อังกฤษเตือนรัสเซียถึงมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงหากนำ ‘ระบอบหุ่นเชิด’ เข้าสู่ยูเครน
รัฐมนตรีอาวุโสอังกฤษระบุในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ารัสเซียจะต้องเผชิญหน้ากับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหากมีการนำระบอบหุ่นเชิดเข้าสู่ยูเครน หลังจากอังกฤษกล่าวอ้างว่า เครมลินมีความพยายามในการส่งเสริมผู้นำที่สนับสนุนรัสเซียในยูเครน
โดมินิก แรบ รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าวว่า จะเกิดผลกระทบอย่างจริงจังหากรัสเซียใช้วิธีการดังกล่าวในการพยายามและรุกรานยูเครนผ่านการใช้ระบอบหุ่นเชิด
อังกฤษได้กล่าวหารัสเซียในวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียได้ติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรุกราน
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของอังกฤษและระบุเป็น “การบิดเบือนข้อมูล” พร้อมทั้งกล่าวหาว่านาโตได้ “เพิ่มความตึงเครียด” ในประเด็นเกี่ยวกับยูเครน โดยคำกล่าวอ้างของอังกฤษมีขึ้นหลังจากนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ และรัสเซียล้มเหลวในการเจรจาครั้งสำคัญในวันศุกร์ที่ผ่านมาในการหาข้อสรุปเพื่อแก้ไขวิกฤตในยูเครน ซึ่งจุดประกายขึ้นเมื่อรัสเซียเริ่มระดมกำลังทหารใกล้พรมแดนติดกับยูเครน
เจ้าหน้าที่ในกรุงมอสโก ยืนยันว่าพวกเขาไม่มีแผนที่จะบุกรุก โดยทั้งรัสเซียและอเมริกาต่างตกลงในการดำเนินการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ในระดับสูง
ในกรุงวอชิงตัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่าได้สั่งให้สมาชิกในครอบครัวของคณะฑูตออกจากสถานทูตในกรุงเคียฟ เนื่องจากกังวลต่อภัยคุกคามจากการดำเนินการทางทหารของรัสเซีย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้เริ่มพิจารณาทางเลือกต่างๆ ในการเพิ่มยุทโธกรณ์ทางการทหารของอเมริกาในภูมิภาคนี้ หลังจากที่ได้พบกับผู้ช่วยด้านความมั่นคงระดับประเทศที่ค่ายพักพิง Camp David เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
นิวยอร์กไทม์สระบุว่าไบเดนกำลังพิจารณาส่งทหาร 1,000 – 5,000 นายไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันออก และมีความเป็นได้ที่จะเพิ่มจำนวนทหารมากขึ้นหากความตึงเครียดปะทุขึ้นอีก
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงปฏิเสธที่จะยืนยันตัวเลขในวันอาทิตย์ แต่กล่าวว่า “เรากำลังพัฒนาแผนการและเรากำลังหารือกับพันธมิตรเพื่อกำหนดทางเลือกในอนาคต”
ขณะที่ทั้งโลกจับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของมอสโกอย่างใกล้ชิด กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษกล่าวว่ามีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาส่งเสริมอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติของยูเครน เยฟเคน มูราเยฟ ให้เป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำที่สนับสนุนรัสเซีย
โดย มูราเยฟ เองก็ออกมาระบุว่ารัสเซียต้องการสนับสนุนให้เขาเป็นผู้นำของยูเครน ในการแสดงความคิดเห็นในหนังสือพิมพ์อังกฤษและในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม มูราเยฟกล่าวกับรอยเตอร์ว่า เขาได้อ่านข่าวทั้งหมดเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดนี้แล้ว แต่เป็นข้อมูลที่ไม่มีการพิสูจน์ และเป็นประเด็นที่ไม่มีมูล
ทั้งนี้เขายังปฏิเสธว่าได้มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียและปฏิเสธความคิดที่ว่าเขาจะร่วมมือกับเครมลินพร้อมระบุว่าเป็นความคิดที่ “โง่” เนื่องจากเขาถูกคุมขังภายใต้การคว่ำบาตรของรัสเซียในปี 2018
แม้ว่าเขาจะระบุว่าต้องการให้ยูเครนเป็นอิสระจากรัสเซียและประเทศตะวันตก แต่มูราเยฟ วัย 45 ปี ได้ส่งเสริมมุมมองบางอย่างที่สอดคล้องกับความสัมพันธ์ของเครมลินเกี่ยวกับยูเครน
กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษปฏิเสธที่จะให้หลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหา ทั้งนี้ในข้อความที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ มีไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประจำทำเนียบประธานาธิบดีของยูเครน กล่าวว่ามีข้อสงสัยในหมู่ชาวยูเครนว่ามูราเยฟเป็นบุคคลที่มีความเป็นไปได้น้อย ที่เครมลินจะเลือกสนับสนุนให้เป็นผู้นำยูเครน
แต่เขาเสริมว่ารัสเซียได้สนับสนุนบุคคลผู้อายุน้อยกว่าก่อนหน้านี้ในตำแหน่งผู้นำในพื้นที่ไครเมียและดอนบาส
ดังนั้น “เราควรใช้ข้อมูลนี้อย่างระมัดระวังที่สุด” เขากล่าว
สหรัฐฯ อธิบายว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวกับวางแผนโจมตียูเครนเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการของรัสเซีย
เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้เจ้าหน้าที่รัฐบาล เดินทางออกจากพื้นที่โดยสมัครใจ และกล่าวว่าชาวอเมริกันทุกคนควรพิจารณาออกจากพื้นที่โดยทันที
โดยระบุในถ้อยแถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เดินทางออกโดยสมัครใจ และสั่งให้สมาชิกในครอบครัวคณะฑูตเดินทางออกจากสถานทูตในกรุงเคียฟ เนื่องจากการคุกคามอย่างต่อเนื่องของการดำเนินการทางทหารของรัสเซีย”
จนถึงขณะนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธการเรียกร้องให้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียโดยทันที โดยกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าการกระทำเช่นนั้นจะบั่นทอนความสามารถของตะวันตกในการยับยั้งการรุกรานของรัสเซียที่อาจเกิดขึ้นกับยูเครน
ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้ส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครน แต่ระงับการส่งกำลังพลของสหรัฐฯขณะที่หารือเรื่องการส่งกำลังทหารของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า บทลงโทษทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียจะส่งผลในวงกว้างหากมีการบุกรุกยูเครน
สหรัฐอเมริกาจะใช้ข้อระเบียบผลิตภัณฑ์ทางตรงจากต่างประเทศเพื่อจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังรัสเซีย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
ขณะที่รัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐฯ หลายครั้ง รวมถึงการหยุดการขยายตัวทางตะวันออกของ NATO และให้คำมั่นว่ายูเครนจะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารของตะวันตก
Reference: