ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปลอดภัยอื่น ๆ อย่างเยนและฟรังก์สวิส (CHF) ในเช้าวันนี้ จากที่ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งที่พร้อมจะปะทุขึ้นทุกเมื่อตรงบริเวณเขตชายแดนของยูเครน
นอกเหนือจากภัยคุกคามในการตัดสินใจของรัสเซียที่จะบุกโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ทะยานขึ้น 0.44% หลังธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกล่าวว่าอาจใช้นโยบายแบบตึงตัวมากขึ้นหากมีความจำเป็น
ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนของ 1 ดอลลาร์มีค่าเทียบเท่ากับ 115.03 เยนในช่วงเปิดตลาดเอเชีย หลังสกุลเงินของสหรัฐฯไต่ระดับขึ้นอย่างมั่นคงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจากจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 114.48 เยนและ 0.9210 ฟรังก์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทั้งเยนและฟรังก์ที่ถูกมองว่าเป็นสกุลเงิน Safe Haven ต่างมีมูลค่าสูงขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปตะวันออกส่งผลให้นักลงทุนหันมามองหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
ปัญหาความขัดแย้งในยูเครนดำเนินมาจนถึงจุดวิกฤตในสัปดาห์นี้ เมื่อรัสเซียสั่งให้กองกำลังเคลื่อนพลเข้าไปยัง 2 ดินแดนแบ่งแยกประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งทางกลุ่มชาติตะวันตกก็ตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลมอสโก
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกันแล้วสกุลเงินยูโรก็ดูจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไรนัก และขยับขึ้นมาอยู่แถว $1.1331 ในช่วงต้นเวลาทำการของตลาดเอเชีย โดยมีแนวโน้มการซื้อขายที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ในสัปดาห์นี้และยังไม่มีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดอย่างแน่ชัด
ส่วนสกุลเงินปอนด์ยังรักษาระดับได้ค่อนข้างคงที่แถว $1.35890 ในขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ที่ใช้ในการติดตามค่าเงินเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักตัวอื่น ๆ ยังคงวนเวียนอยู่แถว 96.026 โดยแทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไรนักในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ของธนาคาร Commonwealth Bank ให้ความเห็นว่า วิกฤตในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยแรกที่จะถูกนึกถึง แต่ปฏิกิริยาจากตลาดยังเป็นไปอย่างพอประมาณเนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการส่งสัญญาณออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้ได้ซักพัก
ราคาที่สูงขึ้นของพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่มาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนบางส่วน ก็ช่วยผลักดันให้ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ขยับขึ้นมาที่ $0.7235 ในวันนี้และกลายเป็นสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์
ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเกือบถึงระดับ $100 ต่อบาร์เรลในวันนี้ก็อาจเป็นสาเหตุของการติดขัดในระบบซัพพลายเชน โดยราคาที่ทะยานขึ้นไปแตะสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ยังส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในยุโรป โดยดอลลาร์มีมูลค่าดิ่งลง 1.3% เมื่อเทียบกับโครนนอร์เวย์เมื่อวานนี้
ในขณะเดียวกัน RBNZ ก็ได้กล่าวเตือนนักลงทุนว่า นโยบายของธนาคารกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสกุลเงิน หลังการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ พร้อมส่งสัญญาณถึงการใช้แนวทางสายเหยี่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ
จนถึงขณะนี้ตลาดต่างเทน้ำหนักไปที่การปรับอัตราดอกเบี้ยของ RBNZ ขึ้นไปถึงระดับ 2.50% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมุมมองก่อนหน้านี้ที่ 2.25% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีก็ขยับขึ้น 12 bps มาอยู่ที่ 2.695% และถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2016
References :