ในวันพรุ่งนี้ไทยจะเริ่มต้นนโยบายเปิดประเทศ โดยยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนครบจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก แม้อัตราการฉีดวัคซีนของประชากรในประเทศจะยังคืบหน้าไปไม่ถึงครึ่ง
จากข้อมูลจนถึงวันที่ 27 ต.ค.มีประชากรของไทยเพียง 42% ที่ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบถ้วน โดยเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา, มาเลเซีย และสิงคโปร์ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 70%
จากคำประกาศโดยนายกฯของไทยเมื่อช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America ให้ความเห็นว่า มันเป็นข่าวดีสำหรับภาคการท่องเที่ยวของประเทศรวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและค่าเงิน แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่มาพร้อมกับความเสี่ยง
BofA อธิบายว่าแม้จะเป็นความพยายามที่น่าชื่นชมแต่อัตราการฉีดวัคซีนของไทยยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำและเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง โดยมีหลักฐานจากประเทศอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่ามันอยู่ในระดับที่ต่ำเกินกว่าจะป้องกันการแพร่ระบาดโดยเฉพาะกับสายพันธุ์เดลต้า
นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Oxford Economics กล่าวว่า ไทยเป็น 1 ในประเทศของภูมิภาคที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุด โดยภาคส่วนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 21% ของตัวเลข GDP ในปี 2019
ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการเงิน Nomura ให้ความเห็นว่า การที่รัฐบาลพยายามเปิดประเทศอีกครั้งแม้จะมีอัตราการฉัดวัคซีนแค่ราว 40% เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศของเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน
จากข้อมูลของรัฐบาลไทยเผยว่า ประเทศมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 7.5% แบบปีต่อปีในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย, สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ที่มีอัตราอยู่ระหว่าง 11.8%-16.1%
Oxford Economics คาดการณ์การเติบโตของตัวเลข GDP ในไทยตลอดทั้งปี 2021 เอาไว้ที่ 1.8% ส่วนทาง Nomura ประเมินตัวเลข GDP ของไทยในปีนี้ที่ 0.6% ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ทำนายเอาไว้ที่ 0.96%
แม้ Oxford Economics จะคาดหมายถึงการฟื้นตัวของนักเดินทางจากต่างประเทศในปีหน้า แต่ก็น่าจะไม่เกินระดับ 66% เมื่อเทียบกับปี 2019 และยังย้ำว่ากว่าที่ปริมาณการท่องเที่ยวขาเข้าของไทยจะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 ก็อาจต้องรอไปจนถึงปี 2025
เช่นเดียวกับ BofA ที่มุ่งประเด็นไปถึงนักเที่ยวจากจีนที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 จากบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทยเมื่อปี 2019 ว่ายังไม่น่าจะกลับคืนสู่ระดับเดิมจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2022
ในขณะที่ Nomura ให้ความเห็นว่า พื้นที่ส่วนอื่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กำลังมองถึงช่องทางในการเปิดพรมแดนเพื่อรับนักเดินทางอีกครั้ง และนั่นก็เป็นแนวโน้มที่มีส่วนสำคัญของแผนการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
ความจำเป็นสำหรับการเปิดประเทศอีกครั้งกำลังเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันที่มีสูงขึ้นของประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มผ่อนผันระเบียบการเดินทางข้ามแดน เช่น สิงคโปร์ที่เตรียมเปิดรับนักเดินทางจากหลาย ๆ ประเทศหลังมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงถึง 85%
References :
