หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องการโดนลดวงเงินในบัตรเครดิตกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ธนาคารบางแห่งเริ่มลดวงเงินเครดิตของผู้บริโภคลง เนื่องจากการสูญเสียงานและรายได้ที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก จึงทำให้ผู้คนอาจพลาดการชำระเงินรายเดือนได้มากขึ้น หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือ ธนาคารมีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้หากมีคนซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิตจำนวนมากสูญเสียงานและขาดการจ่ายเงินเนื่องจากขาดรายได้เนื่องจากการว่างงานหรือจำนวนรายได้ที่ลดลงในช่วงนี้ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่าหากโดนลดวงเงินในบัตรเครดิต จะมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง พร้อมกับวิธีการป้องกันสำหรับการโดนลดวงเงินในบัตรเครดิต
พูดคุยกับธนาคารโดยตรง
เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาแล้ว การพูดคุยกับธนาคารโดยตรง ถือเป็นเรื่องที่ควรทำมากที่สุด สำหรับในเรื่องนี้ ชาวอเมริกันจำนวนมากนิยมที่จะพูดคุยและถามกับธนาคารที่ออกบัตรให้พวกเขาอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดหรือให้พวกเขาได้ทำการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องการลดวงเงินในบัตรอีกครั้ง
ถ้าหากกรณีที่มีบัตรเครดิตหลายใบควรซื้อสินค้าชิ้นเล็ก ๆ หรือจำนวนไม่มากในบัตรแต่ละใบแทน เนื่องจากธนาคารมีแนวโน้มที่จะปิดบัตรเครดิตที่อยู่เฉยๆและการซื้อสินค้าเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้บัตรเครดิตใช้งานต่อไปได้
นอกจากนี้การสมัครบัตรใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน หากที่ผ่านมาเราจ่ายเงินตรงเวลา ด้วยวงเงินเครดิตที่เรามีอยู่และเครดิตของเราอยู่ในเกณฑ์ดีมากตลอด เราก็สามารถได้รับการอนุมัติสำหรับบัตรเครดิตใหม่ที่มีวงเงินสูงกว่าเดิมได้ แม้ว่าวงเงินบัตรใหม่จะไม่สูงกว่าบัตรปัจจุบัน แต่ก็ยังเพิ่มเครดิตโดยรวมของเราได้ และถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดีอีกหนึ่งวิธีเช่นกัน
วงเงินบัตรเครดิตที่สูงขึ้นจะช่วยคุณได้อย่างไร
หากเราเป็นผู้ถือบัตรที่รับผิดชอบที่มีเครดิตดีหรือดีเยี่ยมวงเงินที่สูงขึ้น สามารถเพิ่มเครดิตของเราได้ ซึ่งการใช้เครดิตหรือจำนวนเครดิตที่เราใช้อยู่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในคะแนนเครดิตของเรา อย่างไรก็ตามการใช้บัตรเครดิตก็มีกฎของมันอยู่เหมือนกัน กฎทั่วไปสำหรับการใช้เครดิตที่ดีคือการใช้วงเงิน 30% หรือน้อยกว่าในบัตรแต่ละใบ
คิดให้รอบคอบก่อนขอวงเงินที่สูงกว่า
สำหรับการขอวงเงินที่สูงกว่าเดิม ก่อนอื่นเราต้องพิจารณาให้ถึงเหตุผลและความต้องการก่อนให้รอบคอบก่อน หากกำลังมองหาความยืดหยุ่นหรือการใช้งานที่น้อยลง ก็เริ่มลงมือทำมันซะ แต่หากต้องการเครดิตเพิ่ม เนื่องจากอยู่ในภาวะฉุกเฉินทางการเงินที่สอดคล้องกับข้อจำกัดที่สูงกว่านั้น นั่นอาจไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่และอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิมได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจขอวงเงินเพิ่ม เราขอแนะนำว่าให้รอจนกว่าจะได้รับรายได้ที่สูงขึ้นหรือมีเงินเพิ่มขึ้น มีเครดิตที่ดีหรือมีประวัติการเป็นผู้ถือบัตรที่รับผิดชอบเพียงพอต่อธนาคารที่ออกบัตรให้ แต่หากรายได้ของเราลดลงหรือเครดิตไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีมากสักเท่าไหร่นัก ก็อาจต้องรอให้สภาพทางการเงินดีขึ้นก่อนแล้วค่อยขอเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต
ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำสำหรับการรับมืออย่างชาญฉลาด เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเช่นการรับมือเมื่อโดนลดวงเงินในบัตรเครดิต ที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตที่หลายธนาคารเริ่มมีการปรับลดวงเงินของผู้ใช้บริการลงไปเพื่อป้องกันการเรื่องการจ่ายเงิน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงเวลานี้