Toyota ออกมาประกาศในวันนี้ว่า จะปรับลดกำลังการผลิตทั่วโลกในเดือนก.ย.ลง 40% จากแผนเดิมที่เคยวางเอาไว้ และทำให้พวกเขากลายเป็นบริษัทรถยนต์ระดับแถวหน้ารายล่าสุดที่ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายจากปัญหาการขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ที่ผ่านมา Toyota มีการรับมือกับปัญหาการขาดแคลนได้ดีกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น ด้วยปริมาณสต็อกของชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมากกว่าจากแผนธุรกิจแบบต่อเนื่องที่เริ่มประยุกต์ใช้ตั้งแต่หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 2011 และภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกูชิมะ
อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ในแง่ของยอดขายกล่าวยืนยันในวันนี้ว่า เป้าหมายของการผลิตทั่วโลกที่ 9.3 ล้านคันสำหรับรอบปีที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. รวมถึงยอดขายจำนวน 8.7 ล้านคันจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
Toyota กล่าวต่อไปว่า การปรับลดยอดของเดือนก.ย.ประกอบไปด้วย 14 โรงงานทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งทางบริษัทจะลดแผนการผลิตทั่วโลกในเดือนหน้าลงโดยคิดเป็นตัวเลขประมาณ 360,000 คัน
จากจำนวนดังกล่าวจะแบ่งแยกเป็นตัวเลข 140,000 คันสำหรับโรงงานในญี่ปุ่น โดยในส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้นกับการปรับลดกำลังผลิตในโรงงานที่สหรัฐฯ, จีน, ยุโรป และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
ก่อนหน้านี้บริษัทรถยนต์ทั่วโลกต่างปรับลดกำลังผลิตเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน แต่การระบาดของโรค COVID-19 ทั้งในญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์ , เวียดนาม, ไทย และมาเลเซียก็ทำให้สถานการณ์ในโรงงานรถยนต์และชิปลำบากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนีได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า อาจจำเป็นต้องปรับลดแผนการผลิตเพิ่มเติม และยังคาดการณ์ว่าการจัดหาชิปในช่วงไตรมาสที่ 3 จะเป็นไปด้วยความผันผวนและตึงเครียดอย่างเต็มที่
ทางด้าน Ford ก็ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า อาจมีการปิดโรงงานประกอบในเมืองแคนซัสซิตี้ที่ใช้เป็นฐานการผลิตรถกระบะ F-150 ที่เป็นรุ่นขายดีเป็นการชั่วคราว เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์หลังมีเคสผู้ติดเชื้อในมาเลเซียสูงขึ้น
จากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Toyota เคยกล่าวถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่อาจคาดเดาได้ เนื่องจากปัญหาการระบาดของโรค COVID-19 ระลอกใหม่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิปและราคาของวัตถุดิบที่สูงขึ้น
ที่ผ่านมา Toyota ยังเคยระงับไลน์ประกอบที่โรงงานบางแห่งในญี่ปุ่นระหว่างช่วงปลายเดือนก.ค.ถึงต้นเดือนส.ค. เนื่องจากจำนวนเคสผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นในเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิ้นส่วนในการผลิต
ยังมีรายงานที่กล่าวถึงแผนระงับการผลิตของไลน์ประกอบหนึ่งที่โรงงานในเมืองกว่างโจวของจีน ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานโดย GAC Group ซึ่งเป็นพันธมิตรแบบกิจการร่วมค้าสัญชาติจีนของพวกเขา
เช่นเดียวกับแผนระงับการผลิตในไทยเมื่อเดือนก่อนเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน โดยมีโรงงาน 3 แห่งที่ต้องหยุดพักการผลิตไปทั้งโรงงานบ้านโพธิ์และโรงงานเกตเวย์ในฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงงานสำโรงที่สมุทรปราการ
References :