Search

ราคาทองคำวันนี้ ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ 00 x.x. 00
ครั้งที่ 0

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.

ทองรูปพรรณ 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.
ดูราคาทองเพิ่มเติม

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

[widget_lastupdate_spdr]

โบรกเกอร์ที่แนะนำ

Recommend Broker

ความเหลือเชื่อของทองคำ เปลี่ยนทุกวิกฤตเป็นโอกาส

ประวัติความเป็นมาของทองคำ

สิ่งมหัศจรรย์บนโลกใบนี้ยังไม่มีการค้นพบอีกมากมาย แล้ว”ทองคำ” คือหนึ่งสิ่งมหัศจจรย์เหล่านั้น โดยที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ราคาทองคำมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เคยสงสัยไหมว่าเหตุใดสิ่งที่เรียกว่า”ทองคำ” ที่คนส่วนใหญ่ต้องการครอบครอง ถึงได้กลายสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากมายจนถึงปัจจุบัน ในวันนี้มาเจาะถึงความเป็นมาของทองคำกันดีกว่าว่ามีที่มาอย่างไรและประวัติความเป็นมาอย่างไร รวมถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่มีผลกระทบต่อทองคำ หากพร้อมแล้วตามกันมาเลย

ปัจจัยที่มีผลต่อทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกิดได้จากหลายปัจจัยดังนี้

1. ความหายาก ผลิตซ้ำไม่ได้

เนื่องจากทองคำเป็นโลหะที่มีปริมาณจำกัดในโลก ขุดหายากเมื่อขุดออกมาต้องนำไปขึ้นกรรมวิธีต่างๆ หลายขั้นตอน ก่อนนำมาใช้งานเพราะทองคำมีเนื้อผิวนิ่มและอ่อนตัวสูง ทำให้ทองมีมูลค่าสูงจากต้นทุนกรรมวิธีด้วย 

2. ความทนทานต่อสภาวะใดๆ

     คุณสมบัติทองมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ณ สภาวะใดๆ ต่อให้นำไปเผาไฟหรือโดนสารเคมี ทองคำยังคงสภาพเดิมแม้ว่าจะเก็บไว้นานแค่ไหนก็ตาม จึงทำให้สะดวกต่อการดูแลรักษาได้ง่าย

3. ความงามที่มีเอกลักษณ์

     อย่างที่ทราบกันดีว่าทองคำมีสีเหลืองอร่าม เด่นสง่า ซึ่บ่งบอกถึงสถานะทางสังคมได้ดี จึงทำให้ทองคำเป็นที่นิยมนำมาทำเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ กำไรมือและเท้า แหวนต่างๆ เป็นต้น

4. สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย จับต้องได้

     ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยได้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน เพราะสามารถจับต้องได้ ต่อให้ไม่ให้ไม่เกิดวิกฤตใดๆ ทองคำยังคงมีมูลค่าอยู่เสมอ เมื่อเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ราคาทองมักปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภค 

5. วิกฤตการณ์ต่างๆ ส่งผลกระทบต่อเงินตรา

     นโยบายต่างของธนาคารกลางทั่วโลก เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และปัจจัยทางการเมืองต่างๆ เป็นต้น ถือว่าเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นจากพันธบัตรและเหรียญที่ถืออยู่มีมูลค่าน้อยลง

ประวัติความเป็นมาทองคำ

การพบค้นพบทองคำสู่สินทรัพย์ที่มีมูลค่า

ทองคำถูกสันนิฐานว่าเกิดจากการระเบิดจากดวงดาว ทำให้เกิดสายแร่ทองคำและเกล็ดทองคำปะปนบนพื้นผิวโลกอยู่ร่วมกับแร่ชนิดอื่น คาดว่ามนุษย์ได้รู้จักทองคำเมื่อประมาณ 40,000 ปีก่อนคริสต์กาลมาแล้วโดยพบร่อยรอยของเกล็ดทองคำในถ้ำของมนุษย์โบราณที่บัลแกรเลีย

การนำทองคำประยุกต์ใช้กับเครื่องประดับต่างๆ

ทองคำถูกสร้างขึ้นเป็นเครื่องประดับครั้งแรกของโลกเมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงของอารยธรรมแมโสโปเตเมียด้วยคุณสมบัติที่เงางามและแวววับสีทองที่น่าดึงดูดน่าสนใจ จากนั้นในช่วง 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ในอียิปต์โบราณค้นพบทองคำมากมายและอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าพื้นดิน ทำให้นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เนื่องจากมีความแวววาวและทนทาน นอกจากนี้ชาวอียิปต์ยังมีความเชื่อว่าทองคำคือเนื้อของเทพเจ้าอีกด้วย

เมื่อทองคำสู่สื่อกกลางการแลกเปลี่ยนที่มีมูลค่าสูง

เมื่อประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล อียิปต์เริ่มใช้ทองคำเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการครั้งแรกสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยสร้างเหรียญครั้งแรกที่มีชื่อว่า “เชเกล” ซึ่งเป็นเหรียญที่มีน้ำหนัก 11.3 กรัม ซึ่งมีแร่ทองคำ 2.ใน 3ของแร่เงิน และกลายเป็นหน่วยมาตารฐานสากลในตะวันออกกลาง ต่อมาประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์ได้ค้นพบการผสมโลหะสี่อื่นเข้ากับแร่ทองคำ เพื่อให้มีความแข็งแกร่งและสวยงามมากขึ้น ในช่วง 560 ต่อมาปีก่อนคริสตกาลในลิเดีย ชาวโรมันได้สร้างเหรียญทองคำบริสุทธิ์ครั้งแรก เรียกว่า Aureus ซึ่งมาจากคำภาษาละตินที่แปลว่าทองคำ คำว่า “ออรัม” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสัญลักษณ์ทางเคมีของทองในตารางธาตุ และถูกพัฒนาเป็นเหรียญกษาปณ์ทองคำก้อนแรกเรียกว่า Ducat จนกลายเป็นสกุลเงินทองคำที่ได้รับความนิยมจนถึง 5 ศตวรรษ ทำให้หลายประเทศนำมูลค่าทองคำผูกกับจำนวนของเงินในประเทศนั้น ๆ ทำให้เกิดระบบมาตรฐานทองคำขึ้นมา

เหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อทองคำ

ในปี 1800 ในสหราชอาณาจักรได้เริ่มผูกค่าของเงินปอนด์สเตอร์ลิงไว้กับปริมาณของทองคำและถูกเรียกว่า “ระบบมาตรฐานทองคำ Gold Standard” ในขณะนั้นสหราชอาณาจักรเป็นผู้นำการค้าระหว่างประเทศและเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ทำให้ค่าเงินปอนด์มีความน่าเชื่อถือมาก ประกอบกับช่วงนั้นทางสหรัฐฯ  ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ ได้ค้นพบเหมืองทองคำจำนวนมาก ทำให้เกิดทองคำค้ำประกันค่าเงินไว้ ถูกใช้ในระบบการเงินต่างประเทศมากขึ้น

อ้างอิงจาก www.chards.co.uk ระบุไว้ว่าในปี ปี 1833-2023 ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงกับทองคำ 1 ออนซ์ มีการเพิ่มขึ้นจาก 4.31 ปอนด์สเตอร์ลิง เป็น 1,600 ปอนด์สเตอร์ลิง คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นมากถึง 370 เท่า หรือ 37,000%

ส่วนมูลค่าทอง 1 ออนซ์ต่อเงินดอลล่าร์นั้น มีการเพิ่มขึ้นจาก 20 ดอลล่าร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์ โดยอัตราที่เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100 เท่าหรือ 10,000% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำสงครามอย่างมากและต้องพิมพ์ธนบัตรมาใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ทั่วโลกหันมาใช้ระบบเบรตตัน วู้ด (Breton Wood) ที่ผูกสกุลเงินดอลลาร์ฯ ไว้กับทองคำเพียงสกุลเดียว และประเทศอื่นต้องเปลี่ยนการค้ำประกันทองคำมาเป็นผูกกับเงินสกุลดอลล่าร์แทนจนถึงปัจจุบัน ทำให้กลายเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก แต่ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำและได้รับความนิยมมานาน หากเกิดสงครามทั่วโลกไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำได้ง่าย

สรุปความเหลือเชื่อของทองคำ

สุดท้ายจะเห็นได้ว่า มูลค่าทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้นและยังคงเป็นความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งบอกถึงการซื้อทองคำเก็บไว้ดีกว่าการฝากเงินไว้เพียงอย่างเดียวแน่นอน เพราะเราไม่อาจคาดเดาอนาคตข้างหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุใดๆขึ้น แต่สิ่งที่เรียกว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและช่วยเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอต่อให้เกิดวิกฤตการณ์ใดๆ ก็ตาม 

ทั้งหมดคือสาระความรู้เกี่ยวกับทองคำที่เราได้นำมาฝากวันนี้ ยังมีให้คุณได้ศึกษาราคาทอง ติดตาม TRADERRIDER ได้เลย

Relate Post