ราคาน้ำมันอาจทะยานขึ้นถึง $120 ต่อบาร์เรลหากการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียเกิดการหยุดชะงักจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน ตามผลการวิเคราะห์ของสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง JPMorgan
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ JPMorgan ให้ความเห็นว่า จากความเป็นไปได้ของการรุกล้ำเข้าสู่อาณาเขตของยูเครนโดยรัสเซีย ก็อาจสร้างผลกระทบที่แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างจนสัมผัสได้ทั่วโลกจากดัชนีราคาของพลังงานที่สูงขึ้น
JPMorgan กล่าวเตือนว่า หากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียถูกตัดขาดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็มีแนวโน้มที่จะมุ่งหน้าไปสู่ $150 ต่อบาร์เรล โดยสถิติราคาสูงสุดตลอดกาลจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ที่ $147.50 เมื่อตอนช่วงเดือนก.ค.ปี 2008
สถานการณ์คุกรุ่นระหว่างรัสเซียและยูเครนมีส่วนผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อของน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์พึ่งสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ $94 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะลดระดับลงมาอยู่แถว $91 ในวันนี้
ปัจจุบันรัสเซียเป็นอันดับ 2 ของโลกในฐานะผู้ผลิตทั้งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติรองจากสหรัฐฯ พวกเขายังมีบทบาทสำคัญในองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออกและกลุ่มชาติพันธมิตร (OPEC+) ที่กำลังทยอยขยายกำลังการผลิตกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิด COVID-19
วิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครนกำลังสร้างความเสี่ยงให้เกิดขึ้นในตลาดน้ำมันโลก โดยเริ่มจากโอกาสที่จะเกิดความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในพื้นที่ ต่อด้วยการจ่อใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานแก่รัสเซียจากกลุ่มชาติพันธมิตรฝั่งตะวันตก
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการที่ปธน. วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียจะใช้การส่งออกน้ำมันและแก๊สเป็นอาวุธในการตอบโต้ ท่ามกลางสถานการณ์ของราคาแก๊สในยุโรปที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้โรงงานและโรงไฟฟ้าหลายแห่งต้องเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเป็นแหล่งพลังงานแทน
ในขณะเดียวกัน JPMorgan ยังกล่าวเตือนว่า การส่งออกที่หยุดชะงักลงของท่อส่งแก๊สใด ๆ อาจทำให้ภาวะสมดุลของแก๊สธรรมชาติในยุโรปอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม โดยเฉพาะจากการที่ยุโรปเริ่มต้นปี 2022 ด้วยปริมาณแก๊สในคลังสำรองที่เป็นสถิติต่ำสุด
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดจากความหวังของการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงความคืบหน้าของการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) ครั้งใหม่
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐฯก็ยังคงไล่ตามการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาเฉลี่ยของน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศขยับขึ้นมาแตะระดับ $3.47 ต่อแกลลอนเมื่อวานนี้ และเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 7 เซนต์จากเมื่อสัปดาห์ก่อน
สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐ (EIA) ประเมินราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในปี 2022 ว่าจะอยู่ที่ $3.24 ต่อแกลลอน ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบัน แต่ก็เป็นอัตราที่สูงกว่าผลทำนายของ EIA เมื่อเดือนธ.ค.ที่ $2.88
ทาง IEA ยังคาดหมายราคาน้ำมันที่หน้าปั๊มในประเทศว่าจะลดระดับลงต่ำกว่า $3 ต่อแกลลอนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็จะลดลงมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย $68 ต่อบาร์เรลสำหรับปี 2023
References :
https://edition.cnn.com/2022/02/09/investing/russia-oil-prices/index.html