แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนอย่าง Warren Buffet ก็ยังมีการตัดสินใจพลาด จากเหตุการณ์ล่าสุดที่มีรายงานว่านักลงทุนระดับโลกอย่าง Buffet ได้ขายหุ้นสายการบินทิ้งทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้ธุรกิจการบินล้มไม่เป็นท่า ซึ่งนอกจากหุ้นสายการบินแล้วก็ยังมีการลงทุนครั้งใหญ่อีกสองครั้งอย่าง Kraft Heinz และ Occidental Petroleum บริษัทส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ ที่ทำให้ Buffet ขาดทุนไปไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านดอลลาร์จากการทุ่มเงินไปถึง หมื่นล้านดอลลาร์ในการลงทุนแต่ละครั้ง ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวมข้อสรุปของทุกเหตุการณ์มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
หุ้นซอสไฮน์กับความล้มเหลวครั้งใหญ่
เริ่มด้วยหุ้นซอสมะเขือเทศไฮน์ที่บริษัท 3G Capital จับมือกับ Berkshire ของบัฟเฟต เพื่อลงทุนซื้อหุ้นของ H.J. Heinz Co และ Kraft Foods Group จนรวมเป็นธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่อย่าง Kraft Heinz Co ด้วยจำนวนเงิน 77,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ แน่นอนว่าในช่วงแรกนั้นทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในหุ้นของ Kraft Heinz ไต่ระดับอยู่ในดัชนีหุ้น S&P เป็นเวลานานถึง 2 ปี แต่ดูเหมือนนั้นจะลดลงไปเรื่อย ๆ ก่อนจะตกฮวบลงมาถึง 27% ภายในวันเดียวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างบัฟเฟตขาดทุนไปกว่า 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 1.37 ล้านบาทไทยเลยทีเดียว
หุ้นน้ำมันปิโตรเลียมกับราคาน้ำมันที่ผันผวน
มาต่อกันที่บริษัทส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอย่าง Occidental Petroleum กันบ้าง หลังจากที่บัฟเฟตประกาศลงทุนด้วยจำนวน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นครั้งแรกที่เขาผันตัวมาลงทุนในหุ้นน้ำมันอย่างเต็มตัว ซึ่งหลังจากที่มีการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบทั่วโลก Occidental Petroleum ก็ได้มีการตัดเงินปันผลออกจากผู้ถือหุ้นสามัญออกถึง 86% แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังติดค้างการจ่ายเงินปันผล 8% ต่อปีสำหรับหุ้นบุริมสิทธิให้กับบริษัทของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างบัฟเฟต ซึ่งปกติแล้วปิโตรเลียมจะจ่ายเป็นค่าเสื่อมของหุ้นมากกว่าเงินสด
และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ Berkshire ก็ได้สูญเสียหุ้นสามัญในบริษัท Occidental Petroleum ที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ แต่จำนวนการจ่ายเงินปันผลประจำเดือนเมษายนนั้นกลับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวของการถือหุ้นสามัญ เรียกได้ว่าเป็นการขาดสูญเสียเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเราไม่อาจกำหนดราคาหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท Occidental Petroleum ที่มีความผันผวนสูงนี้ได้เลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในวิกฤตครั้งนี้เงินปันผลที่สะสมไว้จะทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด
หุ้นสายการบินกับวิกฤตโควิด 19
ปิดท้ายด้วยหุ้นสายการบินที่บัฟเฟตเพิ่งจะถอนหุ้นออกทั้งหมด ย้อนกลับไปเมื่อกลางปี 2016-ต้นปี 2017 บริษัท Berkshire ได้เข้าซื้อหุ้นของ 4 สายการบินยักษ์ใหญ่จำนวนกว่า 10 ล้านหุ้น ได้แก่ American Airlines, Delta Air Lines, Southwest Airlines และ United Airlines แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนา หุ้นสายการบินกลับตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้บัฟเฟตตัดสินใจเทหุ้นสายการบินทั้งหมดทิ้ง รวมมูลค่ากว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบัฟเฟตเองก็ได้ยอมรับกับเหตุการณ์ครั้งนั้นว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดของเขาเองที่ร่วมลงทุนกับสายการบิน แม้ว่าในอนาคตสายการบินเหล่านั้นอาจจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง แต่ในตอนนี้เขากลับมองภาพอนาคตของมันไม่ออกเลยทีเดียว
แม้ว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด บัฟเฟตเองก็เคยพูดถึงเรื่องการลงทุนในสายการบินมาแล้วว่า ‘เป็นกับดักแห่งความหายนะของนักลงทุน’ ซึ่งถ้าหากในตอนนั้นเขาได้ลองหันกลับไปฟังคำเตือนของตัวเองและคิดไตร่ตรองดูให้ดีสักครั้งก็อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นได้
อย่างที่รู้กันว่าในการลงทุนแต่ละครั้งมีความเสี่ยงและแม้แต่นักลงทุนระดับโลกอย่าง วอเรน บัฟเฟต ก็ก้าวพลาดได้เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองต่อจากนี้ก็คือการที่บัฟเฟตจะพลิกสถานการณ์จากบทเรียนที่ผ่านมาของเขาให้กลับมาเป็นนักลงทุนที่แข็งแกร่งเหมือนในอดีตได้อย่างไร และเหล่านักลงทุนหน้าใหม่จะเรียนรู้ข้อผิดพลาดเพื่อปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดหาคำตอบกันต่อไป
https://mobile.facebook.com/OilTradingkp/posts/306327369920613?_rdc=1&_rdr
