ดัชนีกิจกรรมในภาคโรงงานในสหรัฐฯที่ลดลงสะท้อนภาคการผลิตที่เริ่มชะลอตัวลง
ธนาคารกลางสหรัฐฯประจำฟิลาเดลเฟียรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า การวัดกิจกรรมการผลิตในภูมิภาคกลางมหาสมุทรแอตแลนติกลดลงในเดือนกรกฎาคมแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 และบริษัทต่างๆ รายงานแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดในรอบกว่าสี่ทศวรรษ
ดัชนีการผลิตรายเดือนของเฟดประจำฟิลาเดลเฟียร่วงลงในเดือนนี้มาอยู่ที่ลบ 12.3 ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่สองจากลบ 3.3 ในเดือนมิถุนายน โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์มีความคาดหวังตัวเลขจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ศูนย์
จากการสำรวจภาคธุรกิจในระดับภูมิภาค ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นสัญญาณที่เชื่อถือได้สำหรับรายงานมาตรฐานระดับประเทศ ระบุว่าธุรกิจต่างๆมองแนวโน้มของกิจกรรมที่ชะลอตัวลงอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยดัชนีการคาดการณ์แนวโน้มในช่วง 6 เดือนข้างหน้าลดลงมาอยู่ที่ติดลบ 18.6 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ธันวาคม 1979 จากติดลบ 6.8 ในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการจ้างงานยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจากการสำรวจเริ่มผ่อนคลายลง โดยมีบริษัทรายงานว่าต้นทุนการผลิตลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021
โดยเฟดกำลังจับตาดูข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อได้เริ่มปรับตัวลดลง แต่ยังคงมุ่งหน้าดำเนินการปรับนโยบายให้เข้มงวดจนกว่าจะสามารถดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด โดยในเดือนที่ผ่านมาดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญอีกประการหนึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 9.1% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981
ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนมีนาคม เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานสามครั้งจากระดับใกล้ศูนย์และปัจจุบันอยู่ในช่วง 1.50-1.75% และเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่าภายในสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดอาจแตะช่วง 3.50- 3.75%
โดยธนาคารกลางสหรัฐฯกำลังดำเนินการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยการจำกัดระดับอุปสงค์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงโดยไม่ก่อให้เกิดการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่เฟดต่างยอมรับว่า แนวทางในสู่ผลลัพธ์นั้นมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ
Reference:
https://www.reuters.com/markets/us/us-weekly-jobless-claims-hit-fresh-8-month-high-2022-07-21/