(Aug 20) ทรัมป์'ยกเลิกเจรจาการค้ากับจีน - "ทรัมป์" เผย เขายกเลิกการเจรจาการค้ากับจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและไม่ต้องการหารือกับจีนในขณะนี้ ความเห็นนี้ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลงการค้าเฟส 1 และเสี่ยงที่จะทำให้สงครามภาษีกลับมาส่งผลกระทบต่อการค้าและบริษัททั่วโลกอีกครั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวในเมืองยูมา รัฐแอริโซนา ว่า เขายกเลิกการหารือกับจีน และไม่ต้องการหารือกับจีนในขณะนี้ และในการปราศรัยว่าสหรัฐจะยกเลิกข้อตกลงเฟส 1 หรือไม่ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐจะดูว่าอะไรเกิดขึ้น
ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ จำเป็นต้องหารือกันทุก 6 เดือนเพื่อดูว่าได้ทำตามข้อตกลงหรือไม่ ได้มีการคาดการณ์ว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ของจีน จะหารือผ่านทางวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์กับโรเบิร์ต ไลต์ธีเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ได้มีการเลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด
ในขณะที่จีน กำลังเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างหลายอย่างตามที่สัญญา เช่น การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา แต่จีนยังซื้อสินค้าสหรัฐต่ำกว่าที่จำเป็นต้องซื้อเพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่ได้สัญญาไว้ และจีนแทบจะไม่มีโอกาสที่จะสามารถทำตามสัญญาได้ในขณะนี้เนื่องจากโควิด-19 ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก การยกเลิกข้อตกลงเสี่ยงที่จะทำให้สงครามภาษีกลับมาจนส่งผลกระทบต่อการค้าและบริษัททั่วโลก
ชาร์ลส์ ฟรีแมน รองประธานอาวุโสภาคพื้นเอเชียของหอการค้าอเมริกัน กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟส 1 เป็นจุดที่มีความสดใสในความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐ และแน่ใจว่าประธานาธิบดีคำนึงถึงการเลือกตั้งและตลาดหุ้นและตระหนักว่าอาจจะมีความท้าทายที่จะให้จีนทำตามสัญญา แต่น่าจะเลวร้ายกว่าที่จะยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด
การยกเลิกข้อตกลงจำเป็นต้องมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรและมีผลในเวลา 60 วันต่อมา นอกเสียจากว่าทั้งสองฝ่ายตกลงเกี่ยวกับเวลาต่างกัน
การเจรจาไม่เคยปรากฏในปฏิทินของทางการจีนหรือสหรัฐ แต่เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่ามีการกำหนดการเจรจาในวันเสาร์ที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้น เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาระดับสูงในเวลาที่เหมาะสมในอนาคต
เม่ย ซินหยู นักวิจัยของสถาบันนักคิดแห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า มาตรการลงโทษของสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ต่อบริษัทจีน น่าจะส่งผลกระทบต่อการเจรจา และกล่าวว่า การเจรจาจะเดินหน้าไปได้อย่างไรหากสหรัฐยังคงสร้างปัญหาใหม่
ทรัมป์ได้เพิ่มแรงกดดันต่อจีนทุกเรื่อง ตั้งแต่ประชาธิปไตยในไต้หวันและฮ่องกงจนถึงเรื่องแอปติ๊กต็อกและวีแชต เนื่องจากเขาหาทางทำคะแนนในโพลต่าง ๆ ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
แม้ว่าจีนสามารถซื้อถั่วเหลือง ข้าวโพด หรือเนื้อหมูตามที่สัญญาไว้เกี่ยวสินค้าเกษตร แต่จีนก็ไม่น่าจะสามารถซื้อก๊าซและน้ำมันได้เพียงพอตามที่สัญญา นอกจากนี้การเดินทางระหว่างประเทศที่ได้ล่มสลายลงจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์เครื่องบินใหม่ของจีน และได้ยับยั้งชาวจีนไม่ให้เดินทางไปยังสหรัฐเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อการศึกษาซึ่งลดการส่งออกบริการของสหรัฐ
ทรัมป์ได้บ่นมากขึ้นเกี่ยวกับจีนโดยเฉพาะเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาซึ่งทรัมป์มักเรียกว่า "ไวรัสจีน" และในวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กล่าวว่า "สิ่งที่จีนทำต่อโลกเป็นสิ่งที่คิดไม่ถึง"
Source: ข่าวหุ้น