(Mar 17) บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งเหนือ 1.67% ทำนิวไฮ 13 เดือน ก่อนเฟดเผยผลประชุมคืนนี้ : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.67% ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 13 เดือน ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้
ณ เวลา 19.11 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.673% หลังจากอยู่ที่ระดับเพียง 0.9% ในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.423%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ตลาดจับตาการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อจับสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้เม็ดเงินในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2-3 ปี
นักลงทุนกังวลว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นจากการที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปี 2556 ซึ่งส่งผลให้เฟดลดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความตื่นตระหนกจนทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว
นายเอียน เชปเพิร์ดสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า เขาจะรู้สึกประหลาดใจ หากนายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะเข้าสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
นายเชปเพิร์ดสันเชื่อว่า นายพาวเวลจะหาทางผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด แต่เขาจะไม่พูดว่าเฟดจะลดวงเงิน QE เนื่องจากหากนายพาวเวลกล่าวเช่นนั้น ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นโดยทันที ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมตลาดหุ้นที่กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ นายเชปเพิร์ดสันกล่าวว่า การที่นายพาวเวลจะยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในวันนี้ เป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน และเป็นเพียงการคาดการณ์ของตลาดเท่านั้น
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.ryt9.com/s/iq22/3209105********************
นักวิเคราะห์คาด Fed ยังคงดอกเบี้ย-ฉีดมาตรการ QE ต่อเนื่อง ในการประชุม 16-17 มีนาคมนี้ : การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ โดยสำนักข่าว Reuters ได้รวบรวมความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์คาดการณ์ท่าทีของ Fed ซึ่งจะมีการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคมนี้
โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า Fed น่าจะปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปี 2021 นี้ หลังได้รับปัจจัยหนุนการขยายตัว ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเดินหน้ากระจายฉีดวัคซีน และการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นล็อตใหญ่มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ รวมถึงช่วยให้อัตราการว่างงานลดลง
ส่วนนักลงทุนที่คาดหวังจะเห็น Fed ปรับเปลี่ยนนโยบายหลังมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ทำให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้น
นักวิเคราะห์หลายสำนักกล่าวว่า นักลงทุนที่คาดหวังว่า Fed จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินอาจจะต้องผิดหวัง โดย FOMC น่าจะยังคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ และมาตรการซื้อคืนพันธบัตรมูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีกสักระยะ ตามที่ Fed ได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะดำเนินการมาตรการดังกล่าวต่อไปจนกว่าที่จะมีสัญญาณความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ คือ อัตราการว่างงานลดลง ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อขยับถึงเป้าหมายที่ 2%
การคาดการณ์ในครั้งนี้สอดคล้องกับท่าทีของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ที่ออกมากล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะฟื้นตัวและกลับมาเติบโตในอัตราที่เร็วขึ้นในปีนี้ จนทำให้อัตราการว่างงานลดลง ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนข้อวิตกกังวลที่ว่าเงินเฟ้อในขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นเร็วเกินไป พาวเวลล์กล่าวชัดว่า ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวไม่น่าจะคงอยู่ได้ยาวและนาน และ Fed มีแผนที่จะอดทนอดกลั้นเพื่อรอดูสถานการณ์ให้แน่ใจก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ด้านสถานีโทรทัศน์ CNBC ได้สอบถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งที่มองว่า ไม่ว่าผลประชุมของ Fed จะเป็นอย่างไร จะปรับเปลี่ยนโยบายหรือไม่ ก็น่าจะส่งผลต่อทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดในสัปดาห์นี้
โดย Rick Rieder ซีไอโอของ BlackRock กล่าวว่า ถ้อยแถลงหลังประชุมของ Fed เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็น และท่าทีของ Fed ที่อาจจะสะท้อนแนวทางด้านนโยบายการเงินของ Fed ในอนาคต อาจทำให้เกิด March Madness ในตลาด โดย March Madness คือการแข่งขันบาสชิงแชมป์ประเทศของระดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยมและทำเงินอย่างมากในสหรัฐฯ
Rieder กล่าวว่า ตัวพาวเวลล์เองเป็นผู้ครองบอล และสิ่งที่เจ้าตัวจะตัดสินใจพูดในวันพุธนี้จะเป็นคำใบ้ที่ส่งต่อให้ตลาดรับลูกว่า Fed จะพิจารณายกเลิกซื้อพันธบัตรคืนและขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากศูนย์เร็วแค่ไหน
Source: The Standard Wealth