เงินปอนด์ร่วง หลัง นรม.อังกฤษ ขีดเส้นตายร่างข้อตกลงการค้าเสรีกับ EU 27 ก.พ.63
เงินปอนด์อ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบปี 63 หลังจากเกิดความตึงเครียดในกรณีข้อตกลงระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งมีกำหนดเจรจากันในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (2 ก.พ.63) แต่ดูเหมือนว่าประเด็นข้อเสนอของทั้งสองฝ่ายยังมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก แม้จะเคยประกาศว่าต้องการบรรลุความเห็นชอบร่วมกัน
ทั้งนี้ นายไมเคิล โกฟ (Michael Gove) เลขาธิการคณะรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ยืนยันต่อรัฐสภาว่ารัฐบาลต้องการ "ความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุม" (หรือ comprehensive free trade agreement) ในแนวทางที่จะไม่ทำให้อังกฤษสูญเสียอธิปไตย ขณะที่ฝ่าย EU มีเงื่อนไขว่าอังกฤษต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ EU ในเรื่องความช่วยเหลือจากรัฐ สิทธิแรงงาน และประเด็นอื่นๆ รวมทั้งต้องรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการต่อสู้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ EU ทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม เอกสารแนวทางการเจรจาของฝ่ายอังกฤษที่ถูกเผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่าอังกฤษยังคงยืนกรานจะรักษาอำนาจอธิปไตยของตนเอง ด้วยการไม่ยอมตามกฎระเบียบของ EU โดยจะ "ไม่เจรจาต่อรองกับ EU ในประเด็นที่จะทำให้อังกฤษสูญเสียอำนาจควบคุมทางกฎหมายหรือการเมืองภายในประเทศ"
นอกจากนี้ แม้ว่า นรม.อังกฤษ ได้เคยลั่นวาจาว่าพร้อมจะออกจาก EU อย่างไร้ข้อตกลง แต่มีประเด็นใหม่ที่ไม่เคยมีการเปิดเผยมาก่อน คือ อังกฤษได้กำหนดกรอบเวลาอย่างชัดเจนว่า ต้องการโครงร่างสรุปความตกลงดังกล่าวภายในเดือน มิ.ย.63 โดยให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายใน ก.ย.63 มิเช่นนั้นจะล้มเลิกการเจรจาและหันไปเตรียมความพร้อมเพื่อแยกตัวออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน (transition period)
ประเด็นดังกล่าวทำให้ นรม.อังกฤษ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการเลื่อนกำหนดเวลาให้เร็วกว่าเดิมซึ่งอยู่ที่ 31 ธ.ค.63 อีกทั้งไม่ยอมขยายเวลาเพิ่มเติมเผื่อกรณีที่การเจรจาไม่บรรลุผลอันน่าพอใจ ซึ่งทำให้กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวันนี้ว่า นรม.อังกฤษ มีเจตนาที่แท้จริงอย่างไรกันแน่ต่อ EU
Technical & Trade Views : EUR/GBP ปรับฐานขึ้นต่อเนื่องจาก 0.8274 มาอยู่เหนือ 0.8458 โดยมีทิศทางไปทดสอบระดับ VWAP (Volume-Weighted Average Price) และ monthly R1 ที่บริเวณ 0.8534 ซึ่งเกิดสัญญาณกราฟแบบ double-top ดังนั้น ที่บริเวณนี้จึงเป็นจุดที่มีโอกาสจะกลับแนวโน้มเป็นขาลงอีกครั้ง แต่ในอีกทางหนึ่งถ้าราคาสามารถแข็งค่าเอาชนะเพดานดังกล่าวได้ ก็จะเกิดแนวต้านใหม่ขึ้นที่ pivot point ของปี 63 ในบริเวณ 0.8668
