Search

ราคาทองคำวันนี้ ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ 00 x.x. 00
ครั้งที่ 0

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.

ทองรูปพรรณ 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.
ดูราคาทองเพิ่มเติม

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

กองทุนทองคำ ปริมาณการถือครองทองคำ SPDR ล่าสุด

ประจำวันที่ 23 เม.ย. 2567

ถือครองก่อนหน้า Previous Holding (ton)

831.91

ถือครองล่าสุด Last Holding (ton)

831.91

ทองคำตลาดโลก Gold Spot

2,325.94

เปลี่ยนแปลง Changes

0.00
วันนี้ +0.00
ดูราคาทองเพิ่มเติม

โบรกเกอร์ที่แนะนำ

Recommend Broker

เจาะลึกภารกิจอัตราเงินเฟ้อของ Fed ที่อาจนำไปสู่ความผิดพลาด?

รู้หรือไม่ – Fed ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่าจะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เอาไว้จนถึงปี 2023

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาประกาศเตือนนักลงทุนถึงสถานะความไม่แน่นอนที่กำลังจะนำมาสู่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หากแต่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของตลาดกลับยังคงมองข้ามคำเตือนนี้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคืออัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 2% ทุกช่วงระยะเวลา ส่วนมูลค่าในตลาดหุ้นก็ยังสะท้อนมุมมองในด้านบวกสำหรับอัตราเงินเฟ้อออกมา และนั่นก็ทำให้ดูเหมือนว่าความน่าเชื่อถือของ Fed อาจกำลังมีปัญหาอยู่

จากเมื่อเดือนส.ค. เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้ออกมาประกาศว่า ธนาคารจะเริ่มวางเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยเอาไว้ที่ 2% ซึ่งจากแนวทางที่ผ่านมาของ Fed อัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% โดยตลอด

ดังนั้นการไปให้ถึงเป้าหมายค่าเฉลี่ยที่ 2% ในอนาคต ธนาคารจำเป็นจะต้องผลักดันให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงกว่า 2% ภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งเป็นสำคัญ

และจากเมื่อเดือนก.ย. เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ก็ได้ตอกย้ำไปถึงประเด็นของอัตราเงินเฟ้อสูง ที่มาจากส่วนผสมของการผ่อนผันเครดิต, การขาดดุลงบประมาณของภาครัฐ และปัญหาคอขวดจากแหล่งซัพพลายที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19

ในขณะที่ สแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ มหาเศรษฐีและผจก.กองทุนชื่อดังก็แสดงความกังวลต่อการสูญเสียอำนาจในการซื้อของสหรัฐฯที่อาจมีสูงกว่า 2% ตามที่ Fed ได้คาดหวังไว้ โดยเขามองไปถึงอัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นไปที่ 5% หรืออาจจะถึง 10% เลยทีเดียว

ปัญหาความน่าเชื่อถือของ Fed อาจแปรเปลี่ยนสภาพจากการที่ไม่ได้ลงมือจัดการกับปัญหาความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้ออย่างจริงจัง ไปจนสู่ความไม่น่าไว้เนื้อเชื่อใจว่าจะควบคุมปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว

หรือบางทีนักลงทุนทองคำอาจรับรู้ในบางสิ่งที่นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นมองข้ามไป หลังจากตลาดทองคำสร้างสถิติราคาสูงสุดขึ้นมาใหม่ในเดือนส.ค. ก่อนจะเกิดการเทขายขึ้นในเดือนถัดมา

อย่างไรก็ตามแนวโน้มของตลาดกระทิงก็ยังดูจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และนั่นก็หมายความว่าการทะยานขึ้นของราคาทองคำนับจากนี้ต่อไป ก็อาจนำไปสู่การสร้างสถิติใหม่ขึ้นอีกเรื่อย ๆ

หากทองคำคือตัวดัชนีชี้นำการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ เช่น เป็นการบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อมูลค่าและความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ ดังนั้นนักลงทุนก็ควรคาดหวังไปถึงทรัพย์สินอื่น ๆ ว่าควรจะเดินตามทิศทางการชี้นำของทองคำ

แทนที่จะเพลิดเพลินกับมูลค่าของหุ้นที่สูงขึ้น พวกเขาอาจจะได้เจอปัญหาจากราคาของอาหาร, เชื้อเพลิง, ยารักษาโรค และค่าจ่ายอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนควรจะถือครองสินทรัพย์ที่เดินตามรอยทองคำไปสู่โอกาสของการสร้างสถิติใหม่ภายในไม่กี่เดือนหรือปีข้างหน้านี้

หากความคาดหวังของอัตราเงินเฟ้อโดยพื้นฐานแปรเปลี่ยนจากข้อกังขาที่ว่า Fed จะประสบผลในการรักษาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 2% ได้หรือไม่ จนกลายเป็นความกลัวว่าอัตราเงินเฟ้อจะเลยไปไกลกว่านั้น เราก็คงจะได้เห็นราคาของโลหะมีค่าทะยานขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่

พวกมันไม่เพียงแต่จะขยับขึ้นเล็กน้อยเพื่อสะท้อนถึงอัตราเงินเฟ้อที่ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้น แต่มันจะก้าวกระโดดขึ้นจากการสะท้อนให้เห็นถึงปริมาณความต้องการของนักลงทุนที่มีต่อทรัพย์สินปลอดภัย

และเราก็เคยเห็นปรากฏการณ์นั้นไปบ้างแล้วเมื่อช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ล็อคดาวน์เพื่อควบคุมปัญหาเชื้อไวรัส จากอุปสงค์ของทองคำและโลหะเงินที่ส่งผลให้ราคาของพวกมันพุ่งพรวดขึ้นภายในระยะเวลาไม่นาน

วงจรรอบใหม่ของอัตราเงินเฟ้อยังถูกคาดหมายได้ว่าจะกินระยะเวลานานขึ้น และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าติดตามมากขึ้นสำหรับกราฟราคาของโลหะมีค่าทั้งหลาย

ช่วงเวลาสุดโต่งที่แท้จริงของทองคำและเงินเคยเกิดขึ้นระหว่างภาวะเงินเฟ้อในช่วงปลายยุคปี 1970 และถึงแม้ประวัติศาสตร์อาจจะไม่ย้อนรอยกลับมาเหมือนเดิมแบบเป๊ะ ๆ แต่มันก็ช่วยชี้นำให้เห็นถึงสิ่งที่นักลงทุนจะต้องเผชิญหน้าภายในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกัน

ตราบใดที่ Fed ยังคงมุ่งมั่นที่จะลดค่าเงินด้วยระดับความเร็วสูงกว่าที่เคย พร้อมกับการลงโทษผู้ออมเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ติดลบ แนวโน้มสำหรับราคาของโลหะมีค่าก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปเรื่อย ๆ

 

References :

https://www.fxstreet.com/analysis/the-feds-quest-for-higher-inflation-what-could-go-wrong-202010081717

Relate Post