กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

✅⭐⭐แผนการเทรด EUR/USD พฤหัสบดี 26 พฤศจิกายน 2563 EU จะบินไปสู่ The MOON🛸🛸🛸

  • 21 replies
  • 6,618 views
*

PoNgPk

  • 6,490
(Nov 26) คอลัมน์ มุมคิดมหภาค: เจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐ : สำหรับ เจเน็ต เยลเลน อดีตธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ต้องขอบอกว่าเส้นทางบนถนนที่กำลังขึ้นสู่ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐของเธอในรัฐบาลของ "โจ ไบเดน" เหมือนจะมาจากฟ้าลิขิตอยู่ส่วนหนึ่ง โดยในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ เขาเลือก เจย์ พาวเวล มาแทนเธอก่อนที่จะเข้าสู่วาระที่สองในตำแหน่งประธานเฟดของเธอ แล้วอีกกว่าสองปีต่อมาเธอก็กำลังจะมาเป็น รมว.คลังสหรัฐในยุคไบเดน
         
โดยส่วนตัว ผมเชียร์ "เลอัล แบรนนาร์ด" สมาชิกเฟดให้มารับตำแหน่งนี้มากกว่า เนื่องจากผมชอบในความกล้าที่จะพาเฟดไปในจุดใหม่ๆ อย่างสกุลเงินดิจิทัล หรือเศรษฐกิจสีเขียวมากกว่า แต่เยลเลนก็ถือว่ามีดี เกินพอที่จะรับงานนี้ได้แบบสบายๆ
         
บทความนี้ขอพามารู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้กันสักหน่อย ขอเริ่มจากด้าน ภูมิหลังก่อน เธอเติบโตจากครอบครัว ชนชั้นกลางชาวยิวในย่านบรูคลิน นิวยอร์ก คุณพ่อเป็นหมอที่เปิดคลินิกเองในบ้าน ส่วนคุณแม่เป็นคุณครูโรงเรียนประถมศึกษา ที่ได้ลาออกมาเลี้ยงดูเธอและพี่ชาย เธอเป็นเด็กที่มีผลการเรียนดีทุกวิชา ได้เข้าเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยบราวน์ และระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเยล ร่วมกับคนดังอีก 2 ท่าน ได้แก่ เจมส์ โทบิน และโจเซฟ สติกลิทซ์ ทั้งคู่เป็นนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล โดยโทบินได้กล่าวชมเยลเลนว่าเข้าใจอำนาจและข้อจำกัดของกลไกตลาดเป็นอย่างดี
         
ต่อมาเธอได้มาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ให้กับมหาวิทยาลัย ทว่าก็มีอันต้องย้ายไปทำงานที่ซานฟรานซิสโก หลังจากได้พบรักและแต่งงานกับศาสตราจารย์ที่มาทำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยของเธอนามว่า "จอร์จ แอคเคลอฟ" นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล งานวิจัยที่ออกมาอย่างมากมายในช่วงทศวรรษที่ 80 มาจากการทำงานภายใต้สโลแกน "แอคเคลอฟคิด เยลเลนทำ" จนกระทั่งตอนที่เธออายุ 48 ปี ได้รับโทรศัพท์จากทำเนียบขาวให้ไปรับตำแหน่งผู้บริหารในธนาคารกลางสหรัฐ นับแต่นั้นเธอก็ทำงานในสายนี้เรื่อยมาจนดำรงตำแหน่งประธานเฟดในที่สุดเมื่อเกือบ 6 ปีก่อน
         
แม้เธอจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รอบรู้และเข้าใจกลไกการทำงานของเศรษฐกิจเป็นอย่างดี ทว่าคำถามที่หลายคนเคยตั้ง ข้อสงสัยกับตัวของเยลเลนเมื่อ 6 ปีก่อน คือเธอจะเข้มแข็งพอสำหรับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเปล่า เนื่องมาจากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิดของเธอ กล่าวว่าเธอเหมือนจะมีความอบอุ่นและอ่อนโยนให้กับคนที่อยู่ใกล้ชิดเธออยู่เสมอ รวมถึงตอนที่เธอทำงานในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก็เป็นช่วงที่ ไม่ง่ายนักสำหรับตัวเธอเอง ทว่าในเวลาต่อมา เธอก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าสำหรับตำแหน่งประธานเฟด เธอทำได้ค่อนข้างดีในระดับน้องๆ เบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟดอีกท่าน เลยทีเดียว
         
คราวนี้หันมาดูความคิดทางด้านเศรษฐกิจของเธอบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่มีการลดขนาดการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE Tapering นั้น เธอมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ไว้พิจารณาอยู่ 4 ชุด แต่ก่อนไปถึงตรงจุดนั้น เธอกล่าวว่าเวลาที่พิจารณาว่าจะลดขนาด QE หรือไม่นั้น เธอจะดู 1.ข้อมูลในลักษณะเชิงคุณภาพด้วย มิใช่เชิงปริมาณเท่านั้น 2.ภาพในอนาคตของตลาดแรงงาน มิใช่มองเพียงว่าตัวเลขในปัจจุบันดีขึ้นกว่า ในอดีตมากน้อยเท่าไร และ 3.พิจารณาว่า การซื้อ หรือขายสินทรัพย์ของเฟดจะก่อให้เกิดประโยชน์ หรือมีค่าใช้จ่ายจากปฏิบัติการดังกล่าว แล้วถ่วงน้ำหนักดูว่าข้างไหนมากกว่ากัน มิใช่พิจารณาเพียงว่าข้อมูลตัวเลขการว่างงานเพียงเท่านั้น
         
คราวนี้หันมาดูข้อมูลเศรษฐกิจทั้ง 4 ตัวที่เยลเลนจะนำมาพิจารณาเป็นพิเศษในการลดหรือเพิ่มขนาดการผ่อนคลาย เชิงปริมาณ ข้อมูลชุดแรกที่บ่งบอกถึงภาพในอนาคตของตลาดแรงงานเป็น อย่างดี ได้แก่ อัตราการว่างงาน ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มของอัตราการว่างงานตั้งแต่ ปี 2521 หากอัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.5 หรือมากกว่านั้น เป็นเวลา 2 ไตรมาส ติดต่อกัน โอกาสที่ 2 ไตรมาสต่อมาที่อัตรา การว่างงานจะลดลงอีกมีโอกาสสูงถึง ร้อยละ 75
         
อย่างไรก็ดี ในช่วง 1-2 ปีล่าสุด แนวโน้ม ดังกล่าวมักจะไม่เป็นเช่นนั้น อาทิ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2554 และไตรมาสแรกของปี 2555 อัตราการว่างงานลดลงร้อยละ 0.75 ทว่าอัตราการว่างงานก็หยุดลดลงหลังจากนั้น เป็นต้นมา สาเหตุหนึ่ง ก็คืออัตราการว่างงาน ลดลงเนื่องจากแรงงานได้ออกจากตลาดแรงงาน มิใช่อุปสงค์ของแรงงานได้รับการตอบสนองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันเป็น ที่มาของตัวเลขที่สอง ซึ่งเยลเลนพิจารณาเป็นพิเศษ
         
ข้อมูลชุดที่สอง ข้อมูลการจ้างงานภายในระบบเศรษฐกิจ เพื่อจะพิจารณาว่ามีการจ้างงานจริงหรือไม่ ทว่าก็มีข้อเสียที่มีการทบทวนตัวเลขของข้อมูลดังกล่าว ในเวลาต่อมาอยู่บ่อยๆ จึงมีการให้ความ สนใจกับตัวเลขเชิงพลวัตในข้อมูลชุด ที่สามและสี่
         
ชุดที่สามและสี่ ได้แก่ ปริมาณการจ้างงานในเดือนนั้นๆ และตัวเลขที่ผู้ใช้แรงงานตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานของตนเอง โดยหากตัวเลขการจ้างงานในเดือนหนึ่งๆ กระเตื้องขึ้นก็นับเป็นสัญญาณที่ดี ในทางกลับกัน หากตัวเลขที่ผู้ใช้แรงงานตัดสินใจ ลาออกสูงขึ้น นั่นก็แสดงว่าแรงงานเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาสู่ในตลาดแรงงานอีกครั้งได้ไม่ยาก
         
โดยสรุปคือ เยลเลนที่กำลังจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลังสหรัฐในยุคไบเดน ซึ่งเธอกำลัง ถือเป็นคนแรกที่เคยดำรงตำแหน่งทั้ง ประธานเฟด และ รมว.คลังสหรัฐ รวมถึง เป็นผู้หญิงท่านแรกที่เป็นประธานเฟด และ กำลังจะเป็นผู้หญิงท่านแรกที่เป็น รมว.คลังสหรัฐ
         
เธอกำลังจะเป็น รมว.คลังแนวที่เน้นตัวเลขการจ้างงานที่หลากหลายค่อนข้างมากท่านหนึ่งที่ผมเคยเห็นมา โดยให้ความสำคัญต่อตัวเลขการจ้างงานมากกว่า สตีเฟน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐท่านปัจจุบันแบบที่ทิ้งกันแบบขาดลอย
         
"เยลเลน ถือเป็น ผู้หญิงท่านแรกที่เป็นประธานเฟด และ กำลังจะเป็นผู้หญิง ท่านแรกที่เป็น  รมว.คลังสหรัฐ"

โดย บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ       

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Nov 26) บิตคอยน์ร่วงกว่า 6% ในตลาดเอเชีย นักวิเคราะห์ชี้แค่ปรับฐาน-มีแนวโน้มไปต่อ : บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 1,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 6% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้เมื่อเทียบกับระดับปิดวานนี้ แตะที่ระดับประมาณ 17,700 ดอลลาร์ เนื่องจากไม่สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีก หลังพุ่งทะลุ 19,000 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวลงในวันนี้น่าจะเป็นเพียงการปรับฐานเท่านั้นหลังจากพุ่งแรงก่อนหน้านี้ โดยบิตคอยน์อาจร่วงลงหลุดแนว 17,000 ในระยะสั้นๆ ก่อนดีดตัวขึ้น เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นกว่า 358.6% แล้วเมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถทุบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อเดือนธ.ค. 2560 ที่ 19,666 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์รายอื่นๆ มองว่า การดีดตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค โดย PayPal ยักษ์ใหญ่ฟินเทค ประกาศว่า ทางบริษัทจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ และในช่วงต้นปีหน้า โดย PayPal มีแผนที่จะให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตในการซื้อสินค้าจากเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวน 26 ล้านรายของทางบริษัท

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐ์นุช สิริสุทธิ์/กัลยาณี
TRADE RIDER

*

admin

  • 84,260
อ้างจาก: Tough man ที่ 26, พฤศจิกายน  2020, 07:31:05 PM
ติดแล้วบินเลยยยยยย

โดนลากหน่อยๆค่อยๆบิน
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

Plaman7

  • 1,939
นั่งสวนบิทคอยอย่างหนักโหแรงแท้บางรายว่ามาแน่15000จะอะไรขนาดนั้น
เลฃดี 4289 เลขรับทรัพย์มั่นคง 6395

*

admin

  • 84,260
อ้างจาก: Plaman7 ที่ 26, พฤศจิกายน  2020, 09:43:08 PM
นั่งสวนบิทคอยอย่างหนักโหแรงแท้บางรายว่ามาแน่15000จะอะไรขนาดนั้น

ผมรอ Buy 7000$ ครับ
**Hea** **Hea**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

PoNgPk

  • 6,490
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีความเร็วเหนือเสียง เซอร์คอน (Tsirkon) ในมหาสมุทรอาร์กติก

กระทรวงกลาโหมระบุว่า ขีปนาวุธเซอร์คอนได้ถูกยิงออกจากเรือฟริเกต แอดมิรัล กอร์ชคอฟ ในทะเลขาว และพุ่งกระทบเป้าหมายซึ่งอยู่ห่างออกไป 450 กิโลเมตรในทะเลแบเรนท์ ได้อย่างแม่นยำ



สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้เคยทดสอบขีปนาวุธในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค.




--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Nov 27) ทรัมป์ลั่นพร้อมออกจากทำเนียบขาว หากคณะผู้เลือกตั้งโหวตให้ไบเดน : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาจะออกจากทำเนียบขาว หากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) เทคะแนนให้กับนายโจ ไบเดน

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า หากคณะผู้เลือกตั้งตัดสินใจโหวตให้นายไบเดน ก็ถือเป็นการทำสิ่งที่ผิดพลาด พร้อมกับกล่าวว่า สำหรับเขาแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้

ทางด้านนายไบเดนเตรียมประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจและตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ของคณะบริหารชุดใหม่ในสัปดาห์หน้า หลังจากการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีได้เริ่มขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ นายไบเดนประกาศชูนโยบาย "America is back" เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู แต่จะไม่ปฏิเสธเหล่าประเทศพันธมิตร

นอกจากนี้ นายไบเดนยังให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับบรรดาชาติพันธมิตรเพื่อรักษาอเมริกาให้ปลอดภัย และจะไม่สร้างความขัดแย้งทางทหารโดยไม่จำเป็น

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
TRADE RIDER

 

XM Global Limited