รู้หรือไม่ – ท่อส่งน้ำมัน Colonial Pipeline ครอบคลุม 45% ของการจัดส่งเชื้อเพลิงในแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
การแฮกท่อส่งน้ำมันของ Colonial Pipeline ที่เป็นบริษัทท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และมันกำลังสร้างประวัติศาสตร์การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครั้งสำคัญที่สุด
จากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการขนส่งเชื้อเพลิง หลังการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ครั้งนี้ ซึ่งทำให้การลำเลียงน้ำมันเกือบครึ่งหนึ่งของชายฝั่งตะวันออกต้องหยุดชะงักลง
หลายคนอาจจินตนาการภาพไม่ออกว่าอุตสาหกรรมน้ำมันในปัจจุบันต้องพึ่งพาระบบดิจิทัลขนาดไหน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันครอบคลุมทั้งในส่วนเซนเซอร์วัดแรงดัน, เทอร์โมสตัท, วาล์ว และปั๊มที่ใช้ติดตามและควบคุมระบบไหลเวียนภายในท่อที่มีความยาวนับร้อยกม.
ในขณะที่ระบบขนส่งน้ำมันของ Colonial Pipeline ยังมีแม้กระทั่ง “Smart Pig” หุ่นยนต์ตรวจสอบที่จะคอยมองหาสิ่งผิดปกติในระบบ ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำงานเหล่านี้จะถูกเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบศูนย์กลางทั้งหมด
และการเชื่อมต่อดังกล่าวก็กลายเป็นความเสี่ยงของการถูกโจมตีทางไซเบอร์ เพราะหากระบบเครือข่ายภายในองค์กรถูกเจาะเข้ามาได้ ตัวท่อส่งน้ำมันก็จะกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยซอฟท์แวร์หรือโปรแกรมที่ประสงค์ร้ายต่าง ๆ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างให้ความเห็นว่า การโจมตีเทคโนโลยีปฏิบัติการโดยตรงอาจเป็นเรื่องยากเพราะส่วนใหญ่จะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี นั่นจึงทำให้กลุ่มแฮกเกอร์มีแนวโน้มที่จะเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของ Colonial เข้ามาทางฝั่งผู้ดูแลระบบของธุรกิจ
หลายครั้งที่การโจมตีครั้งใหญ่เริ่มต้นมาจากอีเมล์ ตัวอย่างเช่น พนักงานของฝั่งผู้ดูแลระบบอาจถูกหลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์บางตัวเข้ามา หรือบางครั้งแฮกเกอร์ก็อาศัยช่องโหว่จากจุดอ่อนหรือการอะลุ่มอล่วยให้กับซอฟท์แวร์ของบุคคลที่ 3
ยังมีความเป็นไปได้ที่แฮกเกอร์อาจเคยคลุกคลีอยู่ในระบบเครือข่ายของ Colonial มาเป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ก่อนจะลงมือเจาะระบบเข้ามาเพื่อทำการล็อคข้อมูลต่าง ๆ เป็นตัวประกันและใช้เรียกค่าไถ่
ล่าสุดสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ได้กล่าวยืนยันว่า DarkSide ที่เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ชื่อดัง ซึ่งคาดว่ามีฐานที่มั่นอยู่ในรัสเซียและมีชื่อเสียงในด้านการเจาะระบบเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้
จากสถานการณ์ที่ยาวนานต่อเนื่องมาถึงวันนี้ก็นับเป็นวันที่ 6 นั่นจึงทำให้ปั๊มน้ำมันหลายแห่งในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน จากการกักตุนสินค้าด้วยความตื่นตระหนกของประชาชนภายในพื้นที่
แม้บรรดาผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานของรัฐจะพยายามวิงวอนให้ชาวอเมริกันไม่กักตุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก แต่จากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีรายงานของปั๊มน้ำมันกว่า 1,800 แห่งจากในหลาย ๆ รัฐที่ไม่มีน้ำมันจะขาย
ในขณะเดียวกันราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของปั๊มน้ำมันในแต่ละแห่งก็ทะยานขึ้นสูงกว่าระดับจิตวิทยาหลักที่ $3 ต่อแกลลอนภายในวันนี้ และยังถือเป็นสถิติที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีอีกด้วย
References :
https://www.bbc.com/news/technology-57063636
https://edition.cnn.com/2021/05/12/business/gas-shortage-colonial-pipeline/index.html