รู้หรือไม่ – หากเปรียบอุตสาหกรรม BTC ในจีนเป็นประเทศก็จะมีการใช้พลังงานมากที่สุดเป็นอันดับ 12 ของโลกในปี 2016
กระแสความนิยมของ Bitcoin ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และการไปให้ถึงเป้าหมายในการลดมลพิษของจีน ตามวารสารวิชาการล่าสุดที่ผ่านการพิชญพิจารณ์ของ Nature Communications
ในรายงายได้กล่าวถึงจีนซึ่งเป็นแหล่งรวมของการทำเหมือง BTC ราว 75% ของทั่วทั้งโลก จากข้อได้เปรียบในเรื่องต้นทุนที่ต่ำของพลังงานไฟฟ้า และการเข้าถึงแหล่งผู้ผลิตของฮาร์ดแวร์พิเศษที่ใช้ในการนี้ได้อย่างง่ายดาย
การทำเหมือง BTC ด้วยคอมพิวเตอร์ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะจากรูปแบบสเกลที่มีขนาดใหญ่ และส่งผลให้มีปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกมาเทียบเท่ากับ 1 ในเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดของจีน ตามคำกล่าวอ้างของวารสาร
งานวิจัยดังกล่าวยังผ่านการประเมินและทบทวนมาจากมหาวิทยาลัยของจีนทั้ง Chinese Academy of Sciences และ Tsinghua University รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำอย่าง Cornell University และ University of Surrey
ปธน. สี จิ้นผิง แห่งจีนเคยประกาศเป้าหมายจะให้มีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกมาสูงสุดก่อนปี 2030 และจะพยายามผลักดันการลดมลพิษหลังจากนั้นจนเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2060 แต่ดูเหมือน BTC อาจจะกลายเป็นตัวอุปสรรคสำหรับแผนการนี้
จากรายงานได้กล่าวไว้ว่า หากไม่มีการควบคุมที่เหมาะสมรวมถึงนโยบายที่นำมาปฏิบัติได้จริง อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ BTC ในจีนอาจก่อตัวจนกลายเป็นภัยคุกคามต่อแนวทางการลดมลพิษของประเทศอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เคยมีผลวิจัยเรื่อง Bitcoin Electricity Consumption Index ของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ที่ระบุว่า เหมือง BTC ทั่วโลกใช้พลังงานไฟฟ้าไป 128.84 Twh ต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณการใช้งานที่สูงกว่าทั้งประเทศของยูเครนหรืออาร์เจนติน่า
และยังมีการเปรียบเทียบกันว่าหากอุตสาหกรรม BTC ในจีนถือเป็นประเทศหนึ่ง การใช้พลังงานโดยรวมที่เกิดขึ้นจะอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกในปี 2016 โดยแซงหน้าประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ อย่าง อิตาลีและซาอุดิอาระเบียด้วยซ้ำ
ในรายงานล่าสุดยังชี้ว่า หากไม่มีนโยบายที่คอยควบคุม การใช้พลังงานไปกับกระบวนการ blockchain ในจีนอาจไต่ขึ้นไปถึงจุดพีคในปี 2024 ที่ระดับ 296.59 Twh ซึ่งจะก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจกในปริมาณ 130.5 ล้านเมตริกตัน
เพื่อรับมือกับปัญหานี้เขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีนได้ประกาศไว้เมื่อเดือนก่อนว่า มีแผนจะแบนโครงการใหม่ในการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี และสั่งหยุดกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน
อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ธีล มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ที่ยังเคยกล่าวถึง BTC ว่าเปรียบเสมือนทองคำในรูปแบบดิจิทัล กลับมองไปถึงแรงจูงใจของจีนในการทำเหมือง BTC ในขณะที่มูลค่าของมันยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ระดับ $60,000
ธีล ให้ความเห็นไว้ว่า BTC อาจถูกใช้เป็นอาวุธทางการเงินของจีนในการเล่นงานสหรัฐฯ จากสถานะในปัจจุบันที่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเงินกระดาษโดยเฉพาะกับดอลลาร์ ซึ่งหากจีนต้องการให้มันอ่อนค่าลงพวกเขาก็จะต้องพยายามถือ BTC
References :
https://www.cnbc.com/2021/04/08/chinas-bitcoin-mining-is-threatening-its-climate-change-targets.html
https://edition.cnn.com/2021/04/09/business/bitcoin-mining-emissions/index.html
