หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ผ่อนปรนมาตรการ Lockdown ที่ประกาศใช้ในช่วงภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยกำหนดให้กลุ่มธุรกิจ 4 ประเภท สามารถทยอยเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมนี้ ประกอบกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ลดลงซึ่งถือว่าเป็นข่าวดี ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นของไทยเมื่อวันที่ 28 เมษายนกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกอีกครั้ง
เช่นเดียวกับอีกหลายๆประเทศที่เริ่มคลายมาตรการ Lockdown แล้วค่อยๆยกเลิกข้อบังคับที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ทำให้นักลงทุนกลับมาลงทุนอีกครั้ง เช่นที่ประเทศนิวซีแลนด์ การประกาศของ “จาซินดา อาร์เดิร์น” นายกรัฐมนตรีหญิง ว่าทางการสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้แล้ว สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน จนตลาดหุ้นปิดบวกมากกว่า 3 จุดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2563 สังคมไทยต้องเจอกับเหตุการณ์เหนือความคาดหมายบ่อยครั้ง ทั้งกราดยิงโคราช หรือ ผอ.ปล้นร้านทองฆ่า3ศพ แม้จะเป็นระยะสั้นๆ แต่ก็เหมือนเขย่าให้ตลาดหุ้นที่พร้อมจะผันผวนในทุกกรณีอยู่แล้วยิ่งอ่อนไหวมากยิ่งขึ้น
และเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย กว่ารัฐบาลจะตั้งรับได้ทัน ดัชนี SET ก็ปรับลดลงไปแล้วมากกว่า 320 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นที่ร่วงอย่างหนักและต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี รัฐบาลก็ตระหนักและมีมาตรการ “แปลงสภาพ” กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ซึ่งปกติสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 2 แสนบาท เป็น “SSF กองพิเศษ” ที่ให้หักลดหย่อนภาษีได้เพิ่มอีก 2 แสนบาท สำหรับการลงทุนในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2563 แล้วก็ตาม แต่การจะพยุงดัชนีหุ้นไทยในสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ SSF กองพิเศษเพียงอย่างเดียวคงดึงเม็ดเงินให้เข้ามาลงทุนได้เพียงแค่ประคองชั่วคราวเท่านั้น
ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หาแนวทางเพื่อเร่งจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุนขึ้นมาดูแลตลาดหุ้นที่ตกอยู่ในภาวะไม่ปกติ ในชื่อ “กองทุนไทยสร้างโอกาส” หรือเรียกกันสั้นๆว่า “กองทุนพยุงหุ้น”
ซึ่ง “กองทุนไทยสร้างโอกาส” ถูกนำมาใช้ประคองภาวะตลาดหุ้นครั้งแรก เมื่อ 18 ปีก่อน โดยดัชนีตลาดหุ้นของไทยตอนนั้นอยู่ที่ ประมาณ 370 จุด ต่อมาจึงกลายเป็นแผนแม่บทการตลาดทุนไทย ที่กำหนดมาตรการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดทุน ด้วยการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนและใช้ชื่อว่า “กองทุนไทยสร้างโอกาส”
โดยในระหว่างที่กระทรวงการคลัง ตลท.และ ธปท. ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าภาวะตบาดหุ้นไทยในขณะนี้โครงสร้างและผู้ร่วมทุนที่เหมาะสมจะเป็นลักษณะอย่างไร แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากลักษณะกองทุนที่ออกมามีเงื่อนไขและโครงสร้างเหมือนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ก็น่าจะช่วยพยุงตลาดหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมาคือช่วงเวลาที่ภาวะตลาดหุ้นไทยทั้งอ่อนแอและผันผวน และยังเป็นช่วงเวลาก่อนที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน 2548 ซึ่งเปรียบเสมือนการหยุดความเคลื่อนไหวของธุรกิจทุกภาคส่วน ตามมาด้วยการประกาศกฎอัยการศึก(เคอร์ฟิว) ห้ามประชาชนออกนอกที่พักอาศัยตั้งแต่ 22.00น.-04.00น.ส่งกระทบกับผู้ประกอบการสถานบันเทิง และคนที่ทำงานกลางคืนอีกมากมายมหาศาล
เพราะฉะนั้นการคลายมาตรการ Lockdown นอกจากจะเป็นการทำให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นจากความตายแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงนักลงทุนและตลาดหุ้นอีกด้วยว่า เวลาของ “กองทุนไทยสร้างโอกาส” กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ทั้งนี้ ตลอดเดือนมีนาคม ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงขึ้นซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า SET Index ปิดที่ 1,125.86 จุด ลดลง 16% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ถือว่าปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในอาเซียน โดยเห็นธุรกิจปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ดี เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม, ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหาร, ธุรกิจค้าปลีก และบริการทางการแพทย์ ทำให้ดัชนีของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวปรับตัวลดลงน้อยกว่า SET Index
ด้านความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ความสนใจของนักลงทุนจับจ้องอยู่ที่การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ เช่น SCC, PTTEP เป็นต้น โดยคาดว่าจะทยอยประกาศออกมาเรื่อยๆ ความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการหลังจากที่ได้ประกาศงบฯแล้ว ซึ่งตลาดก็มี upside จำกัด นอกจากนี้ยังต้องรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเด็นนี้ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% และไม่ดำเนินการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม เพียงแต่อาจจะส่งสัญญาณให้ตลาดรู้ว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำอีกนานแค่ไหน
ส่งท้าย เม.ย. เดือนแห่งการ Lockdown และ Work From Home แต่เพียงเท่านี้ครับ