รู้หรือไม่ – ผู้ว่าการ BoE เคยให้ความเห็นว่า Bitcoin มีคุณสมบัติที่ไม่เพียงพอในฐานะของการเป็นสกุลเงิน
ริชี ซูนัก รมว.คลังของ UK ได้เปิดเผยไว้เมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กำลังพิจารณาการจัดตั้ง “Britcoin” หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายจากคริปโทเคอร์เรนซีต่าง ๆ เช่น Bitcoin
CBDC ในเวอร์ชั่นของเงินปอนด์จะช่วยเสริมสร้างโอกาสให้กับภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคในการถือครองบัญชีของธนาคารกลางได้โดยตรง และหลีกเลี่ยงตัวกลางอื่น ๆ ในขั้นตอนการชำระเงิน
ในขณะที่ธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกต่างก็กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดตั้งสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง ซึ่งจะช่วยขยายการเข้าถึงหน่วยงานที่ปัจจุบันจะมีเพียงแค่ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ การเคลื่อนไหวของ BoE ก็น่าจะเข้ามาช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้กับเรื่องนี้
ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่กำลังเป็นผู้นำในการพัฒนา CBDC และเมื่อสัปดาห์ก่อนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ได้กล่าวไว้ว่า พวกเขากำลังศึกษาถึงประเด็นนี้อยู่ หากแต่การเปิดตัวสกุลเงินยูโรดิจิทัลขึ้นมาจริง ๆ ก็อาจต้องใช้เวลานานอีกหลายปี
อย่างไรก็ตาม BoE ก็ได้กล่าวไว้ว่า เงินปอนด์ดิจิทัลอาจจะไม่ถูกนำมาแทนที่เงินกระดาษหรือบัญชีธนาคารดั้งเดิมที่มีอยู่ พร้อมกับย้ำว่ายังไม่ได้มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะมีการนำ CBDC มาใช้ภายในประเทศ
ก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE เคยให้ความเห็นถึง BTC ไว้ว่า ไม่สามารถแสดงถึงการเก็บรักษามูลค่าที่มั่นคงหรือแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมเอาไว้ได้ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติไม่เพียงพอในฐานะของสกุลเงิน
แม้ BTC จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนักลงทุนสถาบัน จนมีมูลค่าทะยานขึ้นถึงเกือบ $65,000 ในวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน BoE ยังให้ความเห็นในเชิงลบต่อ Diem ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ Facebook พยายามจะผลักดันออกมาในเร็ว ๆ นี้
ซูนัก ที่อยู่ระหว่างงานประชุม UK FinTech Week ในช่วงสัปดาห์นี้ยังประกาศมาตรการอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของกรุงลอนดอนภายหลังการ Brexit ให้อยู่ในระดับที่ยังแข่งขันกับนครนิวยอร์กได้
ภายหลังการหลุดพ้นจากวงโคจรทั้งหมดของ EU ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ภาคการเงินของ UK ต้องก็เผชิญหน้ากับอุปสรรคต่าง ๆ ในการให้บริการกับลูกค้าในยุโรป ซึ่ง ซูนัก ก็หวังที่จะขจัดกฎระเบียบที่คอยขัดขวางกลุ่มลูกค้าออกไป
การมีตัวตนของ CBDC อาจเข้ามามีส่วนช่วยดึงดูดการค้าขายแลกเปลี่ยนแบบไม่ระบุตัวตนจากเหล่านักลงทุนรายใหญ่เพิ่มขึ้น หลังกรุงอัมสเตอร์ดัมขยับขึ้นมานั่งแท่นเมืองศูนย์กลางค้าอันดับ 1 ของยุโรปแทนที่ลอนดอนไปเมื่อเดือน.ค.ที่ผ่านมา
ซูนัก ยังกล่าวย้ำว่า กระบวนการปรึกษาหารือมีเป้าหมายที่จะนำเสนอขั้นตอนปฏิบัติที่เป็นธรรม, มองเห็นผลได้ และส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังช่วยรับรองว่า UK จะรักษามาตรฐานที่อยู่ในระดับสูงเอาไว้ต่อไป
เขายังกล่าวถึงข้อเสนอของรัฐบาลที่จะให้มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลในหนังสือชี้ชวนการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามฎระเบียบว่า จะไม่เป็นการสร้างภาระที่สูงเกินไป
References :