้องทำงานรูปไข่เกี่ยวกับสภาวะล่าสุดของระบบการเงินและสถาบันการเงินของสหรัฐ รวมทั้งความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากปัญหาโลกร้อน และการดำเนินการของหน่วยงานรัฐบาลในการช่วยเหลือให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น

นอกจากนายพาวเวลและนางเยลเลนแล้ว เจ้าหน้าที่ซึ่งจะเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ยังรวมถึงประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ, ประธานคณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งประธานสำนักงานคุ้มครองทางการเงินต่อผู้บริโภค


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

จะไป TP2 ล้าว

(Jun 21) บิตคอยน์ดิ่งต่อเนื่องใกล้หลุด 1,000,000 บาท หลังจีนสั่งกวาดล้างหนัก : บิตคอยน์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ใกล้หลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์ และใกล้หลุดระดับ 1,000,000 บาท หลังมีรายงานว่า รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์ในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นแหล่งขุดบิตคอยน์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน

ทั้งนี้ บิตคอยน์ดิ่งลงเกือบ 10% ในวันนี้ สู่ระดับ 32,094 ดอลลาร์ (ราว 1,014,000 บาท) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 วัน และเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 1 เดือน

นอกจากนี้ บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 20% ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา และทรุดตัวลงราว 50% จากเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เคยหลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) สามารถยึดบิตคอยน์มูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์จ่ายเป็นค่าไถ่ให้แก่กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ จากเงินค่าไถ่ทั้งหมดราว 4.4 ล้านดอลลาร์

บิตคอยน์เคยทะยานเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในกลางเดือนเม.ย. ขานรับ Coinbase Global Inc. ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ราคาบิตคอยน์ก็ได้หายไปกว่า 50% โดยไหลลงแตะระดับ 30,261 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเข้าควบคุมตลาดคริปโตของทางการจีนและสหรัฐ รวมทั้งการที่นายอีลอน มัสก์ ประกาศงดรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์เทสลา โดยอ้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดบิตคอยน์ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

(Jun 21) อังกฤษเตือน'ไวรัสตัวใหม่' เสี่ยงอุบัติ-ระบาดหนักหนาวนี้: นักวิทยาศาสตร์สหราชอาณาจักรเตือน "ไวรัสทางเดินหายใจชนิดใหม่" เสี่ยงอุบัติ ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงช่วงฤดูหนาวนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. คณะนักวิทยาศาสตร์ของสหราชอาณาจักรเตือนการเผชิญ "ฤดูหนาวอันน่าเศร้าสลด" ของประเทศ เนื่องจากมีแนวโน้มการอุบัติของเชื้อไวรัสทางเดินหายใจชนิดใหม่ กอปรกับความเป็นไปได้ของการล็อกดาวน์เพิ่มเติม

ศาสตราจารย์คาลัม เซมเพิล สมาชิกกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน (SAGE) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาของรัฐบาลสหราชอาณาจักร เผยว่า เด็กและผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อไวรัสเฉพาะถิ่นดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้

เซมเพิลอธิบายกับสถานีวิทยุไทม์ส เรดิโอ (Times Radio) ว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวเปรียบเสมือน "การระบาดระลอก 4 ในฤดูหนาว" และ "วิกฤติที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นหลังการระบาดใหญ่ทุกครั้ง" เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมจะลดการสัมผัสเชื้อไวรัสทางเดินหายใจเฉพาะถิ่นที่ก่ออาการปอดบวมและหลอดลมอักเสบ

"ผมเดาว่าเราจะเผชิญกับฤดูหนาวที่น่าสลดใจ เพราะไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ จะกลับมาและส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วง" เซมเพิลกล่าว "แต่หลังจากนั้น ผมคิดว่าธุรกิจจะฟื้นคืนสู่ปกติในปีหน้า"

ขณะเดียวกัน ซูซาน ฮอปกินส์ ผู้อำนวยการศูนย์รับมือโรคโควิด-19 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า สหราชอาณาจักรอาจต้องล็อกดาวน์ในช่วงฤดูหนาวนี้ หากโรงพยาบาลต่างๆ ไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่ล้นหลามได้ โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรยังมีวิธีรับมือผ่านการฉีดวัคซีน การใช้ยาต้านไวรัส และการตรวจโรคที่ไม่มีในฤดูหนาวครั้งก่อน

ทั้งนี้ คณะนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า อังกฤษกำลังเผชิญการแพร่ระบาดระลอก 3 เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (Delta) ที่พบครั้งแรกในอินเดีย แม้จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะไม่สูงเท่าตอนเดือนมกราคม

ข้อมูลล่าสุดจากสำนักสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) ชี้ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) มีประสิทธิภาพป้องกันการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 92 หลังรับครบสองโด๊ส ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) อยู่ที่ร้อยละ 96

ปัจจุบันสหราชอาณาจักรได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โด๊สแรกให้ประชาชนมากกว่า 42.6 ล้านคน ขณะอีกมากกว่า 31 ล้านคนได้รับวัคซีนครบสองโด๊สแล้ว ทว่าคณะผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเชื้อไวรัสโคโรนาอาจกลายพันธุ์ต่อเนื่องตลอดหลายปีข้างหน้า และมีความเป็นไปได้ว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาด การติดเชื้อ หรือแม้แต่เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ๆ ได้

Source: เดลินิวส์ออนไลน์

(Jun 22) เว็บไซต์เฟดเผย "พาวเวล" มองศก.สหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง-เงินเฟ้อพุ่งอย่างมีนัยสำคัญ : เว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยแพร่ร่างแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งเตรียมไว้สำหรับการแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ (22 มิ.ย.) โดยนายพาวเวลระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคง "ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง" หลังจากที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นแตะเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% หากภาวะไร้สมดุลเกี่ยวกับอุปทานได้รับการแก้ไข

"อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลังจากสหรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง" นายพาวเวลระบุในร่างแถลงการณ์ และยังกล่าวด้วยว่า "เนื่องจากผลกระทบจากภาวะติดขัดด้านอุปทานเริ่มลดน้อยลง ผมจึงคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟด"

นายพาวเวลยังได้แสดงความกังวลว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงเกิดขึ้นแบบไม่เสมอภาคกัน ขณะที่คนงานที่มีรายได้ต่ำยังคงเผชิญกับการตกงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนงานผิวสีและประชาชนในกลุ่มฮิสแปนิก (Hispanic) หรือชาวอเมริกันเชื้อสายสเปนและละตินอเมริกา

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลคาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะดีดตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน และยังคงดำเนินแผนการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ร่างแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุว่านายพาวเวลกล่าวถึงนโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบัน และไม่ได้ระบุถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเร่งแผนการถอนมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ (22 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 01.00 น.ของวันที่ 23 มิ.ย.ตามเวลาไทย โดยนายพาวเวลจะแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และการใช้นโยบายการเงินของเฟด ซึ่งรวมถึงการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์โควิด-19

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/กัลยาณี