เริ่มมีหลาย ๆ ประเทศที่กำลังผลักดันการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์เป็นของตนเอง ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนกันอยู่ทั่วโลก โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากประเด็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ตามผลการวิเคราะห์ของ Moody’s Analytics
ชิปหน่วยความจำเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์อันหลากหลายตั้งแต่สมาร์ทโฟน, เครื่องเกม Playstation 5, ตู้แย็น, เครื่องซักผ้า, หรือแม้แต่รถยนต์ โดยที่มันยังถูกใช้ใน data center ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับเซิร์ฟเวอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ
ด้วยวิวัฒนาการของด้านเทคโนโลยีจนทำให้ปัจจุบันมันกลายเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่หลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ขาดไปไม่ได้ จนทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อบริษัทหลายแห่งต้องระงับแผนการผลิตรถยนต์จากปัญหาการขาดแคลนชิป
Moody’s กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของปัญหานี้ว่า น่าจะมาจากการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อน และต้องใช้กระบวนการที่ต้องมีต้นทุนสูงตลอดช่วงเวลาของการผลิตนานหลายสัปดาห์
ในขณะที่ความต้องการเกิดพุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันแต่การจัดหาใหม่เพื่อรองรับไม่สามารถกระทำได้ในทันที และบางครั้งมันอาจต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าที่โรงงานจะสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับออเดอร์ที่เข้ามา
ด้วยธรรมชาติของการใช้เงินทุนอันมหาศาลในอุตสาหกรรมนี้ยังทำให้การผลิตตกไปอยู่ในมือของบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง และยังกลายเป็นกำแพงสูงสำหรับกิจการรายใหม่ที่หวังจะเข้ามามาส่วนในการพัฒนาชิปเจนเนอเรชั่นใหม่
ในขณะที่กระบวนการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในแต่ละเจนเนอเรชั่นยังมีความแตกต่างกัน โดยชิปรุ่นใหม่จะมีมาร์จิ้นที่สูงกว่าจนกลายเป็นแรงจูงใจให้ผู้ผลิตรายใหญ่หันมาลงทุนเพิ่ม แทนที่การถ่ายโอนทรัพยากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการผลิตชิปรุ่นเก่า
นั่นจึงเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังประสบปัญหา เนื่องจากมีรถยนต์หลายรุ่นที่ยังต้องใช้ชิปเจนเนอเรชั่นเก่าเป็นหลัก เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่มักจะพึ่งพาชิปรุ่นใหม่กว่า
ปัจจุบันมีรัฐบาลหลายแห่งที่หมายมั่นในการลงทุนตรงส่วนนี้เพิ่มขึ้น เช่น เกาหลีใต้ที่ประกาศโครงการมูลค่า $4.5 แสนล้านไปจนถึงปี 2030 พร้อมส่งเสริมการลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาแก่บริษัทใหญ่ด้วยการลดภาษีเพิ่มขึ้น 40% จากเดิมแค่ 30%
จีนก็ได้วางโครงการใหญ่ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อหลีกหนีปัญหาจากมาตรการคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ โดยตั้งเป้าที่จะผลิตชิปในประเทศให้ถึงสัดส่วน 70% ของที่มีการใช้งานภายในปี 2025 พร้อมแผนการผ่อนผันภาษีเพื่อสนับสนุนบริษัทผู้ผลิต
ในขณะที่สหรัฐฯก็ได้ผ่านร่างกฎหมายที่รวมงบประมาณ $5.2 หมื่นล้านสำหรับการวิจัย, ออกแบบ และผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์โดยเฉพาะเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ EU ที่เผยถึงความพร้อมในการลงทุนตรงส่วนนี้ตั้งแต่เดือนพ.ค.
Moody’s ยังได้เห็นความเห็นไว้ว่า การมีส่วนร่วมของรัฐบาลจะช่วยส่งเสริมระดับการแข่งขันและบรรเทาแรงกดดันจากความขาดแคลน โดยเฉพาะประเด็นราคาของชิปหน่วยความจำหลังจากมีเพียงบริษัทไม่กี่เจ้าที่คอยกุมอำนาจอยู่เหนือระบบซัพพลายเชนทั่วโลก
References :
