(Nov 5) นาย Joe Biden มีคะแนน Electoral Votes อย่างเป็นทางการขึ้นนำประธานาธิบดี Trump ที่ 264 ต่อ 214 เสียง อย่างไรก็ดี การขยายเวลาการส่งกลับบัตรเลือกตั้งในบางรัฐที่เป็น swing states ยังทำให้ไม่สามารถชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้
ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ดำเนินต่อเนื่องมาถึงวันนี้จากความล่าช้าในการนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่มีสัดส่วนสูงเป็นประวัติการณ์ และทำให้ใช้เวลามากกว่าการเลือกตั้งปกติที่สามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ภายในคืนวันเลือกตั้ง
นอกจากนี้ การขยายเวลาการส่งกลับบัตรเลือกตั้งในรัฐที่เป็น swing states ยังทำให้ไม่สามารถชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้ในวันนี้ โดยในส่วนการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการล่าสุดซึ่งรวมผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของรัฐ Wisconsin (WI) และ Michigan (MI) ในคืนวานนี้ นาย Joe Biden มีคะแนนขึ้นนำประธานาธิบดี Trump ที่ 264 ต่อ 214 เสียง
ทั้งนี้ หากนาย Biden ชนะในรัฐ Nevada (NV, 6 Electoral Votes) ก็จะครองเสียงส่วนมาก 270 เสียงพอดี โดยล่าสุดผลคะแนนใน Nevada ทิ้งห่างกันเพียงกว่า 8,000 เสียง และ
ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดี Trump มีคะแนนขึ้นนำในรัฐ Georgia, North Carolina, Pennsylvania, Alaska ซึ่งมีความคืบหน้าในการนับคะแนนที่ร้อยละ 95, 94, 85 และ 50 ตามลำดับ โดยส่วนต่างคะแนนในรัฐ Georgia และ North Carolina ยังนับว่าสูสีมาก โดยคาดว่ารัฐ Georgia จะสามารถประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการได้ภายในคืนวันที่ 4 พ.ย. 63 (เวลาในสหรัฐ) ขณะที่รัฐ Pennsylvania ยังต้องรอนับคะแนนจากบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่คาดว่ามีจำนวนกว่าสามล้านใบและประเมินว่ามีสัดส่วนผู้ลงคะแนนให้นาย Biden ถึงสามในสี่ โดยที่รัฐ Pennsylvania มีกำหนดการปิดรับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในวันที่ 6 พ.ย. เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
อนึ่ง หลังจากที่ทุกรัฐสามารถประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้แล้วนั้น หากมีการร้องขอให้ตรวจสอบการนับคะแนนก็จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จทันวันที่ 8 ธ.ค. (Safe Harbor Deadline) หรือคิดเป็น 6 วันทำการก่อนนัดประชุมในระดับรัฐของกลุ่มผู้เลือกตั้ง (Electors) ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ธ.ค. เพื่อให้สามารถเสนอชื่อผู้เลือกตั้งได้ทันวันประชุมระดับรัฐที่จะมีการลงนามใน Certificates of the Vote ที่เลือกผู้ที่จะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี โดยที่ Certificates of the Vote จะถูกส่งมารวบรวมกันภายในวันที่ 23 ธ.ค. ก่อนที่จะมีการนับคะแนนรวมกันทั้งประเทศในวันที่ 6 ม.ค. 2021 และมีกำหนดการเข้าสาบานตนของประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. ในลำดับต่อไป
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มประเมินว่าการส่งคำร้องให้ศาลสูงสุดพิจารณาผลการนับคะแนนอาจไม่สามารถแล้วเสร็จภายใน Safe Harbor Deadline
ด้านอดีตรองประธานาธิบดี Joe Biden ให้สัมภาษณ์ว่าตนเชื่อว่าหลังการนับคะแนนเสียงเสร็จสิ้นตนจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
ล่าสุดความเป็นไปได้ที่นาย Biden จะชนะปรับเพิ่มขึ้นหลังจากที่ชนะในรัฐ Wisconsin ซึ่งทำให้มีคะแนนทั้งสิ้น 264 เสียงขณะที่ประธานาธิบดี Donald Trump มีคะแนนอยู่ที่ 214 เสียง ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวนาย Biden ต้องการเพียงแค่ชนะอีก 1 รัฐ เช่น Nevada ซึ่งมีคะแนนนำอยู่ หรือ Georgia ซึ่งทีมงานของนาย Biden เชื่อว่าผู้ออกเสียงทางจดหมายจะสนับสนุนให้นาย Biden ชนะ
ด้านประธานาธิบดี Trump จำเป็นต้องชนะรัฐ Alaska และแพ้ได้เพียง 1 รัฐในส่วนที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากส่วนต่างในรัฐที่นาย Biden นำอยู่ยังค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับจำนวนบัตรที่ยังไม่ถูกนับ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Trump ได้กล่าวย้ำว่าตนพร้อมที่จะยื่นฟ้องร้องไปที่ศาลสูงสุดเพื่อตรวจสอบการนับคะแนนในหลายรัฐที่เข้าข้างพรรค Democrat ได้แก่ Arizona, Nevada, Wisconsin, Michigan และ Georgia ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump ให้เหตุผลว่าการนับคะแนนเสียงที่มาจากทางจดหมายมีความน่าสงสัยอย่างมากสังเกตได้จากทุกครั้งที่มีการนับคะแนนดังกล่าวคะแนนจะเทไปทางนาย Biden และส่วนต่างที่ตนนำอยู่ได้ให้ไปอย่างปาฏิหาริย์ในรัฐที่บริหารโดยพรรค Democrat
ด้านผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าการฟ้องร้องของประธานาธิบดี Trump ไม่น่าสามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้เนื่องจากขาดหลักฐานสนับสนุนการฟ้องร้อง นอกจากนี้ การฟ้องร้องจะต้องเริ่มจากศาลในรัฐและยืดเยื้อต่อไปเรื่อย ๆ ถึงจะสามารถไปถึงศาลสูงสุดได้
Source: BoTSS
