รู้หรือไม่ – ไบเดน และอดีตปธน. บารัค โอบาม่า เคยร่วมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $7.8 แสนล้านในช่วงวิกฤตซับไพรม์
แม้จะมีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากว่าที่ปธน. โจ ไบเดน เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตรงจุดที่สุด คือการเคลียร์ปัญหาของโรค COVID-19 ซึ่งเป็นตัวการสำคัญให้หมดไป
อย่างดีที่สุดส่วนผสมระหว่างงบประมาณ 9 แสนล้านดอลลาร์ที่พึ่งผ่านการอนุมัติในเดือนธ.ค. รวมเข้ากับนโยบายใหม่ของ ไบเดน จะเป็นเพียงตัวช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจประคับประคองตัวไปจนถึงวันที่สามารถควบคุมโรคระบาดได้สำเร็จ
หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Analytics เชื่อว่า GDP ของสหรัฐฯอาจจะทะยานขึ้นกว่าที่ประเมินเอาไว้ หาก ไบเดน ได้รับงบประมาณก้อนใหญ่ตามแผนที่วางเอาไว้ภายในระยะเวลาไม่นานหลังการเข้ารับตำแหน่งผู้นำอย่างเป็นทางการ
หากแต่ปัญหาในตลาดแรงงานอาจยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร หลังมีผู้ตกงานในสหรัฐฯร่วม 22 ล้านคนในเดือนมี.ค.และเม.ย. ก่อนจะปิดฉากปี 2020 ด้วยรายงานยอดผู้ที่ตกงานเพิ่มอีก 140,000 ราย
แม้ระหว่างช่วงเวลานั้นจะมีการจ้างงานเกิดขึ้น 12.5 ล้านตำแหน่ง แต่ก็ยังคงหลงเหลือผู้ที่ว่างงานอีกราว 10 ล้านคน ซึ่งทาง Moody’s ก็ได้ทำนายว่า ตำแหน่งงานเหล่านั้นจะไม่ได้รับการเติมเต็มก่อนถึงปี 2022 แม้ทาง ไบเดน จะได้รับงบตามที่ตั้งเป้าเอาไว้
เป็นที่คาดหมายกันว่า โครงการแจกจ่ายวัคซีนในปัจจุบันยังมีปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการทำให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ได้กลับไปใช้ชีวิตตามวิถีปกติได้ภายในช่วงหน้าร้อนนี้ ซึ่งจะหมายถึงความล่าช้าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในการกลับคืนสู่ภาวะปกติด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ ไบเดน ได้ให้คำมั่นว่าจะยกระดับแผนการแจกจ่ายวัคซีนจากที่เขาเคยวิจารณ์ว่าเชื่องช้ากว่าที่ควร หากแต่ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางที่จะทำให้ได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ รวมถึงวิธีรับมือกับแรงต่อต้านของผู้ที่ยังไม่ประสงค์จะรับวัคซีน
นอกจากนี้ยังมีปัญหาความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั้งหลาย ตั้งแต่กิจการค้าปลีก, สายการบิน และธนาคารซึ่งกำลังพยายามวางแผนรับมือกับอนาคต หรือแม้แต่ธุรกิจที่เคยสร้างผลงานเป็นอย่างดีมาตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา
ที่ผ่านมามีบริษัทหลายแห่งจำต้องปิดตัวลงอย่างถาวรซึ่งจะส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้น เงินช่วยเหลือจากแผนการของ ไบเดน อาจช่วยพยุงให้ครอบครัวชาวอเมริกันเดินหน้าฝ่าวิกฤตต่อไปได้ แต่ก็ไม่สามารถซ่อมแซมความเสียหายทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา
วงเงินที่ ไบเดน นำเสนอมาล่าสุดอาจมีจำนวนน้อยกว่ารัฐบัญญัติกฎหมายประกันสุขภาพ (CARES Act) ของเมื่อเดือนมี.ค.ปีก่อน แต่เขาก็ได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกของงบประมาณที่เขาจะร้องขอต่อสภาคองเกรสในการใช้จ่าย
แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาจะได้รับเงินเต็มจำนวน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ตามที่ขอหรือไม่ โดยสถาบัน IHS Markit เชื่อว่างบประมาณที่จะผ่านการอนุมัติจากสภาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Moody’s ประเมินไว้แค่ราว 7.5 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามปัจจัยเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจน้อยกว่าสถานะของโรคระบาด และช่วงเวลาที่ผู้คนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
References :
https://edition.cnn.com/2021/01/18/economy/us-economy-biden-presidency/index.html