กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

✅✅EUR/USD FOREX ศุกร์ 17 กรกฎาคม 2020 ขึ้นเครื่องบินเต็มลำแล้วบินได้🛸🚀🛸🚀

  • 56 replies
  • 12,212 views
อ้างจาก: admin ที่ 18, กรกฎาคม  2020, 09:24:34 AM
สวัสดีเช้า วันเสาร์ ครับผม
**Hip**  **Hip**
สวัสดีเย็นวันเสาร์..ไม่มีใครเข้าบอร์ดเลย... xc8* xc8* xc8*
วันจันทร์ ยังมี sig EU ทอง ให้เข้าตามปกติ ใช่มะคะ..
ปิดเก็บกำไรหนีฟ้า หนีฝนไปหมดแล้ว เสียดายตำแหน่งดีๆ เหมือนกัน แต่หวังว่ายังไงต้องมีสักวัน คงย่อมารับบ้าง เนาะ.. xc4*..
อดทน ใจเย็น รอเป็น เห็นกำไร
" อยากให้พอร์ตใหญ่ ใจต้องนิ่ง.."

*

admin

  • 84,260
อ้างจาก: Lil Mayfly ที่ 18, กรกฎาคม  2020, 05:17:06 PM
อ้างจาก: admin ที่ 18, กรกฎาคม  2020, 09:24:34 AM
สวัสดีเช้า วันเสาร์ ครับผม
**Hip**  **Hip**
สวัสดีเย็นวันเสาร์..ไม่มีใครเข้าบอร์ดเลย... xc8* xc8* xc8*
วันจันทร์ ยังมี sig EU ทอง ให้เข้าตามปกติ ใช่มะคะ..
ปิดเก็บกำไรหนีฟ้า หนีฝนไปหมดแล้ว เสียดายตำแหน่งดีๆ เหมือนกัน แต่หวังว่ายังไงต้องมีสักวัน คงย่อมารับบ้าง เนาะ.. xc4*..

ทางเดิมเลย ครับบินต่อบินเก่ง
g*/-
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

Plaman7

  • 1,939
ไปลองรถมาครับ อัลติส ครอสดีมากๆแต่ไม่ซื้อลองเฉยๆ
เลฃดี 4289 เลขรับทรัพย์มั่นคง 6395

*

PoNgPk

  • 6,490
ผู้นำ EU ประชุมต่ออีกวัน หลังถกเครียด 2 วันยังไม่ได้ข้อสรุปตั้งกองทุนฟื้นฟู

ผู้นำ 27 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

บรรดาผู้นำชาติสมาชิก EU ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เพื่อจัดการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันในวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนฟื้นฟู จึงตัดสินใจประชุมต่ออีก 1 วันในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์นี้ ตามเวลาท้องถิ่น จากการเปิดเผยของนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป

รายงานข่าวระบุว่า นายมิเชลเสนอให้เหล่าผู้นำประชุมเพิ่มอีก 1 วัน โดยนายมิเชลเป็นผู้ดำเนินการประชุมโต๊ะกลม รวมทั้งเป็นผู้จัดการประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำประเทศสมาชิกในช่วง 2 วันแรกของการประชุม เพื่อคลี่คลายความเห็นต่างของแต่ละฝ่าย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร โดยประกอบด้วยเงินให้เปล่าจำนวน 5 แสนล้านยูโร และเงินกู้ 2.5 แสนล้านยูโรสำหรับชาติสมาชิก EU ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ดี สมาชิก EU ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว รวมถึงการจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน



โดยเงินส่วนหนึ่งของกองทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการระบาดโดยไม่ต้องชำระคืน และที่เหลือเป็นเงินกู้ ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 เช่น อิตาลี และ สเปน จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแผนฟื้นฟูดังกล่าว

ขณะที่เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และออสเตรีย หรือ Frugal Four (สี่ตระหนี่) คัดค้านการให้เงินแบบให้เปล่า และขอให้ประเทศที่ได้รับเงินกู้จะต้องทำการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแลกกับการได้รับเงินกู้


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
'สหรัฐฯ' เปิดฉากซ้อมรบ บีบ 'จีน' เจรจาแบ่งประโยชน์


สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง สหรัฐฯ กับ จีน เกิดขึ้นอีกแล้ว หลังสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ และเรือบริวาร เปิดฉากซ้อมรบกลางทะเลจีนใต้ รอบ 2 บีบจีน เจรจาแบ่งผลประโยชน์


วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ทางด้านกองเรือแปซิฟิกสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ ประกาศซ้อมรบทางทะเลของเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ นั่นคือ เรือยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) และ เรือยูเอสเอส นิมิตซ์ (USS Nimitz) พร้อมกับกองเรือรบ ทั้งเรือพิฆาต และเรือคุ้มกันโดยการซ้อมรบครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในพื้นที่ทะเลจีนใต้ โดยจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 สำหรับพื้นที่ของทะเลจีนใต้ปัจจุบันนี้กำลังเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างจีนกับทางด้านประเทศในอาเซียน โดยทางด้านสหรัฐฯ อ้างว่าวัตถุประสงค์ของการซ้อมรบครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฝึกซ้อมการป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อรักษาความพร้อมและความชำนาญในการต่อสู้ทางสงครามสำหรับการซ้อมรบของเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ พร้อมกับกองเรือรบ ทั้งเรือพิฆาต และเรือคุ้มกัน ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ ก่อนหน้านี้ทางด้านเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ และยูเอสเอส นิมิตซ์ ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการรวมกันแล้วกว่า 12,000 นาย และเครื่องบินรบประจำการมากกว่า 120 ลำ ได้ซ้อมรบร่วมกันเมื่อต้นเดือน กรกฎาคม 2563 เช่นเดียวกัน ซึ่งนี่ถือว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ กับการแสดงออกของสหรัฐฯในพื้นที่ทะเลจีนใต้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทางการจีนจับตากับเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 2 ลำมายังน่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐอเมริกาในการตอบโต้จีนที่ออกมาอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่ใน


ถ้าย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ทางด้น นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลง ถึงเรื่องการเข้าไปครอบครองพื้นที่ทะเลจีนใต้ของจีนว่า จีนไม่มีสิทธิ์จะดำเนินมาตรการตามความพอใจ ของตัวเองเพียงฝ่ายเดียวในการเข้าครอบครองพื้นที่พิพาทเหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ พร้อมกับยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในประเด็นขัดแย้งเรื่องเขตแดน แต่ทางสหรัฐฯ ขอปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ของจีนในพื้นที่ทางทะเลที่เป็นของประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียด้านรัฐบาลจีนซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนทะเลจีนใต้ 1.3 ล้านตารางไมล์ออกมาประท้วงการเคลื่อนไหวของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาในน่านน้ำทะเลจีนใต้ โดยนายจ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีความตั้งใจที่จะผลักดันความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการทำสงครามในทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ส่วนสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกฎหมายทะเลของสหประชาชาติด้วย


ความเห็นผู้เขียน (สถาพร เกื้อสกุล)

สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตอนนี้กลับมาระอุอีกครั้งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจากสหรัฐฯ เคลื่อนไหวอย่างหนัก ในการกดดันจีน ด้วยการส่งทางด้านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.เจมส์ แมคคอนวิลล์ เดินทางมายังประเทศสิงคโปร์ ไทย และญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าทางด้านพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ของไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตรงกันว่ากรณีที่ทางด้าน ผู้บัญชการทหารบกสหรัฐฯ เดินทางมาไทยนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้แต่อย่างใด แต่สิ่งที่น่าสนใจ นั้นก็คือการออกมาพูดถึงประเด็นความขัดแย้งของทางด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และการเขียนบทความของทางด้าน นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เรื่อง การธำรงไว้ซึ่งสิทธิอธิปไตยของรัฐทั้งมวล ไว้บนแฟนเพจเฟซบุ๊ค U.S. Embassy Bangkok การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในลักษณะนี้ย่อมไม่ปกติอย่างแน่นอน ดังนั้นคงต้องจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด ทั้งส่วนของสหรัฐฯ และ จีนว่าจะมีการตอบโต้กันอย่างไร เพราะเคยเขียนไว้หลายครั้งว่าทะเลจีนใต้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หลังจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางสงบ สหรัฐฯ น่าจะพุ่งเป้ามายังพื้นที่แห่งนี้ เพราะพื้นที่แห่งนี้มีผลประโยชน์มหาศาล แน่นอนว่าสหรัฐฯ คงไม่ปล่อยให้ทางด้านจีน หาผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว อย่างน้อยก็ขอมีส่วนร่วมในการแบ่งผลประโยชน์บ้าง และการกระทำปัจจุบันนั้น น่าจะเป็นคำตอบชัดว่า สหรัฐฯ กำลังบีบ ให้จีน ต้องเจรจา เพื่อยุติปัญหา และการเจรจา เพื่อให้ลงตัวแบบไม่เจ็บตัวของทั้งสองฝั่งนั่นคือ การสร้างผลประโยชน์ร่วมกันนั่นเอง


เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
(Jul 19) สหรัฐเสียชีวิตจากโควิด-19 ทะลุ 140,000 รายแล้ว ขณะ"ทรัมป์"ลั่นไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัย: ข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ พุ่งทะลุ 140,000 รายแล้ว

ณ เวลา 20.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันเสาร์ (07.50 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาไทย) สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 140,103 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,706,927 ราย

รัฐนิวยอร์กยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประเทศ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 406,305 ราย เสียชีวิต 32,478 ราย ขณะที่แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7,802, 4,895 และ 3,927 ราย ตามลำดับ

ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ ว่า เขาจะไม่ออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนทั่วประเทศสวมหน้ากากอนามัย โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ประชาชนมีเสรีภาพ

ผมไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่าหากทุกคนสวมหน้ากาก ทุกอย่างก็จะหายไป" ปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากที่นายคริส วอลเลซ ผู้ประกาศข่าว ยกข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ที่ระบุว่าสหรัฐจะควบคุมไวรัสได้หากประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย

ทรัมป์กล่าวว่า "ดร. แอนโทนี ฟอชี เคยกล่าวว่าไม่ต้องสวมหน้ากาก นายแพทย์ใหญ่ของเราก็เคยบอกว่าไม่ต้องสวมหน้ากาก ทุกคนบอกว่าไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่อยู่ดีๆ ทุกคนก็บอกว่าเราต้องสวมหน้ากากอนามัย และอย่างที่คุณทราบ หน้ากากก็ทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อในการสวมหน้ากากอนามัย ผมคิดว่าหน้ากากนั้นดี"

ที่ผ่านมาทรัมป์ปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัยมาโดยตลอด โดยอ้างว่าตนมีสุขภาพแข็งแรง และได้รับการตรวจโรคโควิด-19 อยู่เป็นประจำ ซึ่งล้วนมีผลออกมาเป็นลบ

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปรากฏกายพร้อมสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกขณะเดินทางเยือนศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด (WRNMMC) ในเบเธสดา รัฐแมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
WHO สุดวิตก โควิดยังแรง ติดเชื้อทั่วโลกวันเดียว แตะ 2.6 แสน ทำลายสถิติ

องค์การอนามัยโลก เผยสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดแรงมาก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก เกือบ 2.6 แสนคน ทำลายสถิติอีกครั้ง ส่งผลยอดสะสมผู้ติดเชื้อเกิน 13.8 ล้านแล้ว

เมื่อ 19 ก.ค.63 องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลก เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด พุ่งสูงถึง 259,848 ราย จนถือเป็นสถิติการพบผู้ติดเชื้อ-19 รายใหม่สูงที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนามรณะ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หรือ ก่อนหน้าเพียงวันเดียว สถิติการพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงสุดอยู่ที่ 237,743 ราย

จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่พุ่งทะยานอย่างน่าวิตก ทำให้ขณะนี้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก เกิน 13.8 ล้านรายแล้ว นอกจากนั้น องค์การอนามัยโลก ยังแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ทั่วโลก รวมกันแล้วถึง 7,360 ศพ ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.63 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มเป็น 593,087 ศพแล้ว

สำหรับการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่สูงขึ้นอย่างน่าวิตกขนาดนี้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งพรวดในประเทศสหรัฐอเมริกา บราซิล และแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะ รัฐทางภาคใต้หลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง หลังจากตอนแรก ประชาชนต่างแสดงความไม่พอใจกับมาตรการล็อกดาวน์ หรือการสวมหน้ากากอนามัย โดยขณะนี้ รัฐฟลอริดา กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศ โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวกว่า 10,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 90 ศพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนยอดสะสมผู้ติดเชื้อในรัฐฟลอริดาเพิ่มเป็นกว่า 37,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 5,000

:ข่าวต่างประเทศ-ไทยรัฐออนไลน์ที่มา : CNN , BBC
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
ฮ่องกงอ่วม! ยอดโควิด-19 แซง 'ซาร์ส' คาดยอดพุ่งซ้ำหลังพบการระบาดใน รพ.จักษุ

โควิด-19 ระบาดซ้ำในฮ่องกง คาดรอบนี้รุนแรงที่สุด พบเจ้าหน้าที่คลินิกป่วยโควิด หลังให้บริการคนไข้กว่าร้อยคน

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ทางการฮ่องกงรายงาน พบยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอีก 64 ราย ส่งผลให้ฮ่องกงมียอดผู้ป่วยสะสมขยับขึ้นเป็น 1,777 ราย แซงหน้าจำนวนผู้ป่วยโรคซาร์สที่แพร่ระบาดอย่างหนักในฮ่องกงเมื่อปี 2003 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นพบผู้ป่วยโรคซาร์ส จำนวน 1,755 ราย

ล่าสุด ฮ่องกงพบการระบาดของโรคโควิด-19 แบบกลุ่มก้อนในโรงพยาบาลจักษุ Tuen Mun Eye Centre โดยพบเจ้าหน้าที่คลินิก 3 ราย ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มาเข้ารักษาราว 200 คนต่อวัน ก่อนที่จะตรวจพบว่าติดเชื้อ เบื้องต้นคาดว่าเจ้าหน้าที่ได้ติดโรคจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ จากการสัมผัสบริเวณดวงตาของตนเอง หรือทานอาหารโดยไม่ล้างมือ ทำให้ติดเชื้อในที่สุด ซึ่งการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนที่พบในครั้งนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่ายอดผู้ป่วยโควิด-19 ในฮ่องกงจะพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางการฮ่องกงได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ซ้ำ ทำให้พนักงานบริษัทเริ่มทำงานจากที่บ้านอีกครั้ง พร้อมกับยกเลิกการสอบต่างๆ

ด้านกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกง ได้เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 นี้ ถือเป็นรอบที่รุนแรงมากที่สุด เนื่องจากพบผู้ป่วยกระจายหลายจุด และบางรายไม่สามารถค้นหาต้นตอการติดเชื้อได้

ที่มา: SCMP , Asiatimes
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
ขณะที่วิกฤตโควิด-19 ในประเทศจีนมีแนวโน้มดีขึ้น #แต่กลับต้องเจอภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สร้างปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า #ขณะนี้จีนประสบเหตุน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง

ล่าสุดทางการต้องประกาศเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำ และทะเลสาบจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทั้งทางใต้ของเมืองหนานจิง และมณฑลอันฮุย มณฑลเจียงซี และมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จมอยู่ใต้กระแสน้ำ โดยเฉพาะที่เมืองโป๋หยางในมณฑลเจียงซี เขื่อนแห่งหนึ่งจากทั้ง 3 เขื่อน แตกเพราะทนแรงดันของน้ำที่สะสมไม่ไหว ส่งผลกระทบถึงประชาชนกว่า 8,000 คน ใน 15 หมู่บ้าน

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุในเว็บไซต์ว่า ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์ คาดว่าฝนจะตกในบริเวณพื้นที่มณฑลอันฮุย เหอหนาน หูเป่ย หูหนาน กุ้ยโจว และอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) พื้นที่บางส่วนข้างตันจะมีปริมาณหยาดน้ำฟ้า 70 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ประกอบกับพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

ทางศูนย์แนะนำให้หน่วยงานท้องถิ่นตื่นตัวต่อเหตุการณ์น้ำท่วม และดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นได้ พร้อมแนะนำให้งดการปฏิบัติงานกลางแจ้งในพื้นที่อันตรายนอกจากนี้ ศูนย์ยังได้แจ้งเตือนภัยระดับสีเหลืองสำหรับอุณหภูมิสูงในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ รวมถึงเขตปกครองตนเองชินเจียงอุยกูร์ บางส่วนของมณทลเจ้อเจียง ฝูเจี้ยน เจียงซี หูหนาน กว่างตง กว่างซี ไห่หนาน และชินเจียง จะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 37-39 องศาเซลเชียส และอาจสูงกว่า 40 องศาเซลเชียส

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรป้องกันเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากการใช้พลังงานเกินขนาด และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนักเกินไป ทั้งนี้ ประเทศจีนมีระบบแจ้งเตือนสภาพอากาศ 4 ระดับตามรหัสสี ซึ่งสีแดงมีความรุนแรงมากที่สุด รองลงมาคือสีส้ม สีเหลือง และสีน้ำเงิน

ล่าสุดหลายเมืองของจีน ที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมหนัก เริ่มมีปัญหากระทบต่อการขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะชุดป้องกันพีพีอีที่ใช้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทำให้อุปกรณ์เริ่มขาดแคลนในบางพื้นที่มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-07-18/china-braces-for-new-floods-as-yangtze-water-level-hits-record

#Forexmonday
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
อาเซียนผวา ฟิลิปปินส์หนัก พบติดเชื้อโควิด 24 ชม. พุ่งกว่า 2.2 พันคน

ฟิลิปปินส์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ภายในวันเดียวกว่า 2,200 คน จนทำให้ยอดสะสมติดเชื้อพุ่งไปอยู่ที่กว่า 6.7 หมื่น ขณะที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 58 ศพ

เมื่อ 19 ก.ค.63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในฟิลิปปินส์น่าวิตกกังวลมากขึ้น เมื่อกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 2,241 ราย และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 58 ศพเลยทีเดียว

จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2,200 รายในวันเดียว ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 67,456 รายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,831 ศพ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ ภายในวันเดียวถึง 162 ศพ จนถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน).

จาก:ไทยรัฐออนไลน์
TRADE RIDER

*

admin

  • 84,260
สวัสดี เช้า วันจันทร์ ครับผม
เช้านี้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น กราฟ ยัง นิ่ง
**Hip** **Hip** **Hip**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

อ้างจาก: admin ที่ 20, กรกฎาคม  2020, 05:17:04 AM
สวัสดี เช้า วันจันทร์ ครับผม
เช้านี้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น กราฟ ยัง นิ่ง
**Hip** **Hip** **Hip**
อรุณสวัสดิ์ค่ะ..แอดมินและทุกท่าน..
ข่าวโควิดเยอะๆแบบนี้..กราฟไม่น่าจะนิ่ง เดี๋ยวคงมีวิ่งบ้างแหละค่ะ.. xc8* xc8*..
อดทน ใจเย็น รอเป็น เห็นกำไร
" อยากให้พอร์ตใหญ่ ใจต้องนิ่ง.."

 

XM Global Limited