สมญา สวามินาธาน หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนดูจะมีอัตราการแพร่กระจายเชื้อในระดับสูง ซึ่งสิ่งที่ควรกระทำคือการเตรียมพร้อม, ระมัดระวัง และไม่ตื่นตระหนก
WHO ยังได้กระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ รณรงค์เรื่องมาตรการสาธารณสุขและการฉีดวัคซีนแก่ผู้คน เพื่อการรับมือกับเคสผู้ติดเชื้อที่จะสูงขึ้นจากสายพันธุ์โอไมครอน พร้อมกับย้ำว่ามาตรการระงับการเดินทางเพียงลำพังอาจช่วยได้แค่การซื้อเวลาเท่านั้น
แม้การปรากฏตัวของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี แต่ สมญา ก็ได้กล่าวถึงมุมมองในด้านบวกว่าทั่วโลกมีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้น จากการพัฒนาวัคซีนนับตั้งแต่เริ่มต้นภาวะวิกฤตของโรคระบาด
ในขณะที่รายละเอียดส่วนใหญ่ของสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดหลังการถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในภูมิภาคแถบแอฟริกาตอนใต้ ปัจจุบันในหลายพื้นที่ของยุโรปยังคงเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของสายพันธุ์เดลต้า
สมญา ได้กล่าวไว้ว่า เดลต้ายังคงครองสัดส่วน 99% ของการติดเชื้อทั่วโลก แต่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่น่าจะมีความสามารถในการแพร่กระจายที่ล้ำหน้าไปอีกจนขยับขึ้นมาแทนที่ แต่มันยังคงเป็นไปได้ยากที่จะคาดเดาถึงผลสรุป
เธอกล่าวต่อไปว่า โอไมครอนดูจะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่สูงขึ้น 3 เท่าจากที่แอฟริกาใต้เคยประสบมาก่อน นั่นก็หมายความว่ามันน่าจะมีความสามารถในการเอาชนะภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติบางส่วนที่ได้รับจากการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้
แต่ยังมีข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ป่วยอะไรมากมาย ซึ่งก็หมายถึงวัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยหนัก และเราก็น่าจะคาดหวังได้ว่าพวกมันจะยังคงให้การปกป้องในส่วนนี้ต่อไป
สมญา ยังให้ความเห็นถึงเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปีโดยชี้ว่า WHO กำลังเตรียมพร้อมสำหรับทุก ๆ สถานการณ์ ซึ่งอาจรวมถึงการฉีดเข็มกระตุ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในบางช่วงอายุและกลุ่มที่มีความเปราะบาง หรือแนวทางการปรับปรุงวัคซีน
ความแตกต่างของอัตราการฉีดวัคซีนยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยากจน อย่างอินโดนีเซียประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ยังคงมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเพียง 35% ของประชากรทั้งหมด
ในขณะที่สหรัฐฯก็มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสยังไม่ถึง 60% ของประชากรทั้งหมด และถือเป็นหนึ่งในสถิติต่ำสุดของกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลาย ๆ ฝ่ายในการประกาศใช้มาตรการฉีดวัคซีนจากรัฐบาลกลาง
นอกจากนี้ยังมีหลาย ๆ ประเทศที่รวมถึง UK และสหรัฐฯกำลังผลักดันแผนการนำเสนอการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น แต่ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกับการออกมาตรการระงับการเดินทางที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมายตามมา
นักวิทยาศาสตร์หลายคนกล่าวว่า หนทางที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส คือการทำให้แน่ใจว่าประเทศที่มีฐานะยากจนจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ ไม่ใช่การแจกจ่ายวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ผู้คนที่อยู่ในประเทศที่มีฐานะร่ำรวย
References :
https://www.reuters.com/world/omicron-marches-biden-prepares-us-grim-winter-2021-12-03/