ท่ามกลางการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีของราคาน้ำมัน แต่อย่าคาดหวังว่าบริษัทผู้ผลิตของสหรัฐฯจะเพิ่มปริมาณการจัดหา และในทางกลับกันมันก็เป็นช่วงเวลาสำหรับบริษัทเหล่านี้ที่จะกอบโกยกำไรหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
บรรดานักลงทุนต่างกังวลกับการซื้อน้ำมันของรัสเซีย เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าการส่งออกเหล่านั้นจะไม่ถูกรวมเข้ากับมาตรการคว่ำบาตรในปัจจุบัน และผู้ผลิตรายใหญ่อื่น ๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ก็กล่าวว่าจะไม่เติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้
แม้ว่าการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯจะสามารถทำกำไรให้ผู้ผลิตได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ในขณะที่ยังจะช่วยลดราคาที่หน้าปั๊มสำหรับกลุ่มผู้บริโภค แต่ก็มีหลายประเด็นที่ทำให้บริษัทเหล่านี้ยังไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้
เฉกเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ผู้ผลิตน้ำมันกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน พวกเขายังมีปัญหาในการจัดหาอุปกรณ์บางอย่างที่จำเป็นสำหรับเพิ่มผลผลิตในการสกัดน้ำมัน shale oil จากชั้นหิน
นั่นจึงทำให้ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯอยู่ต่ำกว่า 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) หรือคิดเป็นระดับต่ำกว่า 8% จากเมื่อปี 2019 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังมองว่ามีแนวโน้มในระดับต่ำที่จะฟื้นคืนผลผลิตกลับมายังระดับปกติได้ภายในปีนี้
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจะทำให้บริษัทน้ำมันยังคงระมัดระวังเรื่องเร่งการลงทุน คือการล่มสลายของราคาน้ำมันในปี 2020 ซึ่งเกิดขึ้นช่วงแรก ๆ ของวิกฤต COVID-19 จนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิ่งลงในช่วงสั้น ๆ และทำให้เกิดการล้มละลายทั่วทั้งอุตสาหกรรม
ปัจจัยอีกข้อที่ขัดขวางการเพิ่มผลผลิตในสหรัฐฯคือความลังเลในการลงทุนกับหุ้นในกลุ่มเชื้อเพลิงฟอสซิล เมื่อบริษัทน้ำมันและแก๊สหลายแห่งไม่ต้องการขุดเจาะเพิ่ม และยังมีแรงกดดันจากกลุ่มผู้ถือหุ้นในการจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นกลับคืนมามากขึ้น
และนั่นก็ทำให้ ExxonMobil, Chevron, Marathon และ Phillips 66 ที่แม้จะถูกคาดหมายถึงการใช้จ่ายเงินเพื่อการสำรวจและการลงทุนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ก็ไม่มีบริษัทใดที่ถูกมองว่าจะใช้จ่ายในระดับเดียวกับเมื่อปี 2019
นักวิเคราะห์จากธนาคาร Raymond James กล่าวว่า ยังมีปัจจัยเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากหากมีการเริ่มขุดเจาะบ่อน้ำมันในวันนี้ ก็อาจต้องใช้เวลาตั้งแต่ 6 ถึง 12 เดือนสำหรับปริมาณการจัดหาที่เพิ่มขึ้น
น้ำมันดิบเบรนท์ที่ถูกใช้เป็นตัวอ้างอิงทั่วโลกมีราคาไต่ระดับขึ้นในวันนี้จะเกือบถึง $120 ต่อบาร์เรล หลังการส่งออกของรัสเซียเกิดการติดขัดจากที่นักลงทุนพยายามหลีกเลี่ยงการซื้อขายจนเปรียบเสมือนเป็นการคว่ำบาตรแบบกลาย ๆ
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ของสหรัฐฯที่มุ่งเป้าไปยังภาคการผลิตน้ำมันของรัสเซีย ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนว่าการส่งออกน้ำมันและแก๊สธรรมชาติของรัสเซียจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไป
รัสเซียอยู่ในฐานะคู่แข่งกับซาอุดิอาระเบียในการชิงตำแหน่งผู้ส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมียอดการจัดส่งมากกว่า 7 ล้าน bpd ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งจะถูกส่งไปยังยุโรป
References :
https://edition.cnn.com/2022/03/02/energy/us-oil-production/index.html
