รู้หรือไม่ – ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลกในขณะที่จีนคือผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่สุด
ไวน์, ข้าวสาลี, กุ้งลอบสเตอร์, ไม้, ถ่านหิน และข้าวบาร์เลย์ ต่างเคยเป็นสินค้านำเข้าหลักของจีนจากออสเตรเลีย แต่ทิศทางการค้ากลับแปรเปลี่ยนไปจากการตั้งกำแพงภาษีโดยรัฐบาลปักกิ่งในปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงระหว่าง 2 ประเทศ
จนปัจจุบันเหลือเพียงแร่เหล็กที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์เพียงอย่างเดียวที่ยังรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้งคู่เอาไว้ จากการที่ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลกด้วยผลิตผลที่เกินกว่า 910 ล้านตันในรอบปีบัญชี 2019-20
แร่เหล็กคือส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตเหล็กกล้า และยังเป็นทรัพยากรหลักในแผนการทุ่มงบประมาณ $5 แสนล้านสำหรับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่จีนหวังจะช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังผ่านพ้นภาวะวิกฤตของ COVID-19
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียเริ่มดิ่งลงอย่างหนักในช่วง 1 ปีก่อนหน้านี้ หลังนายกฯ สกอตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียเรียกร้องให้มีหน่วยงานอิสระในการตรวจสอบต้นตอของเชื้อโคโรน่าไวรัสในจีน
รัฐบาลปักกิ่งแสดงความไม่พอใจต่อความเห็นดังกล่าวโดยชี้ว่าเป็นการปลุกปั่นทางการเมือง ก่อนจะเริ่มตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าที่นำเข้ามาจากออสเตรเลีย ในขณะที่การลงทุนจากจีนในออสเตรเลียก็มีอัตราลดลงถึง 62% ในปี 2020
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเลวร้ายลงอีก โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนรัฐบาลปักกิ่งประกาศระงับการเจรจาเชิงกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและออสเตรเลียอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่เคยเริ่มต้นปูทางด้วยกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2014
แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบเหมือนกับไวน์และถ่านหิน เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จีนจะหาแหล่งทรัพยากรแร่เหล็กแห่งใหม่ได้ในเร็ววันนี้ ซึ่งทำให้ออสเตรเลียที่เป็นผู้ครองตลาดส่วนใหญ่ยังคงรักษารายได้ตรงส่วนนี้ต่อไป
แร่เหล็กจากออสเตรเลียยังมีคุณสมบัติหลักที่สำคัญสำหรับจีนในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ ในขณะที่พวกเขายังมีการผลิตแร่ฮีมาไทต์ได้มากกว่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในเหล็กใช้งานทั่วไปมากกว่าอีตาบิไรต์หรือแมกนีไทต์
ตามปกติแล้วมันเป็นเรื่องง่ายและประหยัดกว่าในการแปรรูปแร่ที่มีส่วนประกอบของเหล็กที่ใช้งานสูงกว่า ในขณะที่รายงานเมื่อต้นปีของรัฐบาลออสเตรเลียก็ได้เผยว่า พวกเขายังมีแหล่งแร่แมกนีไทต์มากกว่าผู้ค้าลำดับถัดไปอย่างบราซิลและอินเดียถึงกว่า 3 เท่า
นอกจากนี้ออสเตรเลียยังเป็นผู้จัดส่งแร่เหล็กที่มีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือมาโดยตลอดจากระบบการเมืองและเศรษฐกิจที่มั่นคง ซึ่งจากผลสำรวจของสหรัฐฯในปี 2017 เผยว่า ระดับความน่าเชื่อถือของออสเตรเลียเติบโตขึ้นทุกปีนับจากปี 2000 จนถึง 2015
แม้ในปีที่ผ่านมาสื่อหลักของรัฐบาลจีนจะรายงานข่าวเรื่องการพยายามมองหาช่องทางนำเข้าแร่เหล็กมาจากทวีปแอฟริกา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าสาเหตุมาจากการที่ออสเตรเลียพยายามสนับสนุนสหรัฐฯในการสกัดกั้นจีน
แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า แม้ความสัมพันธ์ทางการค้าของทั้งคู่จะมีความแตกแยกเพิ่มขึ้นเพียงใด แต่การค้าแร่เหล็กจะยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศต่อไปภายในอนาคตอันใกล้นี้
References :
https://edition.cnn.com/2021/05/05/economy/australia-china-iron-ore-trade-intl-hnk/index.html