ไม่พลาดทุกจังหวะทำกำไร: สแกนหุ้นให้เป็น เห็นโอกาสก่อนใคร

ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความท้าทาย การตัดสินใจที่เฉียบคมและรวดเร็วคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ นักลงทุนที่สามารถมองเห็นโอกาสและเข้าใจตลาดได้อย่างลึกซึ้งย่อมได้เปรียบกว่าเสมอ และหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางนี้คือ “การสแกนหุ้น”

การสแกนหุ้น เปรียบเสมือนมี “เรดาร์” ที่ช่วยให้คุณสอดส่องหุ้นที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้น หรือนักลงทุนผู้มากประสบการณ์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของการสแกนหุ้น ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะในการทำกำไร และเห็นโอกาสก่อนใครในตลาดหุ้น 

ทำความรู้จักกับการสแกนหุ้น 

การสแกนหาหุ้น (Stock Screening) คือ กระบวนการคัดกรองหุ้นจำนวนมากในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อค้นหาหุ้นที่ตรงตามเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่นักลงทุนกำหนดไว้ โดยใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมสำเร็จรูป หรืออาจจะใช้ความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์หุ้น สร้างเงื่อนไขการสแกนขึ้นมาเองก็ได้

เป้าหมายของการสแกนหุ้น คือ ช่วยให้นักลงทุนสามารถไม่ต้องเสียเวลาค้นหาหุ้นทีละตัว ซึ่งอาจใช้เวลานานและไม่มีประสิทธิภาพ สามารถหาหุ้นที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังเลือกหุ้นที่ตรงตามความต้องการและสไตล์การลงทุนของตนเอง รวมไปถึงได้ข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบอีกด้วย 

ส่วนประเภทของการสแกนหุ้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

• การสแกนหุ้นทางเทคนิค (Technical Screening) 

เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ราคาหุ้น ปริมาณการซื้อขาย หรือตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ (เช่น RSI, MACD, Moving Average) เพื่อหาหุ้นที่มีแนวโน้มราคาขึ้นหรือลง

• การสแกนหุ้นปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Screening)

เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลทางปัจจัยพื้นฐาน เช่น งบการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน หรือแนวโน้มอุตสาหกรรม เพื่อหาหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในอนาคต

สำหรับตัวอย่างเงื่อนไขการสแกนหุ้น ด้านเทคนิค จะเป็นหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือหุ้นที่กำลัง Breakout จากแนวต้านสำคัญ เป็นต้น ส่วนด้านปัจจัยพื้นฐาน จะเป็นหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ต่ำ หุ้นที่มีอัตราส่วนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) สูง หุ้นที่มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง

เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับการสแกนหุ้น TradingView ตอบโจทย์มากที่สุด  

กลยุทธ์การสแกนหุ้น ที่เทรดเดอร์มืออาชีพแนะนำ  

• สแกนหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต 

กลยุทธ์การสแกนหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต (Growth stocks) เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนเน้นมองหาบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรืออุตสาหกรรม โดยคาดหวังว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต

ลักษณะสำคัญของ Growth Stocks ให้ดูจากบริษัทเหล่านี้มักมีอัตราการเติบโตของรายได้ กำไร หรือส่วนแบ่งการตลาดที่สูงกว่าคู่แข่ง และมักเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เช่น เทคโนโลยี พลังงานทดแทน หรือสุขภาพ แม้ว่าในช่วงแรกอาจจะยังไม่ทำกำไรมากนัก แต่มีศักยภาพในการทำกำไรสูงในอนาคต แต่เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง ราคาจึงมักจะมีความผันผวนมากกว่าหุ้นประเภทอื่นๆ

กลยุทธ์การสแกนหา Growth Stocks 

• ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators):

มองหาหุ้นที่มี RSI สูงกว่า 70 ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง และมองหาสัญญาณ Golden Cross (เส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal Line) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น รวมไปถึงมองหาหุ้นที่ราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (เช่น 50 วัน, 200 วัน) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น

• ใช้ตัวชี้วัดทางปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Indicators) 

ส่วนมากจะเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงและสม่ำเสมอ ให้คุณมองหาบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และมองหาหุ้นที่มี PEG Ratio ต่ำกว่า 1 ซึ่งบ่งบอกว่าหุ้นมีมูลค่าถูกเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโต รวมไปถึงมองหาบริษัทที่มีระดับหนี้สินที่เหมาะสม ไม่สูงเกินไป

• วิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพ 

บริษัทมีข้อได้เปรียบอะไรเหนือคู่แข่ง เช่น เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ หรือแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทีมผู้บริหารมีความสามารถและประสบการณ์เพียงใด และอุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตหรือไม่

• สแกนหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น 

กลยุทธ์การสแกนหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น (Value stocks) เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนเน้นมองหาบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง โดยคาดหวังว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อตลาดรับรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท

ลักษณะสำคัญของ Value Stocks ให้ดูจากราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่ประเมินจากปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไร สินทรัพย์ หรือกระแสเงินสด และบริษัทมีผลประกอบการที่ดี มีเสถียรภาพทางการเงิน และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต มักเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างเติบโตช้า เช่น สาธารณูปโภค การเงิน หรืออุตสาหกรรมหนัก แต่เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า Growth Stocks ราคาจึงมักจะมีความผันผวนน้อยกว่า

กลยุทธ์การสแกนหา Value Stocks 

• ใช้ตัวชี้วัดทางปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Indicators)

อัตราส่วนราคาต่อกำไร (Price-to-Earnings Ratio – P/E) และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (Price-to-Book Ratio – P/BV)  มองหาหุ้นที่มี Dividend Yield สูง ซึ่งบ่งบอกว่าบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลที่ดี และมองหาบริษัทที่มี D/E ต่ำ ซึ่งบ่งบอกว่าบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

• วิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพ

บริษัทมีประวัติการทำกำไรที่ดีและสม่ำเสมอหรือไม่ บริษัทมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอหรือไม่ รวมไปถึงทีมผู้บริหารมีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานหรือไม่

• สแกนหาหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 

กลยุทธ์การสแกนหาหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน (Momentum stocks) เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนเน้นมองหาหุ้นที่มีแรงซื้อขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดหวังว่าโมเมนตัมนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในระยะสั้น

เพราะว่าหุ้นเหล่านี้มักมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง และมักมีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุน เนื่องจากราคาเปลี่ยนแปลงเร็ว หุ้นโมเมนตัมจึงมีความผันผวนสูง และหุ้นโมเมนตัมสามารถพบได้ในทุกอุตสาหกรรม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ข่าวสาร ความคาดหวังของตลาด หรือผลประกอบการที่ดี

กลยุทธ์การสแกนหา Momentum Stocks ให้ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการมองหาหุ้นที่มี RSI สูงกว่า 70 ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะ Overbought แต่ก็เป็นสัญญาณของโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง หรือมองหาหุ้นที่เส้น MACD อยู่เหนือเส้น Signal Line และทั้งสองเส้นอยู่ในแดนบวก ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น และมองหาหุ้นที่มี OBV เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และอย่าลืมมองหาหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย

ทั้งนี้เราแนะนำให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท เช่น ผลประกอบการ การควบรวมกิจการ หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ติดตามแนวโน้มและความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และสังเกตความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดโดยรวม หากตลาดมีแนวโน้มเป็นบวก ก็มีโอกาสที่หุ้นโมเมนตัมจะปรับตัวขึ้นต่อ 

การนำการสแกนหุ้นไปใช้ในการเทรด EUR/USD  

แม้ว่าการสแกนหุ้นจะเน้นไปที่การค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพ แต่ข้อมูลที่ได้จากการสแกนหุ้นยังสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD ได้ เนื่องจากตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์มีความเชื่อมโยงกันในหลายด้าน

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นและค่าเงิน EUR/USD ก็ต่อเมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของยุโรป พวกเขามักจะลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการเงินยูโรเพิ่มขึ้น และทำให้ค่าเงิน EUR/USD แข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยุโรป พวกเขามักจะถอนเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นยุโรป ทำให้ค่าเงิน EUR/USD อ่อนค่าลง

รวมไปถึงผลประกอบการที่ดีของบริษัทในยุโรป โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ อาจส่งผลบวกต่อค่าเงินยูโร เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะได้รับรายได้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินยูโรเพื่อนำกลับมาใช้ในประเทศ

และการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีผลกระทบอย่างมากต่อค่าเงิน EUR/USD หาก ECB มีนโยบายที่เข้มงวดกว่า Fed ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หาก Fed มีนโยบายที่เข้มงวดกว่า ECB ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

ตัวอย่างการนำการสแกนหุ้นไปใช้ในการเทรด EUR/USD ให้ลองนึกภาพว่าหากพบว่าหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปมีแนวโน้มเติบโต อาจเป็นสัญญาณบวกต่อค่าเงินยูโร เนื่องจากแสดงถึงความเชื่อมั่นในภาคการเงินของยุโรป