ตลาดทองคำยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเทขาย แต่ก็ยังคงเอาตัวรอดจากระดับต่ำสุดของเซสชั่นที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มต้นวัฏจักรการเงินรอบใหม่ แม้ว่าจะลดผลคาดการณ์การเติบโตและเพิ่มแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อขึ้นก็ตาม
หลังเป็นไปตามที่คาดไว้เมื่อ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 หน่วย % ก็ทำให้ราคาทองคำขยับลงมาทดสอบแนวรับที่เหนือ $1,900 และลดการขาดทุนบางส่วนในปฏิกิริยาเริ่มต้นจากมาตรการของสหรัฐฯที่เกี่ยวกับความไม่มั่นคงจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียทำให้เกิดความยากลำบากเป็นอย่างมากต่อชีวิตมนุษย์และเศรษฐกิจ และเพิ่มความไม่แน่นอนในระดับสูงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ในระยะเวลาอันใกล้มันจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่ออัตราเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ไม่เพียงแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed ยังมีแผนที่จะลดขนาดงบดุล แม้จะมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นแต่ทางสถาบันก็ส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้าต่อไป ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสภาพแวดล้อมของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเติบโตของเศรษฐกิจที่ลดลง
Fed Dot Plot หรือการประมาณการการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ยังก้าวกระโดดขึ้นจากผลลัพธ์ในเดือนธ.ค. โดยเหล่าคณะกรรมการเล็งไปถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.9% ตอนปลายปีนี้ จากผลคาดการณ์ที่ระดับ 0.9% ของเมื่อปลายปีก่อน
ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกยังทำให้ Fed ปรับลดมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจลงจากเดิมที่คาดไว้ 4.0% เมื่อเดือนธ.ค. มาเหลือแค่ 2.8% ภายในปี 2022 แต่ก็ยังคงผลทำนายตัวเลข GDP ในปี 2023 และ 2024 ไว้ดังเดิมที่ 2.2% และ 2.0% ตามลำดับ
ในขณะที่ Fed คาดหมายถึงแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยขยับผลคาดการณ์ของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขึ้นมาอยู่ที่ 4.1% ในปีนี้จากตัวเลขเดิมที่ 2.7% และยังปรับตัวเลขของปี 2023 และ 2024 ขึ้นเป็น 2.6% และ 2.3% จากเดิมที่ 2.3% และ 2.1% ตามลำดับ
ในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ก็ถูกประเมินว่าจะสูงขึ้นเป็น 4.3% ในปีนี้จากเดิมที่เคยมองไว้ 2.6% เช่นเดียวกับผลลัพธ์ในปีหน้าที่ขยับขึ้นเป็น 2.7% จาก 2.3% และสำหรับปี 2024 ก็อัปเดตเป็น 2.3% จากผลทำนายเดิมที่ 2.1%
จากความเคลื่อนไหวของ Fed และปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ก็ทำให้ MKS PAMP กิจการค้าโลหะมีค่ารายใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์อัปเดตมุมมองของราคาเฉลี่ยของทองคำขึ้นเป็น $2,000 ในปี 2022 พร้อมโอกาสขึ้นไปจนถึงจุดพีคที่ระดับ $2,500
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธของ MKS กล่าวว่า มีโอกาสที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังไม่ได้ยุติอย่างสมบูรณ์ภายในปีนี้ จึงทำให้มุมมองของโลหะมีค่าในปัจจุบันมีความแตกต่างจากผลทำนายก่อนหน้านี้ของพวกเขา
นอกจากนี้ สหรัฐฯยังกำลังเผชิญกับความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นจนกลายเป็นตัวเลขสองหลัก หลังจากค่าดัชนี CPI ของเดือนก.พ.แตะระดับ 7.9% ซึ่งก็เป็นสถานการณ์ก่อนหน้าที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะพุ่งสูงขึ้นจากการที่รัสเซียบุกยูเครน
MKS กล่าวต่อไปว่า พวกเขายังคาดการณ์ถึงแนวโน้มของการเกิดภาวะ Stagflation ว่าจะช่วยสนับสนุนทองคำ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวกำลังถูกเร่งด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงในรัสเซียและภาวะถดถอยในภูมิภาคยุโรป
Referaences :